อยากซื้อ BYD Seal แต่ไม่รู้จะซื้อรุ่นไหนดี มาเปรียบเทียบกันที่นี่!
ในกลุ่มของรถยนต์แบบ Mid-Size Car หรือ D-Segment ต้องบอกว่า BYD Seal เป็นรถ EV ราคาดีที่มาแรงมากจริง ๆ โดยเฉพาะรถ BYD Seal ในปี 2024 ที่ออกรุ่นใหม่มาทั้งหมด 3 รุ่น พร้อมราคาน่าประทับใจไม่เกินล้านหกเท่านั้น ใครที่มองหารถยนต์ EV ขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง พร้อมบรรทุกสิ่งของได้อย่างสะดวกสบาย ต้องห้ามพลาดกับ BYD Seal เหล่านี้ ไปดูกันเลยว่าจะมีรุ่นไหน และมีฟีเจอร์ต่างกันอย่างไรบ้าง
BYD Seal มีกี่รุ่น?
BYD Seal มีทั้งหมด 3 รุ่นด้วยกัน ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 1,300,000 บาท ไปจนถึงรุ่นท็อปที่ราคาไม่เกิน 1,600,000 บาท โดยแต่ละรุ่นมาพร้อมกับหลากหลายสีสันและฟีเจอร์ที่น่าสนใจ ให้คุณได้เลือกซื้อตามความชอบและจุดประสงค์ของการใช้งาน โดยทั้ง 3 รุ่นที่ว่ามีดังต่อไปนี้
- รุ่น Dynamic RWD ราคา 1,325,000 บาท
- รุ่น Premium RWD ราคา 1,449,000 บาท
- รุ่น AWD Performance ราคา 1,599,000 บาท
ต้องบอกว่าข้อดีของ BYD Seal คือมีการออกแบบที่ดูทันสมัยและไม่เหมือนใครในตลาด ขึ้นชื่อว่า BYD Seal เป็นพรีเมี่ยม สปอร์ดซีดานที่น่าจับตามองมาก ๆ ในตลาดไทยเลยทีเดียว ใครที่มองหารถยนต์ไฟฟ้า EV ที่ดูเท่ มีความสปอร์ตนิด ๆ คันใหญ่ นั่งสบาย เดี๋ยวซันเดย์จะพาไปดูรายละเอียดของแต่ละรุ่นกัน
BYD Seal รุ่น Dynamic RWD
ราคาอยู่ที่ประมาณ 1,325,000 บาท
สำหรับ BYD Seal รุ่น Dynamic RWD ที่ถือว่าเป็นรุ่น Standard นี้มาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 204 แรงม้า แบตเตอรี่ความจุ 61.4 kWh ที่สามารถขับขี่ได้ระยะทางสูงสุดประมาณ 510 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง (มาตรฐาน NEDC) ด้วยความจุของแบตเตอรี่ประมาณนี้ จึงทำให้เหมาะกับคนที่ขับขี่ในเมืองเป็นประจำ หรืออาจจะมีขับขี่ไปเที่ยใกล้ ๆ อยู่บ่อย ๆ ไม่เน้นขับระยะไกล BYD Seal รุ่นนี้มีสีให้เลือกเป็นสีขาวและดำ
BYD Seal รุ่น Premium RWD
ราคาอยู่ที่ประมาณ 1,449,000 บาท
ขยับกันขึ้นมาอีกนิดสำหรับ BYD Seal รุ่น Premium RWD ที่มาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 313 แรงม้า และแบตเตอรี่ 82.5 kWh ที่ถือว่าจุใจ ขับได้ระยะทางสูงสุดประมาณ 650 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC ทำให้เหมาะสำหรับคนที่เน้นการขับขี่ระยะไกลมากกว่า อาจจะมีแวะชาร์จบ้าง แต่ถือว่าเดินทางได้สบาย ๆ แน่นอน
อีกอย่างคือ BYD Seal รุ่น Premium RWD จะมาพร้อมกับการตกแต่งภายในห้องโดยสารที่มีความหรูหรามากกว่ารุ่น Dynamic เช่น การหุ้มเบาะด้วยหนังแบบพิเศษ และมีระบบจดจำการปรับเบาะที่นั่งสำหรับคนขับด้วย จาก BYD Seal รีวิวหลาย ๆ ที่ก็มองว่ารุ่นนี้เหมาะกับการใช้งานหลากหลายแบบมากที่สุด ความแรงไม่มากไม่น้อยจนเกินไป ขับขี่ได้สบาย ๆ มีสีขาว ดำและเทาให้เลือก
BYD Seal รุ่น AWD Performance
ราคาอยู่ที่ประมาณ 1,599,000 บาท
สุดท้ายคือรุ่น AWD Performance ที่ถือว่าเป็นตัวท็อปในซีรี่ส์ BYD Seal รีวิวที่ออกมาส่วนมากคือบอกว่าคันนี้เร็วแรงสะใจสุด ๆ เหมาะกับคนที่ชอบเครื่องแรง ๆ แต่ถ้าใช้ขับในเมืองทั่ว ๆ ไปอาจจะไม่ได้ใช้รถตามสรรถภาพมากนัก แต่ถ้าใครมองหารถที่ขับระยะไกลไปเที่ยวได้แบบมันส์ ๆ คันนี้ถือว่าเหมาะสุด ๆ
