หน้าหลัก เรื่องราวรอบตัว 8 นิสัยคน Toxic เป็นยังไง พร้อมวิธีรับมือ

8 นิสัยคน Toxic เป็นยังไง พร้อมวิธีรับมือ

คน Toxic รับมือยังไง

เพราะความสุขของชีวิตเริ่มต้นจากสุขภาพกายและใจที่แข็งแรงไปพร้อมกัน แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม หลาย ๆ ครั้งชีวิตก็มักพัดพาคนนิสัยเป็นพิษ หรือ Toxic People เข้ามาแวะเวียนในชีวิตประจำวันจนทำให้ สุขภาพใจค่อย ๆ อ่อนแอลงไปโดยไม่ทันตั้งตัว

แล้ว คน Toxic หรือ กลุ่ม Toxic People ที่ว่านี้คือคนแบบไหน มีนิสัยใจคอเป็นอย่างไร ควรรับมือคน Toxic อย่างไรให้เหมาะสมและดีต่อใจของเรามากที่สุด บทความนี้มีคำตอบ!


เลือกอ่านประเด็นที่สนใจ:


Toxic People คือคนแบบไหน?

Toxic-People-คือคนแบบไหน

แม้ใครหลายคนจะพร่ำสอนว่าอย่าเอาความสุขของตัวเองไปผูกติดไว้กับ ‘คนอื่น’ แต่ในหลาย ๆ ครั้งก็ยากที่ปฏิเสธเช่นกันว่า ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด รู้ตัวหรือไม่ การอยู่ใกล้ ‘คนอื่นที่มีนิสัยเป็นพิษ’ หรือ ‘Toxic People’ ก็สามารถสร้างความทุกข์ใจ จนทำให้แบ่งแยกความสุขของตัวเองออกมาไม่ได้ 100%

โดย Toxic People คือ คนที่มีพฤติกรรมทำลายความรู้สึกของคนรอบข้าง ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวนี้สามารถส่งผลต่อทั้งความรู้สึกในชีวิตประจำวัน ความรู้สึกในระยะยาว ไปจนถึงวิธีการมองคุณค่าภายในตัวเอง ทั้งยังสามารถส่งผลต่อลักษณะนิสัยและสภาพจิตใจของบุคคลรอบข้าง

ในอีกนัยยะหนึ่ง Toxic People นั้นจะเป็นบุคคลที่มีพฤติกรรมและการกระทำที่สามารถส่งผลกระทบเชิงลบต่อบุคคลรอบข้าง ทั้งในเชิงร่างกาย จิตใจ หรือ ทั้งสองอย่าง

อย่างไรก็ดี คนส่วนใหญ่ที่มองปัญหาคนอื่นจากมุมมองของตัวเองอาจมองว่า การอยู่ใกล้ Toxic People ไม่ได้ทำให้ตายแต่อย่างใด แต่ในความเป็นจริงแล้ว แม้ความตายจะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นและจากไป แต่การอยู่ใกล้ Toxic People เป็นประจำอาจเป็นความตายที่ค่อย ๆ กัดกินชีวิตทีละน้อยอย่างต่อเนื่องไปทุกวัน จนท้ายที่สุดอาจเกิด ‘อาการใจพัง’ จนไม่สามารถฟื้นฟูสภาพจิตใจให้กลับมาเหมือนเดิมก็เป็นได้


8 เช็กลิสต์นิสัย คนเป็นพิษ (Toxic People) ที่หลายคนยังไม่รู้ 

นอกจากคนรอบตัวในชีวิตประจำวันอย่างเพื่อน คนที่ทำงาน หรือ คนรักแล้ว Toxic People ยังสามารถในรูปแบบของคนในครอบครัวอย่างญาติ พี่น้อง รวมไปถึงพ่อแม่ด้วยเช่นกัน แต่จะรู้ได้อย่างไรว่า ตอนนี้ชีวิตกำลังรายล้อมไปด้วย Toxic People อยู่ ลองมาสังเกตพฤติกรรมคนรอบข้างตาม 8 เช็กลิสต์ ดังนี้

