หน้าหลัก สาระรถยนต์ไฟฟ้า อยากได้รถไฟฟ้าคันเล็ก BYD Dolphin ยังน่าซื้ออยู่ไหม?

อยากได้รถไฟฟ้าคันเล็ก BYD Dolphin ยังน่าซื้ออยู่ไหม?

byd dolphin รุ่นย่อย

สรุปให้ฟัง! รถไฟฟ้า BYD Dolphin ยังน่าซื้ออยู่ไหมในปี 2024?

ด้วยความประหยัดค่าใช้จ่ายด้านเชื้อเพลิงเมื่อเทียบกับรถยนต์สันดาป พร้อมด้วยสมรรถนะที่พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นเหตุผลที่ชวนให้ใครหลายคนตัดสินใจซื้อรถยนต์ไฟฟ้า โดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กที่มีขนาดคล่องตัว แต่ยังได้ประสิทธิภาพการทำงานเทียบเท่ารถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหญ่จากค่ายเดียวกัน ซึ่งรถไฟฟ้า BYD Dolphin ก็ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกรถยนต์ไฟฟ้าที่ได้รับความนิยมสูงสุดในปี 2024 เช่นกัน 

แต่หากมองในระยะยาวแล้ว รถไฟฟ้า BYD Dolphin ยังคุ้มค่าต่อการใช้งานมากน้อยแค่ไหน มีสเปคที่เพียงพอจริงไหม ควรจะวางแผนค่าใช้จ่ายด้านประกันรถ BYD อย่างไรให้ตอบโจทย์มากที่สุด ลองมาดูทุกเรื่องที่ต้องรู้ก่อนตัดสินใจซื้อ BYD Dolphin ในปี 2024 กัน

รถไฟฟ้า BYD Dolphin ดีไหม น่าใช้แค่ไหน

BYD Dolphin สเปคน่าใช้งานแค่ไหน?

รถไฟฟ้า BYD Dolphin จัดเป็นรถยนต์ขนาด B-Segment เทียบเท่ากับ Toyota Vios, Mazda 2 และ Honda City ด้วยขนาดของตัวรถยนต์ที่ใหญ่ขึ้น พร้อมเครื่องยนต์ที่มีขุมพลังมากขึ้นเมื่อเทียบกับรถยนต์ใน A-Segment ทำให้ BYD Dolphin ถือเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ครอบครัวขนาดเล็ก การใช้งานในเมือง ไปจนถึงการขับรถยนต์ออกทริปต่างจังหวัด

BYD Dolphin มีกี่รุ่น สเปคต่างกันแค่ไหน?

รถไฟฟ้า BYD Dolphin ที่วางจำหน่ายในปี 2024 นี้จะมีด้วยกัน 2 รุ่นหลัก คือ “Standard Range” และ “Extended Range” โดย BYD Dolphin ทั้ง 2 รุ่นจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าระบบขับเคลื่อนล้อหน้า มาพร้อมกับแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน Blade Battery LFP ลิขสิทธิ์เฉพาะของทาง BYD รองรับการชาร์จไฟ AC เท่ากันที่ 7 kWh และมีแรงดันไฟฟ้าสูงสุดเท่ากันอยู่ที่ 400 โวลต์

ในแง่ของความแตกต่างแล้ว BYD Dolphin ทั้ง 2 รุ่นเองก็มีสเปคที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนในหลายแง่มุม ซึ่งจะมีรายละเอียดตามตาราง ดังนี้

ความแตกต่างรุ่น Standard Rangeรุ่น Extended Range
พละกำลังสูงสุด (แรงม้า)95201
แรงบิด หรือ แรงส่งกำลังของเครื่องยนต์ (นิวตันเมตร)180310
ความเร็วสูงสุด (กิโลเมตรต่อชั่วโมง)158170
พลังงานไฟฟ้าทั้งหมด (kWh)44.960.48
รองรับการชาร์จ DC (kW)6080
ระยะทางวิ่งสูงสุด มาตรฐาน NEDC (กิโลเมตร)410490

หากเปรียบเทียบสเปคของ BYD Dolphin ที่วางจำหน่ายในปี 2024 แล้วจะเห็นได้ว่ารุ่น Extended Range ถือว่ามีสมรรถนะที่เหนือว่าทั้งในแง่ของมอเตอร์ที่มีสมรรถนะเทียบเท่ากับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหญ่จากค่ายเดียวกันอย่าง BYD ATTO 3 Extended Range ทั้งยังมีขนาดแบตเตอรี่ที่มีขนาดใหญ่กว่ารุ่น Standard Range อย่างเห็นได้ชัด

