รถ EV ราคาไม่เกิน 2 ล้านยี่ห้อไหนดี ปี 2024!

รถยนต์ไฟฟ้าเป็นยานพาหนะทางเลือกที่มาพร้อมกับความสะดวกสบาย จากทั้งเรื่องของดีไซน์ การใช้งาน ฟีเจอร์และระบบอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ทำให้ผู้คนหันมาเลือกใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น ซันเดย์ก็เลยรวบรวมเอารถยนต์ไฟฟ้าราคาไม่เกิน 2 ล้านบาทมาไว้ให้เพื่อน ๆ ได้เลือกกันในบทความนี้

NETA V – เริ่มต้น 549,000 บ.

อัปเดตราคา NETA V ปี 2024 รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% เป็น City Car ที่ราคาน่ารัก น่าสนใจ เหมาะกับคนที่มีงบไม่มาก แต่อยากได้ความสะดวกสบายของรถยนต์ EV กับรถไฟฟ้า NETA V ที่ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 549,000 บาทเท่านั้น (NETA V-II รุ่น LITE ราคา 549,000 บาท, NETA V-II รุ่น SMART ราคา 569,000 บาท)

ข้อดีของรถยนต์ไฟฟ้า NETA V ตัวนี้คือมาพร้อมกับมอเตอร์ที่ให้กำลัง 95 แรงม้า แรงบิดสูงสุดถึง 150 นิวตันเมตร ใช้แบตเตอรี่แบบ Lithium-ion Battery ขนาด 40.7 kWh สามารถขับได้ระยะทางสูงสุด 384 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง มีช่องชาร์จทั้งแบบ Type C, DC และแบบ CCS Combo ซึ่งถือว่าครอบคลุมและสะดวกมาก ๆ 

นอกจากนี้ยังมีระบบความปลอดภัยที่ครบครัน เหมาะสำหรับทุกการขับขี่ ทุกสภาพถนน เช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ระบบกระจายแรงเบรกและระบบความคุมความเร็วของรถขณะลงทางลาดชัน เป็นต้น

บทความเกี่ยวกับ NETA V น่าอ่าน – สรุปให้แล้ว! อยากซื้อ Neta V ต้องรู้อะไรบ้าง?

BYD Dolphin – เริ่มต้น 699,900 บ.

มาต่อกันที่อีกหนึ่งรถยนต์ไฟฟ้ามาแรงปี 2024 อย่าง BYD Dolphin ที่ราคาของรุ่น Standard Range เริ่มต้นเพียง 699,900 บาทเท่านั้น (เดือนมิ.ย. 2024 นี้ทาง BYD RÊVER Thailand มีประกาศแคมเปญลดราคา Standard Range เหลือ 559,900 บาท และลดรุ่น Extended Range เหลือ 699,900 บาท) ซึ่งเป็นรถยนต์ EV รุ่นที่เหมาะกับการใช้งานในเมือง ขับไปทำงาน ซื้อของในชีวิตประจำวัน ไม่เน้นขับระยะไกล แล้วก็เหมาะกับคนที่ชอบรถยนต์ที่มีความน่ารัก แต่ดูทันสมัยโฉบเฉี่ยว เพราะการออกแบบได้รับแรงบันดาลใจมาจากโลมา ที่มีความโค้งมน และดูปราดเปรียว

ฟีเจอร์ที่น่าสนใจของรถยนต์ EV รุ่นนี้คือระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่เป็นแบบอิเล็กทรอนิกส์ Finger-Touched Eletronic Shift ทำให้กดเปลี่ยนเกียร์ได้ง่าย ๆ มีกล้องมองภาพรอบคัน มองเห็นถึง 90 องศา ปลอดภัยขณะขับขี่และถอยหลัง ระยะวิ่งสูงสุดถึง 490 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง แถมตัวรถยังมีให้เลือกมากถึง 4 สีด้วยกัน 

หากใครอยากอัปเกรดขึ้นมาอีกนิด ก็เลือกรุ่น Extended ได้ เพียงเพิ่มเงินอีกไม่มาก โดยจะได้ฟีเจอร์การชาร์จโทรศัพท์มือถือไร้สาย Sun Roof ขนาดใหญ่ ที่สามารถสั่งการด้วยเสียงได้ และยางรถแบบทูโทน เพิ่มความสวยงามให้กับตัวรถ

บทความเกี่ยวกับ BYD น่าอ่าน – 3 เรื่องต้องรู้! เลือกประกันรถยนต์ไฟฟ้า BYD ให้ตอบโจทย์

BYD ATTO 3 MY 24 – เริ่มต้น 899,900 บ.