  1. ชอบควบคุมคนอื่นเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการบงการ การทำร้ายร่างกาย การบิดเบือนความจริงอย่างการโกหก พูดเกินจริง การพูดโดยเลือกใช้คำเพื่อการทำร้ายคนอื่น รวมไปถึงพฤติกรรมการพูดอ้อม ๆ หรือ การใช้ ‘ความเงียบ’ (Silent Treatment) เพื่อบังคับให้คนอื่นทำตามที่ต้องการ หลอกด่า หรือ ทำให้ผู้อื่นรู้สึกผิดที่ไม่ยอมทำตาม
  2. ไม่รู้จักขอโทษ ชอบโยนความผิด รวมไปถึงพฤติกรรมชอบโน้มน้าวให้คนอื่นเข้าใจว่าเป็นฝ่ายผิด (Gaslighting) ทั้ง ๆ ที่เรื่องจริงอาจไม่ได้เป็นแบบนั้น
  3. ยึดตัวเองเป็นศูนย์กลาง ชอบวิจารณ์ผู้อื่น มีพฤติกรรมการตัดสินใจคนอื่นจากบรรทัดฐานของตัวเอง คิดว่าตนเองเหนือกว่าผู้อื่นเสมอ ไปจนถึงพฤติกรรมหลงและสนใจแต่เรื่องของตัวเอง พฤติกรรมด้อยค่าผู้อื่น ยกตัวเองให้สูงแต่กดคนอื่นให้ต่ำ หากอยู่ใกล้ไปนาน ๆ คนรอบข้างก็จะยิ่งรู้สึกว่าตนเองมีคุณค่าที่น้อยลง
  4. อยู่ใกล้แล้วเครียด หดหู่ และซึมเศร้า Toxic People มักชอบสร้างความซึมเศร้าให้กับตนเองและกระจายให้คนอื่น บ่อยครั้งคนรอบข้างเองก็จะรู้สึกอึดอัด เครียด หดหู่ และด่ำดิ่งสู่ความเศร้าได้เช่นกัน
  5. ไม่ให้เกียรติคนอื่น ไม่มีมารยาท อยู่ด้วยแล้วรู้สึกถูกคุกคาม มีพฤติกรรมชอบก้าวก่ายเรื่องของคนอื่น ไม่มีความเกรงใจ
  6. ไม่มีความจริงใจ ชอบนินทาว่าร้ายผู้อื่น แต่ปิดความผิดของตนเอง อย่างการชอบนินทาให้คนอื่นเสียหาย การแต่งเติมเรื่องราว ไปจนถึงการนำเรื่องของคนอื่นไปพูดต่อ แต่เรื่องของตัวเอง หรือ ความผิดอื่น ๆ กลับปิดเอาไว้
  7. ชอบเรียกร้องความสนใจและความสงสารจากคนอื่น รวมไปถึงการชอบสร้างเรื่อง จากนั้นจึงโยนความผิดให้ผู้อื่นและทำให้ตัวเองเป็นเหยื่อของสถานการณ์
  8. เปลี่ยนแปลงเสมอ ทั้งอารมณ์แปรปรวน ชอบประชดประชัน ทำอะไรตามใจตัวเอง เปลี่ยนแปลงทุกเรื่องตามที่ต้องการ ทำให้หาความแน่นอนไม่ได้สักอย่าง

คนเป็นพิษ หรือ Toxic People นิสัยแบบนี้เกิดขึ้นมาได้อย่างไร?

