“Sunday” ผู้นำเทคโนโลยีด้าน InsurTech ร่วมแบ่งปันประสบการณ์ความสำเร็จในงาน Project Alpha 2019, Bangkok ในฐานะสตาร์ทอัพไทยที่กำลังมาแรง ผู้สร้างความเปลี่ยนแปลง (Game Changer) ให้กับวงการประกันภัย ก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI), แมชชีน เลิร์นนิ่ง (Machine Learning) และ Big Data
โชว์คีย์ซัคเซสที่สามารถออกแบบผลิตภัณฑ์และกำหนดราคาได้ตอบโจทย์และตรงตามความต้องการของลูกค้ามากที่สุด พร้อมสร้างประสบการณ์ใหม่ด้านการซื้อขายประกัน เช็กสถานะ ดูข้อมูล และบริการเคลมที่สะดวกรวดเร็วบนแพลตฟอร์มดิจิตอลครบวงจร ภายใต้แนวคิด “ทำชีวิตให้ง่าย ในราคาที่ใช่”
นายสุรเดช พานิช ผู้อำนวยการด้านวิทยาศาสตร์ข้อมูล (Chief Data Scientist) บริษัท ซันเดย์ อินส์ จำกัด ร่วมแบ่งปันประสบการณ์ความสำเร็จของ Sunday ในฐานะผู้นำเทคโนโลยีด้าน InsurTech สตาร์ทอัพมาแรงของไทยที่สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับวงการประกันภัย เพื่อส่งต่อแรงบันดาลใจให้กับสตาร์ทอัพรุ่นใหม่ ภายในงาน Project Alpha 2019, Bangkok ซึ่งเป็นโครงการความร่วมมือระหว่าง SeedPlus กองทุนชั้นนำของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และ AWS แพลตฟอร์มคลาวด์ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการเฟ้นหาและผลักดันสตาร์ทอัพรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพสูงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ให้มีโอกาสเติบโตต่อไป
โดยนายสุรเดช กล่าวว่า นอกจากประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับที่กฎหมายกำหนดให้เจ้าของรถทุกคันจะต้องมีแล้ว ที่ผ่านมาพบว่าคนไทยยังไม่ให้ความสำคัญกับการทำประกันภัยเท่าที่ควร เนื่องจากผลิตภัณฑ์ประกันภัยส่วนใหญ่ยังไม่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของแต่ละบุคคลได้ ทั้งยังไม่มีความยืดหยุ่นและกำหนดราคาสูงเกินความจำเป็นของผู้ซื้อประกัน
ขณะที่ Sunday เป็นเพียงรายเดียวที่ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และแมชชีน เลิร์นนิ่ง (Machine Learning) ช่วยในการสร้างโมเดลประเมินความเสี่ยงของผู้เอาประกัน ตลอดจนใช้ Data Science ทำการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก ทำให้สามารถออกแบบผลิตภัณฑ์ได้หลากหลาย ตรงกับความต้องการรายบุคคลได้อย่างแท้จริง
เนื่องด้วยผลิตภัณฑ์ประกันภัยของ Sunday มีความโดดเด่นแตกต่างจากผลิตภัณฑ์แบบเดิมๆ ตรงที่สามารถนำเสนอแบบประกันที่เหมาะกับลูกค้าเฉพาะบุคคลได้ (Personalization) ทั้งยังมีความยืดหยุ่นเพราะลูกค้าสามารถปรับเปลี่ยนหรือเลือกความคุ้มครองได้ตามความต้องการของตน ในราคาที่สมเหตุสมผลตามความเสี่ยงของแต่ละคนนี่เอง ทำให้ Sunday นำเอาจุดเด่นนี้ไปต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ด้านการประกันชนิดอื่นๆ ที่ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงได้ง่าย ตัวอย่างเช่น ประกันเดินทางที่มาพร้อมกับ Roaming Sim Card ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกซื้อได้ในราคาที่เหมาะสม ทั้งยังเปิดใช้งานได้ง่ายบนโทรศัพท์มือถือของตนเองอีกด้วย
“ในเวลากว่า 2 ปี ที่ Sunday ได้เริ่มต้นก่อตั้งมานั้น สิ่งที่เรามุ่งเน้นคือ ทำอย่างไรที่จะให้คนไทยหันมาให้ความสำคัญกับการทำประกันภัยมากขึ้นเพื่อแบ่งเบาภาระความเสี่ยงของตนเอง ซึ่งการใช้เทคโนโลยีเหล่านี้เป็นเครื่องมือ ก็จะช่วยให้สามารถออกแบบผลิตภัณฑ์ได้หลากหลาย ลดความซับซ้อน ผู้บริโภคเข้าใจและเข้าถึงได้ง่ายมากขึ้นในราคาที่คุ้มประโยชน์ เพราะลูกค้าจะสามารถเลือกจ่ายได้ในสิ่งที่คิดว่าจำเป็นเท่านั้น และจ่ายตามความเสี่ยงของแต่ละบุคคล คือคนที่มีความเสี่ยงต่ำก็จะชำระค่าเบี้ยประกันน้อยกว่าคนที่มีความเสี่ยงสูงกว่า” นายสุรเดช กล่าว
ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังมุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับคนไทยเข้าถึงการประกันภัยได้สะดวก รวดเร็ว และง่ายดายมากยิ่งขึ้น ด้วยบริการการซื้อขาย บริการเคลม การเช็กสถานะ และตรวจสอบข้อมูลของตนเองได้บนแพลตฟอร์มดิจิตอลทั้งเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน รวมถึงการนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่ครอบคลุมเกือบทุกประเภท โดยมีผลิตภัณฑ์หลักคือ ประกันภัยรถยนต์ ประกันสุขภาพกลุ่มสำหรับองค์กรธุรกิจ และประกันการเดินทาง
นายสุรเดช กล่าวย้ำด้วยว่า แม้ Sunday จะเป็นบริษัทสตาร์ทอัพ แต่การดำเนินธุรกิจประกันภัยนั้น จะต้องมีใบอนุญาตการประกอบธุรกิจประกันภัยและอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายการประกอบธุรกิจประกันภัยของประเทศไทยทุกประการ โดยทุกผลิตภัณฑ์ประกันภัยของบริษัทฯ รวมถึงผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่จะออกมา ได้รับการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ทั้งสิ้น
เกี่ยวกับซันเดย์ Sunday
สำหรับ Sunday เริ่มก่อตั้งขึ้นเมื่อเดือนสิงหาคม 2560 โดย ซินดี้ กัว ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซันเดย์ อินส์ จำกัด โดยในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา Sunday ประสบความสำเร็จในการระดมทุน ซีรี่ เอ มูลค่า 10 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จากเวอร์เท็กซ์ เวนเจอร์ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอินเดีย (Vertex Ventures SEA and India) ซึ่งเป็นเครือข่ายนักลงทุนระดับโลกที่ลงทุนในสหรัฐอเมริกา จีน อิสราเอล อินเดีย รวมถึงประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
โดยขณะนี้ Sunday อยู่ระหว่างการดำเนินการเพื่อขยายตลาดสู่ต่างประเทศ ได้แก่ มาเลเซีย อินโดนีเซีย และสิงคโปร์ และเตรียมความพร้อมสำหรับการระดมทุนในรอบสำคัญสำหรับการขยายธุรกิจในปีหน้า รู้จัก Sunday เพิ่มเติมได้ที่ www.easysunday.com