BYD เป็นอีกหนึ่งยี่ห้อรถยนต์ไฟฟ้าที่หลาย ๆ คนไว้ใจเลือกซื้อมาใช้งาน เพราะนอกจากรูปร่างที่สวยงามดูทันสมัยแล้ว ก็ยังมีฟีเจอร์ที่ถูกใจอีกด้วย สำหรับ BYD ATTO 3 My 2024 ที่เพิ่งประกาศเปิดตัวในปี 2024 นี้ก็มีด้วยกันทั้งหมด 2 รุ่นย่อย ได้แก่ New BYD ATTO 3 Dynamic ราคาเริ่มต้นที่ 899,900 บาท และรุ่น New BYD ATTO 3 Premium ราคา 949,900 บาท

โดยมีความแตกต่างจาก BYD ATTO 3 รุ่นเดิมอยู่หลายด้านด้วยกัน อย่างเช่น หน้าจอการใช้งานจะมีขนาดใหญ่กว่าเดิมจากขนาด 8 นิ้ว เพิ่มเป็น 15.6 นิ้ว พร้อมกับอัปเดตระบบซอฟต์แวร์ใหม่ ภายในห้องโดยสารจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินเข้ม (Dark Blue) ตัดกับสีดำ ดูหรูหราและสปอร์ตมากกว่าเดิม ร้องคาราโอเกะบนรถได้ 

ในด้านของแบตเตอรี่ มีความจุ 50.25 kWh สามารถวิ่งได้ระยะทางได้สูงสุดถึง 410 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC มีอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 7.9 วินาที แถมยังมีกล้องมองภาพรอบคัน 360 องศาและสัญญาณเตือนรอบคัน 6 จุด 

เรียกได้ว่าถึงจะมีราคาสูงกว่ารถยนต์ EV สองยี่ห้อแรกที่นำเสนอไป แต่ก็ได้ฟีเจอร์และระบบใหม่ ๆ รวมถึงการตกแต่งที่อัปเกรดขึ้นมาคุ้มค่ากับราคาสุด ๆ

BYD Seal – เริ่มต้น 1,325,000 บ.

BYD Seal เป็นอีกหนึ่งรุ่นหลักที่ออกรุ่นย่อยมาใหม่ในปี 2024 นี้ถึง 3 รุ่นด้วยกัน ได้แก่

• Seal Dynamic RWD 61.4 kWh ราคาเริ่มต้นที่ 1,325,000 บาท
  มีแรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 310 นิวตันเมตร ตัวแบตเตอรี่เป็นแบบ Blade Battery มีความจุ 61.4 kWh ให้ระยะวิ่งสูงสุด 510 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง 
• Seal Premium RWD 82.5 kWh ราคาเริ่มต้นที่ 1,449,000 บาท
  มีแรงบิดสูงสุด 360 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ Blade Battery ขนาด 82.5 kWh ซึ่งมีความจุมากกว่ารุ่น Dynamic ทำให้ระยะทางวิ่งสูงสุดมาถึง 650 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง
• Seal Performance AWD 82.5 kWh ราคาเริ่มต้นที่ 1,599,000 บาท
  รุ่นนี้จะมีมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanent Magnet Synchronous มากถึง 2 ตัว มอเตอร์หน้ามีแรงม้า 310 นิวตันเมตร และมอเตอร์หลังมีแรงม้า 360 นิวตันเมตร มีแรงบิดสูงสุด 670 นิวตันเมตร ชาร์จเต็มหนึ่งครั้งวิ่งได้สูงสุด 580 กิโลเมตร

โดยที่ทุกรุ่นมีระบบขับเคลื่อนด้วยล้อหลัง รับรองการชาร์จทั้งแบบ AC และ DC นอกจากนี้ก็ระบบอัตโนมัติที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นระบบแจ้งเตือนจำกัดความเร็วอัจฉริยะ ระบบเบรกอัตโนมัติ ระบบป้องกันการลื่นไหลและอีกมากมาย

บทความเกี่ยวกับ BYD น่าอ่าน – เปรียบเทียบ BYD Seal กับ Tesla Model 3 ซื้อคันไหนถึงจะถูกใจ?