ตัวนี้จะมาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 530 แรงม้า และแบตเตอรี่ความจุสูงถึง 82.5 kWh ซึ่งทำให้ขับขี่ได้สูงสุดถึง 580 กิโลเมตร โดยมีระบบที่ช่วยประหยัดและกู้พลังงานให้กับตัวรถยนต์ได้เป็นอย่างดี รุ่นนี้จะมีสีให้เลือกเยอะ ได้แก่สีขาว สีดำ สีเทาและน้ำเงิน
ฟีเจอร์ของรถ BYD Seal
ต้องบอกว่ารถ BYD Seal ทั้ง 3 รุ่นมีฟีเจอร์หลาย ๆ ด้านที่คล้ายคลึงกัน ส่วนที่เหมือนกันจะได้แก่
- Blade Battery ที่เป็นลักษณะแบตเตอรี่เฉพาะตัวของ BYD ซึ่งมีความบางและกินพื้นที่น้อยลงกว่าแบตเตอรี่ทั่ว ๆ ไป และมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
- ใช้การขับเคลื่อนล้อหลัง (RWD) หมดห่วงเวลาที่จะต้องบรรทุกของหนัก ๆ สมรรถนะสูงในทุกการขับขี่
- รองรับการชาร์จเร็วด้วยกระแสไฟฟ้าแบบตรง หรือ DC สามารถชาร์จไฟจาก 30% ถึง 80% ได้ในเวลา 30 นาทีเท่านั้น
- รองรับการชาร์จด้วยกระแสไฟสลับหรือแบบ AC แบบ Type 2 รองรับกำลังไฟสูงสุดได้ถึง 7 kW
- มีเทคโนโลยี V2L (Vehicle-to-load) ซึ่งสะดวกสบายกับการชาร์จไฟให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่น ๆ
- ระบบ Regenerative Braking ที่ช่วยประหยัดพลังงานได้มากขึ้น
- ทุกรุ่นมีพื้นที่จัดเก็บของสูงถึง 400 ลิตรและยังมีบริเวณด้านหน้าที่จุของได้อีก 53 ลิตรด้วย
นอกจากนี้แล้ว BYD Seal ทั้ง 3 รุ่นก็มีข้อแตกต่างกันออกไปเล็กน้อยได้แก่
- สีของรถยนต์มีให้เลือกต่างกัน สำหรับ DYNAMIC จะมีสีขาวและดำ ส่วน PREMIUM จะมีสีขาว ดำและเทา และรุ่น PREMIUM จะเป็นขาว ดำ เทาและน้ำเงิน
- รุ่น PREMIUM จะใช้วัสดุภายในห้องโดยสารที่มีความหรูหราขึ้น
บทความน่าอ่าน > เปิดเหตุผล? ทำไมแบตเตอรี่ BYD ถูกลง 40%
เลือกซื้อ BYD Seal รุ่นไหนดี?
สำหรับใครที่ยังตัดสินใจไม่ได้ ซันเดย์แนะนำว่าให้ลองหา BYD Seal รีวิวจากที่ต่าง ๆ ดูก่อน หรืออาจจะลองเข้าไปทดลองขับเพื่อเปรียบเทียบความชอบได้ที่โชว์รูมทั่วประเทศ เพราะทั้ง 3 รุ่นนี้มีความใกล้เคียงกันในหลาย ๆ ด้าน จะแตกต่างกันที่แรงม้า ฟีเจอร์และวัสดุบางส่วนเท่านั้น
นอกจากนี้ก็อย่าลืมเลือกซื้อรถยนต์ไฟฟ้า EV ที่เหมาะกับการใช้งานของตัวเอง เพื่อความคุ้มค่าในการใช้งาน และเมื่อนึกถึงการเลือกซื้อประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้าแล้ว ก็ต้องบอกว่าทั้ง 3 รุ่นอาจจะมีราคาที่แตกต่างกันออกไปตามฟีเจอร์ด้วย
เลือกซื้อประกันรถยนต์ไฟฟ้า EV ให้ถูกใจ เลือกกับซันเดย์
เปรียบเทียบราคาและฟีเจอร์ของรถแต่ละรุ่นแล้ว อย่าลืมมองหาประกันภัยรถยนต์ดี ๆ เอาไว้ด้วย เพราะนี้คือค่าใช้จ่ายที่จะเพิ่มเติมเข้ามา โดยการมีประกันรถยนต์เอาไว้จะช่วยทำให้คุณอุ่นใจมากขึ้นเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันหรือเรื่องฉุกเฉิน จะได้มีคนช่วยดูแลตลอดการซ่อมแซม ลองเข้ามาเลือกประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้ากับซันเดย์ก่อนได้ ซื้อง่ายผ่อน 0% นาน 6 เดือน
บทความน่าอ่าน > อัปเดต! เกณฑ์ใหม่ประกันรถยนต์ EV จากคปภ. ปี 2567
อยากใช้ซูเปอร์แอปฯ Jolly by Sunday ต้องทำอย่างไร?
หากคุณเป็นอีกคนที่อยากใช้ซูเปอร์แอปฯ Jolly by Sunday แอปประกันที่ตอบโจทย์ความต้องการทุกอย่างได้ครอบคลุมแบบนี้ สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันมาใช้งานได้ในทันที ผ่าน App Store หรือ Google Play Store แล้วอย่าลืมติดตามข่าวสารและโปรโมชันดีๆ จากซันเดย์ในทุกๆ วันของคุณ
กดติดตาม Facebook page Sunday Thailand เพื่อรับข้อมูลดีๆ เกี่ยวกับประกันสุขภาพกันไว้ได้เลย!