นิสัยคนเป็นพิษ-Toxic-People

คนส่วนใหญ่มักเข้าใจว่า นิสัยที่เป็นพิษของ Toxic People มักมีสาเหตุมาจากโรคทางจิตเวช แต่ในความเป็นจริงแล้ว นิสัยคนเป็นพิษของ Toxic People สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็น

1. ประสบการณ์ที่ผ่านมา 

เช่น การผ่านเหตุการณ์สะเทือนใจ หรือ การผ่านเหตุการณ์ร้ายแรงที่ทำให้เกิดบาดแผลในใจ

2. การเลี้ยงดูของครอบครัวที่ทำให้เกิดบาดแผลในใจ (Trauma) 

เช่น การอาศัยอยู่ในครอบครัวที่ใช้ความรุนแรงในแง่มุมต่าง ๆ มีการใช้สารเสพติด หรือ บ่มเพาะนิสัยที่สร้างความชอบธรรมให้กับความรุนแรงและการทำผิด จนเกิดเป็นพฤติกรรมเกเร ก้าวร้าว และฉุนเฉียว (Conduct Behavior) 

นอกจากนี้ แม้จะไม่มีความรุนแรงที่เห็นเป็นรูปธรรม แต่บางครอบครัวเองก็มีการใช้ความรุนแรงทางอ้อมกับคนในครอบครัว เช่น การชอบติเตียนและกล่าวโทษลูกทุกเรื่องที่ทำให้ไม่พอใจ หรือ เรื่องราวเล็ก ๆ น้อย ๆ เป็นประจำ จนทำให้ลูกโตมาแบบไม่เห็นคุณค่าของตัวเอง ส่งผลให้กลายเป็นคนเอาอกเอาใจคนอื่นมากไป (People Pleaser) หรือกลายเป็นคนมองไม่เห็นคุณค่าของผู้อื่นไปเลย 

ที่สำคัญ การอยู่กับครอบครัวที่ชอบให้ท้าย ปกป้องจนเกิดขอบเขต หรือ ชื่นชมมากเกินไป ก็สามารถบ่มเพาะนิสัยที่เป็นพิษกับผู้อื่นได้เช่นกัน

3. โรคจิตเวชบางประเภท 

เช่น โรคบุคลิกภาพอย่าง โรคหลงตัวเอง (Narcissistic Personality Disorder) ไปจนถึงโรคความผิดปกติทางจิตใจหลังผ่านเหตุการณ์ร้ายแรง (PTSD)

รับมืออย่างไรให้เหมาะสมเมื่ออยู่ใกล้ Toxic People

การรับมือ Toxic People อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ใช่การเงียบหายทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้แก้ปัญหา เพราะการเงียบหายไปเฉย ๆ อาจทำให้ Toxic People รู้สึกว่าตนเองมีอำนาจและความชอบธรรมในการบงการก็เป็นได้ ดังนั้น หากใครมีความจำเป็นต้องเจอ Toxic People เป็นประจำ ขอแนะนำให้ลองตั้งรับและรับมือด้วยวิธีการเบื้องต้น ดังนี้

  1. พูดคุยกับ Toxic People เท่าที่จำเป็น เพื่อลดความรู้สึกในแง่ลบที่จะส่งผลกับตัวเรามากที่สุด
  2. เท่าทันเกม! สังเกตพฤติกรรม Toxic People ก่อนเผชิญหน้าและกำหนดขอบเขต เนื่องจาก Toxic People มักชอบทำให้ตัวเองเป็นที่สนใจ ชอบรับบทเหยื่อ มีพฤติกรรมชอบนินทาและขี้อิจฉา ทั้งยังชอบบิดเบือนความจริง มักด้อยค่า ชอบทำให้คนอื่นรู้สึกผิด และบงการคนอื่นได้ง่าย ด้วยเหตุนี้ หากไม่สังเกตพฤติกรรมแล้วเลือกเผชิญหน้าเลยอาจส่งผลเสียกับตัวเราได้เช่นกัน ดังนั้น ก่อนจะไปเผชิญหน้าตรง ๆ อย่าลืมสังเกตพฤติกรรมก่อน จากนั้นจึงเลือกวิธีกำหนดขอบเขตที่เหมาะสม
  3. ไม่คาดหวังว่า Toxic People จะเปลี่ยนแปลง หรือ ขอโทษ
  4. อย่าโทษตัวเอง หากยังไม่ได้พิจารณาให้ดี เนื่องจาก Toxic People ส่วนใหญ่มักพูดจาหว่านล้อมให้คุณรู้สึกผิดที่ไม่ได้ทำตามที่คนเหล่านี้ต้องการ ทั้งยังยกเหตุผลและความชอบธรรมมาด้อยค่าและบั่นทอนกำลังใจเสมอ
  5. อย่าคิดว่านิสัยคนเป็นพิษ หรือ Toxic People เป็นเรื่องปกติ เพราะจะยิ่งเปิดช่องให้คนเหล่านี้ทำพฤติกรรมเชิงลบกับเรามากยิ่งขึ้นและรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ

ใจเริ่มพังจาก Toxic People ควรฟื้นฟูสภาพจิตใจเบื้องต้นอย่างไร?

รับมือเมื่ออยู่ใกล้-Toxic-People

สุขภาพใจที่แข็งแรงเป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตที่เป็นสุข แต่หากใจเริ่มพัง หรือ รู้สึกเริ่มรับมือ Toxic People ไม่ไหว ลองมาฟื้นฟูสภาพจิตใจเบื้องต้นกันด้วยวิธีพื้นฐาน ดังนี้

  1. พาตัวเองออกจาก Toxic People หากรับมือจนรู้สึกว่าเริ่มไม่ไหว ทำอะไรก็ดูจะไม่มีอะไรดีขึ้น การเลือกตัดขาด ทำ Social Detox หรือ เลือกยุติความสัมพันธ์ที่สร้างความทุกข์ใจก็เป็นทางเลือกที่ช่วยฮีลใจได้เช่นกัน 
  2. หากิจกรรมผ่อนคลายความเครียด เช่น การออกกำลังกาย การทำงานอดิเรกเพื่อความเพลิดเพลิน หรือ หากิจกรรมยามว่างกับคนที่รักเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศใหม่ ๆ 
  3. สร้างพื้นที่ปลอดภัยที่ทำให้รู้สึกสบายใจ เป็นพื้นที่สำคัญที่ไม่ต้องกลัวว่าใครจะมาตัดสิน หรือ ทำให้รู้สึกทุกข์ใจ
  4. อ่อนแอบ้างก็ไม่เป็นไร การร้องไห้ หรือ แสดงความอ่อนแอออกมาในบางครั้งก็สามารถช่วยฟื้นฟูสภาพจิตใจจากความเครียดที่สะสมเป็นเวลานานได้เช่นกัน 
  5. ขอคำแนะนำจากจิตแพทย์ หรือ นักจิตวิทยา เพื่อเป็นการทำความเข้าใจความคิดและความรู้สึกของตัวเอง ตลอดจนเป็นการหาแนวทางในฟื้นฟูสภาพจิตใจจากทั้ง Toxic People บาดแผลในวัยเด็ก รวมถึงปัญหาอื่น ๆ ที่ซ่อนอยู่อย่างถูกต้องและเหมาะสม

‘เรา’ เป็น Toxic People หรือเปล่า?

5 เรื่อง Toxic ที่ไม่คิดว่าต้องเจอ l TGIS EP.49

การมองเห็นข้อเสียของคนอื่นดูเหมือนจะเป็นเรื่องง่าย แต่การยอมรับว่าตัวเราเองอาจมีพฤติกรรมที่ส่งผลร้ายต่อผู้อื่นกลับไม่ง่ายเท่าไรนัก เพราะการสำรวจตัวเองอย่างตรงไปตรงมา ต้องเริ่มจากการ “วางอัตตา” ลงก่อน แล้วค่อย ๆ มองผ่านเลนส์ที่เข้าใจทั้งตัวเราและคนรอบข้างไปพร้อมกัน ซึ่งไม่ใช่เรื่องเบาใจสำหรับใครหลายคนเลย

แต่การกล้ายอมรับและพิจารณาอย่างเปิดใจนี้ อาจกลายเป็นประตูสำคัญที่ช่วยให้เราเข้าใจมุมมองของผู้อื่นโดยไม่ตัดสิน และรู้เท่าทันนิสัยที่อาจเป็นพิษต่อคนรอบตัวได้มากขึ้นด้วย