นอกจากความแตกต่างเรื่องสมรรถนะแล้ว BYD Dolphin แต่ละรุ่นยังมีสีที่แตกต่างกันด้วยเช่นกัน โดยรุ่น Standard Range จะมีให้เลือก 4 สี คือ Flora Purple, Coastal Cream, Atlantis Grey และ Coral Pink ในขณะที่รุ่น Extended Range จะมีการจับคู่สีเพิ่มขึ้นมา โดยจะประกอบไปด้วย Flora Purple + Pebble Black, Surge White + Atlantis Grey, Atoll Blue + Atlantis Grey และ Coral Pink + Atlantis Grey 

ที่สำคัญ BYD Dolphin ทั้ง 2 รุ่นก็มีราคาที่แตกต่างกันเช่นกัน โดยรุ่น Standard Range มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 699,999 บาท ในขณะที่รุ่น Extended Range จะมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 859,999 บาท โดย BYD Dolphin ทั้ง 2 รุ่นจะมีตารางผ่อน สิทธิพิเศษ รวมถึงข้อเสนอแตกต่างกันไปตามเงื่อนไขของศูนย์บริการแต่ละแห่ง ดังนั้น อย่าลืมตรวจสอบรายละเอียดที่แน่ชัดกับศูนย์ BYD ที่สนใจให้ชัวร์ก่อนตัดสินใจซื้อด้วย

ข้อดี – ข้อควรระวังของ BYD Dolphin จากผู้ใช้งานจริง

รถไฟฟ้า BYD Dolphin เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2023 แต่ยังคงได้รับความนิยมต่อเนื่องมาจนถึงปี 2024 ทั้งยังเป็นอีกหนึ่งรถยนต์รุ่นที่ได้รับความนิยมและเป็นที่ต้องการของตลาดสูงสุดด้วย สำหรับใครที่กำลังชั่งใจอยู่ว่าควรจะซื้อ BYD Dolphin ในปี 2024 นี้หรือไม่ ลองมาพิจารณาข้อดีและข้อควรระวังของ BYD Dolphin ที่นำมาฝากนี้ เพื่อเป็นตัวช่วยพิจารณาและตัดสินใจซื้อ BYD Dolphin กัน

ข้อดีของ BYD Dolphin

เมื่อพูดถึงรถยนต์ไฟฟ้า เชื่อว่าหลายๆ คนคงเป็นกังวลในเรื่องของช่วงล่างที่มีความแข็งกระด้าง แต่ BYD Dolphin มาพร้อมกับช่วงล่างด้านหน้าแบบ MacPherson Strut พร้อมด้วย Torsion Beam ซึ่งเป็นเหล็กกันโคลงด้านหลัง จึงทำให้สัมผัสจากช่วงล่างสามารถรับแรงสั่นสะเทือนได้ดี เกาะพื้นถนน แต่ยังให้ความรู้สึกที่ไม่แข็งจนเกินไป เก็บเสียงได้ดี และมีอาการดีดเด้งที่น้อยกว่ารถยนต์ไฟฟ้า Segment เดียวกัน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ BYD Dolphin ได้พัฒนามาแก้ไขได้อย่างตรงจุดมาก

นอกจากนี้ BYD Dolphin ยังมาพร้อมกับระบบมอเตอร์ที่มีประสิทธิภาพสูง ทั้งในแง่ของพละกำลังและแรงบิด ทำให้สามารถเร่งทำความเร็วได้อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ขับขี่ได้สนุกทั้งในการวิ่งทางเรียบ ไปจนถึงการขับใช้งานในชีวิตประจำวัน ซึ่งหากพิจารณากับพละกำลังสูงสุดและแรงบิดของแต่ละรุ่นแล้ว ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานที่ค่อนข้างหลากหลาย มั่นใจได้ว่าการซื้อ BYD Dolphin เพียง 1 คันจะช่วยตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างครอบคลุมมาก

ข้อควรระวังของ BYD Dolphin

ด้วยช่วงล่างที่มีการพัฒนาออกมาให้นุ่มนวลขึ้น อาจทำให้ความรู้สึกว่ารถโคลงจากแรงเหวี่ยงในบางจังหวะ นอกจากนี้ เบาะคู่หน้าของ BYD Dolphin ยังไม่สามารถปรับหมอนรองคอได้ ซึ่งอาจทำให้ผู้ขับขี่รู้สึกไม่สบายตัวได้

ที่สำคัญ แม้สมรรถนะและความรู้สึกในการขับขี่จะต่างกันอย่างเห็นได้ชัด แต่ BYD Dolphin ทั้ง 2 รุ่นกลับมีราคาที่ห่างกันเกือบ 300,000 บาท ดังนั้น หากสนใจ BYD Dolphin แล้ว อย่าลืมพิจารณาในส่วนของค่าใช้จ่ายในการซื้อรถยนต์ รวมถึงการบำรุงรักษาในอนาคตด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ดี ผู้ใช้งานรถยนต์แต่ละคนเองก็มีประสบการณ์ขับขี่ ตลอดจนความชื่นชอบที่แตกต่างกันด้วย ดังนั้น หากยังไม่ชัวร์ว่ารถไฟฟ้า BYD Dolphin จะเหมาะกับเราจริงไหม อย่าลืมไปทดลองขับรถยนต์ด้วยตัวเอง เพื่อเช็กถึงความชอบและสไตล์การขับขี่ที่สอดคล้องกับรถยนต์ด้วย

ซื้อรถไฟฟ้า BYD Dolphin ปี 2024 ดีไหม

ซื้อ BYD Dolphin มีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ วางแผนอย่างไรดี?