MG EP Plus – เริ่มต้น 998,000 บ.

สำหรับ MG EP Plus เอง มีราคาเริ่มต้นที่ 998,000 บาท หากหักส่วนลดจากมาตรการส่งเสริมจากทางภาครัฐแล้ว ก็จะเหลืออยู่ที่ 771,000 บาทเท่านั้น ซึ่งถือว่าราคาดีมาก ๆ เมื่อเทียบกับคุณภาพรถ Sunday เข้าไปอ่านจากเว็บไซต์ของ MG มา เห็นเขาวิเคราะห์รายจ่ายการชาร์จไว้ให้ด้วยว่าชาร์จเต็มแค่ 200 บาทเท่านั้น เมื่อชาร์จผ่าน MG HOME CHARGER 

นอกจากนี้ก็ยังมีการรับประกันแบตเตอรี่นานถึง 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร หนึ่งในสิ่งที่พูดถึงไม่ได้น่าจะต้องเป็นเรื่องภายในห้องโดยสาร ที่มีการออกแบบมาอย่างดี เก้าอี้โดยสารจะเป็นแบบ Ergonomic รองรับสรีระได้ ขับรถนาน ๆ ก็ยังสบายตัวอยู่ มีพื้นที่เก็บของค่อนข้างเยอะ แล้วก็ระบบความปลอดภัยอย่างระบบตรวจสอบความผิดปกติของยาง กล้องมองหลังพร้อมสัญญาณเตือน และอื่น ๆ อีกเพียบ 

ใครที่มองหารถยนต์ EV คันแรก ที่ใช้งานได้หลากหลาย ขับใกล้ไกลก็สะดวก ระยะทางสูงสุดต่อการชาร์จหนึ่งครั้งมากถึง 380 กิโลเมตร แนะนำว่ารุ่นนี้น่าจะตอบโจทย์ไม่แพ้รุ่นอื่น ๆ เลย 

บทความเกี่ยวกับ MG น่าอ่าน – ก่อนซื้อรถไฟฟ้า MG ต้องรู้อะไรก่อนบ้าง?

ORA Good Cat – เริ่มต้น 799,000 บ.

ORA Good Cat รถยนต์ไฟฟ้าราคาไม่เกิน 2 ล้านบาทที่ครองใจคนรักแมวเหมียว ด้วยดีไซน์น่ารัก สีสันสดใส พร้อมกับฟังก์ชั่นจัดเต็ม สำหรับ ORA Good Cat ในปี 2024 นี้ มีออกมาวางจำหน่ายด้วยกัน 3 รุ่น คือ ORA Good Cat PRO ราคาเริ่มต้น 799,000 บาท รุ่นที่สองคือ Good Cat ULTRA ราคาเริ่มต้น 899,000 บาท และ Good Cat GT ราคาเริ่มต้นที่ 1,099,000 บาท โดยทุกรุ่นประกอบในประเทศไทย มีการเปลี่ยนแท่นชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สายให้เป็น 50W มีการเพิ่มช่องชาร์จสำหรับด้านหน้าห้องโดยสาร 

แบตเตอรี่มีการเปลี่ยนไปใช้ของ SVOLT ที่ความจุ 57.7 kWh มีระยะวิ่งสูงสุดอยู่ที่ 480 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง มีระบบการขับเคลื่อนด้วยล้อหน้าสำหรับโหมดการขับขี่ทั้งสามรุ่นนี้ จะสามารถเลือกได้จากหน้าจอกลางภายในห้องโดยสารเลย มีระบบควบคุมเบรกมือไฟฟ้า อีกทั้งยังมีระบบที่ช่วยเรื่องความปลอดภัยอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ระบบช่วยลงทางลาดชัน HDC ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESC ระบบช่วยจอดอัตโนมัติ 3 รูปแบบและอีกมากมาย

ด้วยขนาดของรถยนต์ยี่ห้อนี้ที่ไม่ใหญ่มาก จึงเหมาะกับคนที่มองหารถยนต์ไฟฟ้า 2024 ที่ราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท สามารถซื้อแล้วผ่อนได้สบาย เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน 

บทความเกี่ยวกับ ORA Good Cat น่าอ่าน – ซื้อ ORA Good Cat ให้ตอบโจทย์ เพียงเข้าใจ 3 เรื่องนี้!

