รถ EV มีแนวโน้มถูกลง ค่าประกันรถยนต์ไฟฟ้าจะถูกลงด้วยไหม?
นับตั้งแต่เริ่มมีการใช้งานอย่างแพร่หลาย จะเห็นได้ว่า “รถยนต์ไฟฟ้า” ได้มีการปรับราคาลงอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากการแข่งขันที่รุนแรงในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า การอุดหนุนจากรัฐบาล การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ไปจนถึงต้นทุนการผลิตที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง
เมื่อราคารถไฟฟ้ามีแนวโน้มปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องเช่นนี้ เชื่อว่าใครหลายคนเองก็อดสงสัยไม่ได้ว่า หากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้ต่อไป ประกันรถไฟฟ้าจะปรับลดราคาลงไปด้วยหรือไม่ มาหาคำตอบในบทความนี้กัน

ปัจจัยที่ส่งผลกับค่าประกันรถยนต์ไฟฟ้ามีอะไรบ้าง?
จริงอยู่ที่มูลค่าของรถยนต์ไฟฟ้าเป็นหนึ่งในตัวแปรสำคัญที่ส่งผลต่อค่าประกันรถยนต์ไฟฟ้า แต่นอกจากราคาของรถไฟฟ้าที่แตกต่างกันแล้ว ยังมีอีก 5 ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อเบี้ยประกันรถไฟฟ้าด้วยเช่นกัน ซึ่งแต่ละปัจจัยจะมีรายละเอียดที่แตกต่างกัน ดังนี้
1. อะไหล่สำหรับใช้ซ่อมบำรุง
แม้จะมีการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง แต่อะไหล่รถยนต์ไฟฟ้ายังคงมีราคาสูง เมื่อเทียบกับรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน นอกจากนี้ รถยนต์ไฟฟ้าแต่ละรุ่นยังมีเงื่อนไขการเปลี่ยนอะไหล่ที่ไม่เหมือนกัน เช่น อะไหล่บางชิ้นสามารถซ่อมแซมเบื้องต้นได้ ในขณะที่บางชิ้นต้องเปลี่ยนอะไหล่ใหม่ แม้จะมีความเสียหายเล็กน้อยก็ตาม
ที่สำคัญ อะไหล่รถยนต์ไฟฟ้ายังมีความซับซ้อนและเฉพาะตัวสูง จึงทำให้มีราคาสูงกว่าอะไหล่รถยนต์ทั่วไป โดยเฉพาะแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าที่เป็นอะไหล่ชิ้นที่แทบจะมีราคาสูงเกิน 80% ของราคารถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งหากเกิดความเสียหายแม้เพียงเล็กน้อย อาจต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ทั้งลูก ด้วยเหตุนี้ จึงเป็นหนึ่งในเหตุผลว่าทำไมประกันรถไฟฟ้าถึงมีราคาสูงกว่าประกันรถยนต์ทั่วไป
2. ความยากง่ายในการซ่อมแซม
นอกจากอะไหล่ที่มีมูลค่าสูงแล้ว การซ่อมแซมรถยนต์ไฟฟ้ายังต้องอาศัยความเชี่ยวชาญและความเข้าใจเฉพาะทาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเข้าใจในระบบปฏิบัติการ การขับเคลื่อน รวมถึงระบบการทำงานทั้งหมดของรถยนต์ไฟฟ้า
ในปัจจุบันนี้ ช่างที่มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้า รวมถึงศูนย์ให้บริการยังคงมีจำกัด หากประกอบกับมูลค่าของอะไหล่ที่สูงกว่ารถยนต์ทั่วๆ ไปแล้ว จึงทำให้การซ่อมแซมรถยนต์ไฟฟ้าในแต่ละครั้งมีค่าใช้จ่ายที่สูง จนส่งผลให้เบี้ยประกันรถไฟฟ้ามีราคาที่สูงขึ้นตามไปด้วย
3. มูลค่าของรถยนต์
แม้จะมีการปรับราคารถไฟฟ้าลง แต่หากเทียบกับรถยนต์ทั่วไปแล้ว รถยนต์ไฟฟ้าก็ยังคงมีราคาที่สูงกว่า ทั้งยังมีความเสี่ยงสูงในเรื่องของค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุง จึงทำให้ค่าประกันรถยนต์ไฟฟ้าสูงขึ้นด้วยเช่นกัน
4. ความคุ้มครองของประกันรถยนต์ EV
ประกันรถไฟฟ้าให้ความคุ้มครองเทียบเท่ากับประกันรถยนต์ชั้น 1 ซึ่งผู้เอาประกันสามารถเลือกปรับแต่งความคุ้มครองที่เหมาะสมกับตัวเองได้ ทั้งในส่วนของทุนประกัน ความเสียหายส่วนแรก ความคุ้มครองตัวรถ บุคคลในรถ และคู่กรณี ไปจนถึงความคุ้มครองเสริมอื่นๆ ที่ต้องการ ทำให้เบี้ยประกันรถไฟฟ้าของผู้เอาประกันแต่ละคนแตกต่างกันนั่นเอง
5. ประวัติและพฤติกรรมผู้ขับขี่
นอกจากความคุ้มครองที่ต้องการแล้ว “ประวัติและพฤติกรรมการขับขี่” ของทุกคนที่ถูกระบุชื่อไว้ในกรมธรรม์ ยังมีส่วนสำคัญที่ส่งผลต่อเบี้ยประกันรถไฟฟ้าด้วยเช่นกัน
ตามเกณฑ์ใหม่ประกันรถยนต์ไฟฟ้าที่ประกาศบังคับใช้วันที่ 1 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา สำนักงานคปภ. ระบุให้ผู้เอาประกันจะต้องระบุชื่อผู้ขับขี่สูงสุด 5 คน โดยหากใครมีประวัติการขับขี่ที่สุ่มเสี่ยง อาจทำให้ต้องจ่ายเบี้ยประกันสูงขึ้นในปีหน้า แต่หากมีประวัติที่ดี ไม่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น ก็มีความเป็นไปได้ที่จะได้รับส่วนลดเบี้ยประกันในปีถัดไปด้วยเช่นกัน

ราคารถไฟฟ้ามีแนวโน้มถูกลง เบี้ยประกันรถไฟฟ้าจะมีราคาถูกลงไหม?