หากยังไม่รู้จะเริ่มยังไง ลองทบทวนความขัดแย้งหรือความสัมพันธ์ในอดีตดูก่อนว่า เราเคย “พูด” หรือ “กระทำ” อะไรลงไป? เรารู้สึกยังไงตอนนั้น? แล้วสิ่งที่ทำส่งผลต่ออีกฝ่ายแค่ไหน? ในทางกลับกัน สิ่งที่อีกฝ่ายทำส่งผลต่อเราอย่างไร? ค่อย ๆ ลิสต์พฤติกรรมและเหตุผลออกมาอย่างเป็นกลาง — แล้วดูว่าสิ่งใดบ้างที่อาจเข้าข่ายเป็นพิษต่อคนอื่น หรือแม้แต่กับตัวเราเอง

ถ้าเจอว่ามีพฤติกรรมบางอย่างที่น่าจะต้องปรับ อย่าเพิ่งรู้สึกแย่ เพราะนั่นคือสัญญาณที่ดีว่าคุณกำลัง “ตื่นรู้” และพร้อมจะเปลี่ยนแปลง ลองค่อย ๆ ตั้งสติ กลับไปทบทวนอีกครั้ง ทำความเข้าใจเหตุการณ์ใหม่ในมุมที่หลากหลายขึ้น หรือหากยังรู้สึกหนักแน่นในความรู้สึกฝังใจ การพูดคุยกับนักจิตวิทยาและจิตแพทย์ก็เป็นทางออกที่มีพลังไม่น้อยเลย

แต่อย่าลืมว่า “พิษ” ที่เราเผชิญในชีวิตประจำวันอาจไม่ได้มาจากความสัมพันธ์อย่างเดียว บางครั้งมันแฝงอยู่ในวัฒนธรรมการทำงานที่บีบคั้น — เช่น ความรู้สึกว่าต้อง “ทำให้มากขึ้นเรื่อย ๆ” โดยไม่หยุดพัก หรือความรู้สึกผิดทุกครั้งที่หยุดพัก ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของ Toxic Productivity และนำไปสู่ ภาวะหมดไฟ หรือ Karoshi (ทำงานจนตาย) ได้

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับภาวะ Toxic Productivity และ Karoshi ได้ที่นี่


แม้เส้นทางของการเยียวยาทั้งจิตใจและความสัมพันธ์จะไม่ง่ายนัก แต่การเข้าใจตัวเอง คือจุดเริ่มต้นที่ดีที่สุดของความเปลี่ยนแปลง และสำหรับใครที่กำลังเผชิญสิ่งเหล่านี้อยู่ ไม่ว่าจะเหนื่อยล้าจากคนรอบข้าง หรือจากการงานที่โหมหนักจนใจอ่อนแรง
ประกันสุขภาพออนไลน์จาก Sunday ก็ขอเป็นแรงใจเล็ก ๆ ให้คุณค่อย ๆ ฟื้นฟูตัวเองทีละนิดในแบบที่ไม่กดดัน


ประกันสุขภาพซันเดย์
Share this article
Shareable URL
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง

ปีใหม่ เที่ยวไหนดี? แวะสนุกกับ 7 ที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ฉบับวันเดียวจบ

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ยังไม่มั่นใจว่า “ปีใหม่จะเที่ยวไหนดี” แต่ไม่อยากเหนื่อยกับการเดินทางไกล…

ลดหย่อนภาษีด้วย “เที่ยวดี มีคืน 2568” สรุปครบในที่เดียว!

รู้ไว้ไม่พลาด! เที่ยวดี มีคืน สิทธิลดหย่อนภาษีส่งท้ายปี 2568 มาตรการ “เที่ยวดี มีคืน” คือ…
เที่ยวดีมีคืน

รู้ไว้ดีกว่า! รวมวิธีเตรียมตัวรับมือภัยพิบัติสงคราม

เตรียมตัวอย่างไรในวันที่เกิด “ภัยพิบัติสงคราม”? การเตรียมตัวรับมือภัยพิบัติสงคราม คือ…
ภัยพิบัติสงคราม
0
Share