MG4 Electric ICON – เริ่มต้น 799,900 บ.

สำหรับ MG4 Electric ICON รุ่น Standard Range (D) และ Long Range (X) ที่ประกอบในไทย ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับคนที่กำลังมองหารถยนต์ไฟฟ้าราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท โดยมีราคาเริ่มต้นที่เจ็ดแสนกว่าบาทเท่านั้น 

รุ่น Standard Range จะมีขนาดแบตเตอรี่ที่มีความจุน้อยกว่า มีระยะทางวิ่งได้สูงสุด 423 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง 170 แรงม้า เป็นระบบการขับเคลื่อนด้วยล้อหลัง มีการออกแบบที่ให้ความสำคัญกับ Aero Dynamic เพื่อเสริมสมรรถภาพในการขับขี่ให้ดีมากยิ่งขึ้น 

รุ่น Long Range (X) จะสามารถวิ่งได้ระยะทางสูงสุด 540 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง แรงม้าสูงถึง 435 แรงม้า และรองรับการชาร์จสูงสุดถึง 140 W แน่นอนว่ามีการออกแบบที่ให้ความสำคัญกับ Aero Dynamic เช่นเดียวกัน เหมาะกับคนที่ชอบรถเร็ว ๆ แรง ๆ และมีความทันสมัย 

นอกจากนี้แล้ว MG4 Electric ICON ทุกรุ่นก็ยังมีระบบความปลอดภัยที่ครอบคลุมทุกการใช้งาน เช่น กล้องมองรอบทิศทาง 3 มิติ มองเห็นรอบคัน 360 องศา มีระบบช่วยซัพพอร์ทการขับและมีระบบความปลอดภัยรอบคัน 

New MG ZS EV – เริ่มต้น 829,900 บ.

สำหรับแฟน ๆ MG ต้องบอกว่า New MG ZS EV เป็นรถยนต์ไฟฟ้าอีกหนึ่งรุ่นที่น่าจับตามอง เพราะมีการอัปเกรดดีไซน์ให้มีความทันสมัย เหมาะสมกับการเป็นรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น กระจังหน้าและกันชนก็ถูกออกแบบด้วยดีไซน์ใหม่ ดูมีสไตล์มากกว่าเดิม พร้อมกว่า 20  เทคโนโลยีความปลอดภัยที่จัดให้มาเต็ม ๆ เพื่อทุกการขับขี่

New MG ZS EV มีแบตเตอรี่ความจุ 20.3 kWh ขับขี่ระยะทางสูงสุด 403 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง แรงบิดสูงสุดถึง 280 นิวตันเมตร และกำลังสูงสุด 177 แรงม้า สามารถชาร์จได้ทั้งแบบปกติและแบบ Fast Charge พร้อมสถานีชาร์จทั่วไทย 

นอกจากนี้ก็มีการเพิ่มระบบอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เช่น เพิ่มเครื่องเสียงที่รองรับ iOS CarPlay มีระบบชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย เพิ่มช่องเสียบ USB ให้มากขึ้น พร้อมกล้องรอบคัน 360 องศา ใครที่มองหารถยนต์สมรรถภาพดี ๆ ในราคาที่ไม่แพงมาก คันนี้ก็ถือว่าเหมาะเลยทีเดียว ไม่ว่าจะขับในชีวิตประจำวันหรือทางไกลก็สบายใจแน่นอน

Volvo EX30 – เริ่มต้น 1,590,000 บ.

Volvo EX30 เป็นหนึ่งในรถยนต์ไฟฟ้า SUV ระดับพรีเมียมจากค่าย Volvo โดดเด่นด้วยดีไซน์การออกแบบสไตล์สแกนดิเนเวียที่ดูหรูหราในทุกมุมมอง ตอบโจทย์การใช้งานอย่างหลากหลาย ตั้งแต่เป็นรถยนต์สำหรับใช้งานทั่วไป ออกต่างจังหวัด ไปจนถึงเป็นรถยนต์สำหรับครอบครัว