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยมียอดขายเติบโตสูงขึ้นมากกว่า 300% สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของรถยนต์ไฟฟ้า ไปจนถึงความต้องการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยที่เพิ่มสูงขึ้น
ในขณะเดียวกัน ราคารถไฟฟ้ายังมีการปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากนโยบายสิทธิประโยชน์ด้านภาษีและเงินอุดหนุนจากทางรัฐบาล แผนการตั้งโรงงานผลิตและประกอบรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศ ไปจนถึงความต้องการรถยนต์ในท้องตลาดด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ดี “ราคารถไฟฟ้า” ไม่ได้เป็นเพียงปัจจัยเดียวที่ส่งผลต่อค่าเบี้ยประกันรถยนต์ไฟฟ้าเท่านั้น แต่ยังมีความเสี่ยงอื่นๆ ที่ต้องพิจารณาร่วมกัน หนึ่งในนั้น คือ “ต้นทุนการซ่อมบำรุง” ที่สูงกว่ารถยนต์ทั่วไป ทั้งในเรื่องของอะไหล่ที่มีมูลค่าสูง รวมไปถึงศูนย์ซ่อมบำรุงและช่างผู้เชี่ยวชาญที่มีอยู่จำกัด
แต่ด้วยความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาจทำให้ประเทศไทยมีความพร้อมในการซ่อมบำรุงรถยนต์ไฟฟ้าที่สูงขึ้น ซึ่งอาจมีส่วนทำให้ต้นทุนในการซ่อมบำรุงรถยนต์ไฟฟ้าถูกลง และนำไปสู่ค่าประกันรถยนต์ไฟฟ้าที่ถูกลงด้วยเช่นกัน โดยในอนาคตอาจมีความเป็นไปได้ว่า ประกันรถไฟฟ้าจะมีราคาใกล้เคียงกับประกันรถยนต์ชั้น 1 ทั่วไป
ในปัจจุบันนี้ ทางสำนักงานคปภ. และบริษัทประกันภัยยังคงมีการปรับปรุง พัฒนา และยกระดับเงื่อนไขความคุ้มครอง รวมถึงออกข้อบังคับเกี่ยวกับประกันรถไฟฟ้า เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้งานอย่างต่อเนื่อง
รู้แบบนี้แล้ว อย่าลืมติดตามข่าวสารการอัปเดตเงื่อนไข ความคุ้มครอง ราคารถไฟฟ้าในท้องตลาด รวมถึงข้อบังคับประกันรถไฟฟ้าอื่นๆ ที่อาจมีการเปลี่ยนแปลงในอนาคต เพื่อช่วยให้วางแผนซื้อรถยนต์ไฟฟ้าได้อย่างสะดวก และติดตามค่าประกันรถยนต์ไฟฟ้าได้ง่ายยิ่งขึ้น
สามารถเช็คค่าเบี้ยประกันรถยนต์ไฟฟ้ากับซันเดย์ได้ง่าย ๆ ในบทความ รวมครบ! ความคุ้มครองและเบี้ยประกันรถยนต์ไฟฟ้าซันเดย์ เพื่อตรวจสอบความคุ้มครองที่เหมาะสมในราคาที่คุ้มค่า อย่าลืมติดตามข่าวสารเกี่ยวกับการอัปเดตเงื่อนไข ความคุ้มครอง และข้อบังคับต่าง ๆ ที่อาจมีการเปลี่ยนแปลงในอนาคต เพื่อช่วยให้วางแผนซื้อและดูแลรถยนต์ไฟฟ้าได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น

