ทำไมเบี้ยประกันรถยนต์ไฟฟ้าถึงแพงกว่าประกันรถยนต์ทั่วไป?
“ประกันรถยนต์ไฟฟ้าแพงไหม” เป็นอีกหนึ่งคำถามที่หลายๆ คนสงสัยอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะผู้ที่ สนใจและกำลังวางแผนซื้อรถยนต์ไฟฟ้าคันแรก
อย่างไรก็ดี หากลองเปรียบเทียบเบี้ยประกันรถยนต์ไฟฟ้ากับประกันรถยนต์ทั่วไปแล้ว โดยเบื้องต้นมักพบว่า ประกันรถไฟฟ้ามักมีค่าเบี้ยที่สูงกว่าอย่างเห็นได้ชัด จนทำให้หลายคนสงสัยว่า อะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้เบี้ยประกันรถยนต์ไฟฟ้าสูงกว่าประกันรถยนต์ทั่วไป
หากคุณเป็นอีกคนที่สงสัยเรื่องเดียวกันนี้อยู่ ในบทความนี้จะพาคุณไปไขข้อสงสัยเกี่ยวกับค่าประกันรถยนต์ไฟฟ้าให้เอง!
เบี้ยประกันรถยนต์ไฟฟ้าคืออะไร คุ้มครองอะไรบ้าง?
เบี้ยประกันรถยนต์ไฟฟ้า คือ ค่าใช้จ่ายที่ผู้ถือกรมธรรม์ต้องชำระ เพื่อรับความคุ้มครองจากบริษัทประกันรถยนต์ เพื่อช่วยบริหารความเสี่ยงทางการเงินที่เกิดขึ้นจากสถานการณ์ไม่คาดฝันจากการใช้งานรถยนต์ เช่น ความเสียหายจากอุบัติเหตุ การโจรกรรม ความเสียหายจากภัยธรรมชาติ และความคุ้มครองอื่นๆ ตามที่กรมธรรม์กำหนด
โดยทั่วไปแล้ว ประกันรถยนต์ไฟฟ้าจะให้ความคุ้มครองเทียบเท่ากับประกันรถยนต์ชั้น 1 ซึ่งจะครอบคลุมความเสี่ยงหลายประเภท เช่น
- ความรับผิดชอบต่อบุคคลที่สาม (Third Party Liability)
- ความเสียหายต่อรถยนต์ของตนเอง (Collision)
- ความเสียหายจากเหตุการณ์ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการชน (Comprehensive)
- คุ้มครองความเสียหายแบตเตอรี่ตามอายุการใช้งาน ซึ่งผู้เอาประกันสามารถซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติมได้
- ความคุ้มครองที่ผู้เอาประกันสามารถทำเพิ่มเติมได้ เช่น ความคุ้มครองความเสียหายจากเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า บริการรถใช้งานระหว่างซ่อม บริการรถยก และบริการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
ทำไมค่าประกันรถยนต์ไฟฟ้าถึงแพงกว่ารถยนต์ทั่วไป?
เชื่อว่าหลายๆ คน โดยเฉพาะผู้ที่สนใจซื้อรถยนต์ไฟฟ้ามักสงสัยเป็นประจำว่า ทำไมเบี้ยประกันรถยนต์ไฟฟ้าถึงมีราคาแพงกว่ารถยนต์ทั่วไป
โดยหลักๆ แล้ว เหตุผลที่ทำให้ค่าประกันรถยนต์ไฟฟ้าแพงกว่ารถยนต์ทั่วไปจะมีด้วยกัน 4 สาเหตุหลัก ดังนี้
1. ค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า รถยนต์ไฟฟ้ามาพร้อมกับค่าบำรุงรักษาและค่าซ่อมแซมที่สูงกว่ารถยนต์ทั่วไป เนื่องจากมูลค่าของอะไหล่ที่สูงกว่าอะไหล่รถยนต์ทั่วไป โดยเฉพาะแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าที่มีมูลค่าสูงกว่า 50% ของราคารถยนต์
2. ข้อจำกัดด้านการซ่อมแซม
รถยนต์ไฟฟ้าแต่ละค่ายยังมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการที่เฉพาะตัวและมีความซับซ้อนสูง ทำให้จำเป็นต้องใช้ช่างผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ซึ่งหากประกอบกับศูนย์ซ่อมที่มีจำกัดด้วยแล้ว ก็ยิ่งมีส่วนทำให้เบี้ยประกันรถยนต์ไฟฟ้าสูงขึ้นด้วยเช่นกัน