Volvo EX30 ที่วางจำหน่ายในประเทศไทยขณะนี้จะมีด้วยกันทั้งหมด 3 รุ่น ประกอบไปด้วย “Core – Single Motor Extended Range” “Ultra – Single Motor Extended Range” และ “Ultra – Twin Motor Performance” โดยทั้ง 3 รุ่นจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าใช้ระบบขับเคลื่อนด้วยล้อหลังแบบ RWD มาพร้อมกับระบบช่วยในการขับขี่ครบครัน ทั้งการแจ้งเตือนเมื่อพวงมาลัยรถออกนอกเลน ระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผัน ไปจนถึงระบบช่วยจอดและกล้องช่วยจอดพร้อมจอแสดงผลแบบ 360 องศา

Volvo EX30 ทั้ง 3 รุ่นจะมีความแตกต่างกันในเรื่องของจำนวนมอเตอร์ไฟฟ้า รวมถึงระยะทางการขับขี่ โดยรุ่น “Core – Single Motor Extended Range” และ “Ultra – Single Motor Extended Range” จะมาพร้อมกับมอเตอร์ 1 ตัว อัดแน่นไปด้วยขุมพลังสูงถึง 272 แรงม้า สามารถขับเคลื่อนได้ 480 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง ในขณะที่รุ่น “Ultra – Twin Motor Performance” จะมาพร้อมกับมอเตอร์ 2 ตัว ขุมพลังสูงถึง 428 แรงม้า ขับเคลื่อนได้ไกล 460 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง

Tesla Model 3 – เริ่มต้น 1,599,000 บ.

สำหรับหนึ่งในรถยนต์ไฟฟ้าที่หลาย ๆ คนอยากได้อย่าง Tesla เองก็มีรุ่นที่ราคาต่ำกว่า 2 ล้านบาทที่เพิ่งออกมา ได้แก่ Tesla Model 3 รุ่น RWD ราคาเริ่มต้น 1,599,000 บาท และ รุ่น Long Range AWD ราคาเริ่มต้นที่ 1,899,000 บาท

โดย Tesla Model 3 ทุกรุ่นจะมีกุญแจแบบคีย์การ์ด มีล้อรถยนต์แบบ Aero Wheels ที่ช่วยลดแรงต้านของลมได้ดี เพิ่มความเร็วให้กับรถยนต์ได้ในขณะขับขี่ และทุกคันจะมีระบบ Auto Pilot ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Tesla เอาไว้พร้อมฟังก์ชั่นอย่างการปรับความเร็วตามรถคันหน้าได้ ระบบตรวจจับสิ่งรอบด้าน รวมถึงลักษณะของการจราจร และมี Autosteer ที่ช่วยทำให้รถอยู่ในเลนได้อย่างปลอดภัย ซึ่งสามารถซื้อแพ็กเพจเพื่อเพิ่มฟังก์ชั่นในการใช้งานได้

เหมาะกับคนที่มองหารถยนต์ไฟฟ้าราคาไม่เกิน 2 ล้านที่เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน สำหรับคนที่มีครอบครัว และเดินทางไกลเป็นบางครั้ง

บทความเกี่ยวกับ Tesla น่าอ่าน – ประกันชั้น 1 Tesla ราคาเท่าไร คิดเบี้ยจากอะไรบ้าง?

เลือกรถยนต์ไฟฟ้าแล้ว อย่าลืมเลือกซื้อประกันรถยนต์ไฟฟ้าชั้น 1 ไว้ด้วยนะ!

ถึงแม้ว่ารถยนต์ไฟฟ้าจะมีฟีเจอร์การใช้งานที่มาพร้อมกับความปลอดภัยที่ค่อนข้างสูง แต่เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันอาจจะเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ดังนั้นการเลือกซื้อประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้าที่เหมาะสมกับลักษณะการใช้งานและเหมาะกับรถยนต์เอาไว้ ก็ถือว่าช่วยคลายกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายและการซ่อมแซมได้เป็นอย่างดี

ซื้อประกันรถยนต์ไฟฟ้าออนไลน์ได้เองง่ายๆ บนเว็บไซต์ easysunday.com พร้อมปรับเปลี่ยนความคุ้มครองได้ตามต้องการ ไม่ต้องจ่ายค่าเบี้ยแพงเกินจำเป็น! แอด LINE @easysunday หากต้องการพูดคุยกับแอดมิน