รู้จักภาวะเสี่ยงและอาการโรคปอด ภัยร้ายประจำหน้าฝน
แม้อากาศจะเย็นสบาย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ความชื้นสะสมในอากาศช่วงหน้าฝนถือเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดโรคร้ายตามมามากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “โรคปอด” ที่ส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจในหลายแง่มุม ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อาจเพิ่มความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตได้เช่นกัน
แล้วกลุ่มโรคปอดนี้ประกอบไปด้วยโรคอะไรบ้าง มีความเสี่ยงมากน้อยแค่ไหน มารู้จักอาการของโรคปอดทั้งหมดให้มากขึ้นไปพร้อมๆกันในบทความนี้
โรคปอดคืออะไร เกิดจากอะไรบ้าง?
โรคปอด (Lung Disease) คือ อาการความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับปอดทั้งหมด โดยอาการโรคปอดจะสามารถแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่
- โรคปอดที่ส่งผลกับหลอดเลือด
เช่น ภาวะความดันหลอดเลือดปอดสูง ซึ่งเป็นภาวะที่หลอดเลือดในปอดมีความต้านทานสูง ทำให้หลอดเลือดแดงในปอดมีความดันสูงขึ้น ส่งผลให้หัวใจทำงานหนักขึ้น แต่จะมีการแลกเปลี่ยนออกซิเจนได้น้อยลง หากไม่รีบรักษาอาจเสี่ยงหัวใจล้มเหลวจนเสียชีวิตได้
- โรคปอดที่ส่งผลกับเยื่อหุ้มปอด
เช่น โรคปอดรั่ว หรือ ภาวะที่ถุงลมในปอดแตกจนทำให้อากาศแทรกตัวเข้าไปอยู่ในช่องอก ส่งผลให้ปอดขยายตัวไม่เต็มที่และเพิ่มความเสี่ยงที่ลมจะเบียดหัวใจจนเสียชีวิตได้
- โรคปอดที่ส่งผลกับถุงลม
เช่น ภาวะที่ปอดติดเชื้อ อย่างวัณโรค ปอดอักเสบจาก PM 2.5 เชื้อไวรัส หรือ เชื้อแบคทีเรีย ไปจนถึงภาวะที่ปอดอักเสบในหลายๆ รูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นถุงลมโป่งพองจากการที่เนื้อเยื่อถุงลมในปอดถูกทำลาย ภาวะน้ำท่วมปอดจากการที่ของเหลวจากหลอดเลือดไหลเข้าสู่ปอด ไปจนถึงการเป็นมะเร็งปอด ซึ่งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 2 ของคนไทยในปัจจุบัน
บทความน่าอ่าน > หลอดเลือดสมองโป่งพอง ภัยเงียบไม่แสดงอาการ แต่อันตรายถึงชีวิต
รู้หรือไม่? นอกจากเชื้อโรค ความชื้น และพฤติกรรมการใช้ชีวิตแล้ว อาการโรคปอดยังสามารถเกิดขึ้นจากไข้เลือดออกได้เช่นกัน อาการโรคปอดอย่างปอดอักเสบ ภาวะปอดบวมน้ำ ไปจนถึงหลอดลมอักเสบถือเป็นหนึ่งอาการไข้เลือดออกแทรกซ้อนที่มีความอันตรายสูง เนื่องจากสามารถเพิ่มความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตได้ |
โรคปอดเป็นเหตุ สังเกตให้ชัวร์
อาการโรคปอดจะมีข้อบ่งชี้ที่ค่อนข้างแตกต่างกัน แต่โดยเบื้องต้นแล้ว ขอแนะนำให้ลองสังเกตอาการโรคปอดเบื้องต้น ดังนี้
- หายใจสั้น หายใจไม่ทั่วท้อง หรือ ต้องใช้แรงหายใจมากกว่าปกติ
- อ่อนเพลีย รู้สึกเหนื่อยง่ายโดยไม่ทราบสาเหตุ รู้สึกเหนื่อยอยู่ตลอดเวลา
- เสียงแหบแห้ง
- ไอเรื้อรัง หรือ ไอแล้วมีเลือดปน
- เจ็บหน้าอก หรือ บริเวณชายโครง
- เบื่ออาหาร น้ำหนักลดไม่ทราบสาเหตุ
- มีอาการที่บ่งชี้ถึงภาวะปอดติดเชื้อ เช่น มีไข้สูง หนาวสั่น ตัวเย็น เหงื่อออก ซึม หรือ รู้สึกสับสน
อย่างไรก็ดี หากมีอาการโรคปอดเบื้องต้นตามที่ระบุไว้เมื่อไหร่ ขอแนะนำให้รีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจเช็กถึงความผิดปกติของปอดโดยด่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่มีภาวะบ่งชี้ถึงการติดเชื้อ การเจ็บหน้าอก ไปจนถึงอาการอ่อนเพลียและหายใจได้ลำบาก
วิธีป้องกันโรคปอดง่ายๆ ด้วยตัวเอง