3. ประวัติและพฤติกรรมผู้ขับขี่
ตามเกณฑ์ใหม่ประกันรถยนต์ไฟฟ้าที่สำนักงาน คปภ. ประกาศบังคับใช้วันที่ 1 มิถุนายน 2567 ได้กำหนดให้ผู้เอาประกันต้องระบุชื่อผู้ขับขี่ ซึ่งหากมีใครนำรถยนต์ไฟฟ้าไปใช้ แต่ไม่ได้มีชื่ออยู่ในกรมธรรม์ประกันรถยนต์ไฟฟ้า ผู้เอาประกันอาจต้องเสีย “ค่าเสียหายส่วนแรก” ในกรณีที่พิสูจน์ว่าเป็นฝ่ายผิด
อย่างไรก็ดี เมื่อถึงรอบต่อประกันรถยนต์ไฟฟ้า ทางบริษัทประกันจะทำการตรวจสอบประวัติและพฤติกรรมของผู้ขับขี่ที่มีรายชื่ออยู่ในกรมธรรม์ทั้งหมด
โดยหากมีประวัติและพฤติกรรมการขับขี่ที่แย่ มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น อาจทำให้ต้องจ่ายเบี้ยประกันรถยนต์ไฟฟ้าสูงขึ้นในปีถัดไป แต่หากประวัติและพฤติกรรมการขับขี่ที่ดี ไม่มีอุบัติเหตุ ผู้เอาประกันอาจได้รับส่วนลดค่าเบี้ยประกันรถยนต์ไฟฟ้าในปีถัดไปเช่นกัน
4. มูลค่าของรถยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบัน
แม้จะได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล แต่รถยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบันก็มีราคาซื้อขายที่สูงกว่ารถยนต์ทั่วไป ซึ่งราคาของรถยนต์ไฟฟ้า ประกอบกับค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมความเสียหายประเภทต่างๆ ก็ส่งผลต่อทุนประกัน วงเงินคุ้มครองสูงสุด และความคุ้มครอง ซึ่งส่งผลต่อเบี้ยประกันรถยนต์ไฟฟ้าด้วยเช่นกัน
ซันเดย์ ให้คุณจ่ายเบี้ยประกันรถยนต์ไฟฟ้าที่ตอบโจทย์ กับความคุ้มครองที่ “คุณ” เลือกได้
ประกันรถยนต์ไฟฟ้าซันเดย์ หนึ่งเดียวที่ให้ “คุณ” ออกแบบความคุ้มครองประกันรถยนต์ไฟฟ้าที่ตอบโจทย์การใช้งาน ให้คุณได้จ่ายเบี้ยประกันรถยนต์ไฟฟ้าที่เหมาะสมกับความคุ้มครองที่คุณต้องการ
นอกจากนี้ ซันเดย์ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ Livestream Claim ให้คุณจบงานเคลมไวใน 15 นาที สำหรับอุบัติเหตุที่ไม่มีคู่กรณี พร้อมอนุมัติการซ่อมไวใน 3 วันหลังจากได้รับเอกสารครบถ้วน
อัปเดต! เบี้ยประกันรถยนต์ไฟฟ้าชั้น 1 จากซันเดย์ ครบทุกค่ายฮิต
แบรนด์รถยนต์ | รุ่น | เบี้ยประกันเริ่มต้นที่ซันเดย์ |
---|---|---|
Tesla | Model 3 | 44,370.40 |
Model Y | 47,109.60 | |
BYD | ATTO 3 | 25,500.00 |
Dolphin | 22,500.00 | |
Seal | 30,500.00 | |
Neta | Neta V | 17,105.08 |
ORA | Good Cat | 21,867.01 |
Aion | Y PLUS | 24,367.67 |
MG | EP | 21,916.69 |
ES | 25,789.36 | |
MG4 | 22,899.01 | |
ZS | 21,204.12 | |
MAXUS9 | 54,828.592 |
เบี้ยประกันรถยนต์ไฟฟ้าข้างต้นเป็นเพียงค่าเบี้ยประกันรถยนต์ไฟฟ้าเบื้องต้นเท่านั้น หากต้องการเช็กเบี้ยประกันและความคุ้มครองที่เหมาะกับรถยนต์ รวมถึงการใช้งานของคุณอย่างรอบด้าน สามารถเข้าไปเช็กได้ที่เว็บไซต์ของซันเดย์ได้ง่ายๆ ใช้แค่ “วันเดือนปีเกิด” และ “รหัสไปรษณีย์ที่อยู่ปัจจุบัน” ไม่ต้องกรอกข้อมูลติดต่อให้ลำบากใจ