กลุ่มโรคที่มีความเกี่ยวข้องกับปอดนั้นเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการได้รับเชื้อโรคที่แฝงตัวอยู่ในอากาศ มลพิษอย่างฝุ่นควัน PM 2.5 พฤติกรรมการใช้ชีวิตอย่างการสูบและได้รับควันบุหรี่ ไปจนถึงภาวะแทรกซ้อนจากโรคร้ายอื่นๆ อย่างภาวะปอดอักเสบที่เป็นอาการไข้เลือดออกแทรกซ้อนที่เพิ่มความเสี่ยงในการเสียชีวิตได้
ดังนั้น เพื่อลดความเสี่ยงที่จะสร้างความเสียหายให้กับปอดและระบบทางเดินหายใจในระยะยาว ตลอดจนลดความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตจากโรคปอดได้ ขอแนะนำให้ป้องกันและดูแลสุขภาพตัวเอง ดังนี้
- ดูแลสุขภาพให้แข็งแรงด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำให้มากๆ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และออกกำลังกายอยู่เสมอ
- หลีกเลี่ยงการอยู่ในบริเวณแออัด มีคนจำนวนมาก หรือ อยู่ในพื้นที่ปิด เพื่อลดการรับเชื้อโรคในอากาศ หรือ ควรใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการรับเชื้อโรคที่แฝงตัวในอากาศ
- ฉีดวัคซีนที่ช่วยป้องกันโรคที่อาจส่งผลกับปอด เช่น วัคซีนไข้หวัดใหญ่ วัคซีนโควิด-19 ไปจนถึงวัคซีนไอพีดีเพื่อป้องกันเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดโรคปอดอักเสบมากกว่า 90 สายพันธุ์ โดยสามารถปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อวางแผนการฉีดวัคซีนที่เหมาะสมต่อไป
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ การรับควันบุหรี่ ควันไฟ ควันจากท่อไอเสียรถยนต์ รวมถึงการอยู่ในบริเวณที่มี PM 2.5 สูง เนื่องจากอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองที่ปอดและระบบทางเดินหายใจได้
- รักษาสุขอนามัยของตนเองเสมอ เพื่อลดความเสี่ยงในการรับเชื้อโรคที่อาจพัฒนากลายเป็นโรคปอดประเภทต่างๆ ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงหน้าฝนที่อุณหภูมิในอากาศเหมาะสมกับการเติบโตของเชื้อโรคหลายชนิด
รับมือความเสี่ยงโรคปอดอย่างตรงจุดกับ ‘ประกันโรคปอดพลัสไข้เลือดออก’
นอกจากจะดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรง พร้อมรักษาสุขอนามัยของตนเอง เพื่อลดความเสี่ยงที่เชื้อโรคจะเข้ามาสู่ร่างกายแล้ว การมองหาตัวช่วยบริหารความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากโรคปอดก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ควรค่าแก่การพิจารณาเช่นกัน
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การซื้อประกันสุขภาพที่สามารถช่วยบริหารความเสี่ยงด้านค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการรักษาพยาบาล ทั้งยังช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงการรักษาพยาบาลที่มีประสิทธิภาพสูงสุดได้
ประกันโรคปอดพลัสไข้เลือดออก พร้อมมอบความคุ้มครองเพื่อการรักษาโรคปอดโดยเฉพาะ ด้วยวงเงินสำหรับการรักษาตัวแบบผู้ป่วยในสูงถึง 60,000 บาทต่อโรค และ ค่ารักษาผู้ป่วยนอกสูงถึง 1,000 บาทต่อครั้ง พร้อมมีวงเงินชดเชยรายได้กรณีรักษาตัวเป็นผู้ป่วยในสูงถึง 1,000 บาทต่อวัน คุ้มครองครอบคลุมขึ้นด้วยการคุ้มครองโรคไข้เลือดออก หนึ่งในโรคร้ายประจำหน้าฝนที่เสี่ยงทั้งเด็กเล็ก ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ
ซื้อประกันโรคปอดพลัสไข้เลือดออกกับซันเดย์ เบี้ยเริ่มต้นเพียง 300 บาทต่อปี คุ้มครองตั้งแต่อายุ 6 – 70 ปี ไม่ต้องสำรองจ่ายเมื่อรักษาพยาบาลกับสถานพยาบาลในเครือทั่วประเทศ เช็กเบี้ยประกันที่เหมาะกับตัวเองได้ง่ายๆ ใช้แค่ “วันเดือนปีเกิด” ของคุณเท่านั้น