สำหรับใครที่กำลังวางแผนซื้อรถไฟฟ้า BYD Dolphin ในปี 2024 นี้ แต่ไม่รู้ว่าต้องเตรียมเงินเท่าไหร่ หรือ วางแผนเตรียมตัวอย่างไรดี ลองมาพิจารณา 3 ค่าใช้จ่ายสำคัญที่ต้องเตรียมให้พร้อมสำหรับการซื้อรถไฟฟ้า BYD Dolphin กัน

1. ค่ารถยนต์

รถไฟฟ้า BYD Dolphin ในปี 2024 มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 699,999 บาท โดยราคาผ่อนขั้นต่ำจะอยู่ที่ 7,414 บาทต่อเดือน ในกรณีมียอดดาวน์ 25% และเลือกผ่อน 84 งวด ซึ่งรายละเอียดในการผ่อนชำระของแต่ละศูนย์ให้บริการจะแตกต่างกันไปตามเงื่อนไขที่บริษัทกำหนด หรือ เงื่อนไขอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ดังนั้น ในส่วนของค่ารถยนต์นี้ ผู้ที่สนใจจำเป็นที่จะต้องสอบถามไปยังศูนย์ให้บริการที่สนใจ เพื่อรับทราบรายละเอียดที่แน่ชัด

2. ค่าอุปกรณ์ การซ่อมบำรุง และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

นอกจากค่าตัวรถยนต์แล้ว ผู้ที่สนใจจำเป็นที่จะต้องสอบถามถึงค่าใช้จ่ายด้านอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นชุดแต่งรถยนต์ ค่าอุปกรณ์สำหรับชาร์จรถยนต์ ค่าติดตั้งอุปกรณ์ชาร์จรถยนต์ที่บ้าน รวมไปถึงค่าใช้จ่ายในวันรับรถยนต์ทั้งหมด ซึ่งอาจประกอบไปด้วยค่าจดทะเบียนรถยนต์ ค่าดาวน์รถยนต์และค่าผ่อนชำระงวดแรก ไปจนถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องตามที่บริษัทกำหนด

สำหรับการซ่อมบำรุงรถยนต์ไฟฟ้า BYD Dolphin นั้น ในปี 2024 นี้ ศูนย์ให้บริการได้กำหนดรับประกันตัวรถ (Warranty) 8 ปี หรือ 160,000 กม.* และ รับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 160,000 กม. หรือ เป็นไปตามที่บริษัทกำหนด 

3. ค่าประกันรถยนต์ไฟฟ้า

ประกันรถ BYD แพงไหม เป็นอีกหนึ่งคำถามที่ใครหลายคนสงสัยเป็นประจำ โดยค่าใช้จ่ายสำหรับประกันรถยนต์ไฟฟ้า BYD นั้นจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นทุนประกันรถยนต์ วงเงินคุ้มครองสูงสุด ไปจนถึงความคุ้มครองอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งความคุ้มครองกับบุคคลภายนอก บุคคลภายในรถยนต์ ความคุ้มครองที่ชาร์จรถยนต์ รวมถึงทรัพย์สินอื่นๆ ตามที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์

ในปัจจุบันนี้ ตามเกณฑ์ใหม่ประกันรถยนต์ไฟฟ้าของสำนักงานคปภ. ยังกำหนดในมีการระบุชื่อผู้ขับขี่รถยนต์ไฟฟ้าอย่างน้อย 1 คน พร้อมมีระบบเก็บข้อมูลและตรวจสอบพฤติกรรมผู้ขับขี่ ซึ่งจะสามารถส่งผลกับส่วนลดเบี้ยประกันรถยนต์ไฟฟ้าในปีถัดไปด้วย โดยหากมีประวัติการขับขี่ที่ดี ไม่มีประวัติเคลม หรือ มีประวัติเคลมแต่เป็นฝ่ายถูก และ ผู้ขับขี่ในกรมธรรม์ทุกคนมีพฤติกรรมการขับขี่ดี ไม่มีอุบัติเหตุเลย ก็จะยิ่งมีโอกาสได้รับส่วนลดประกันรถยนต์ไฟฟ้าในปีต่อไปด้วย

หากยังไม่ชัวร์ว่า ประกันรถ BYD Dolphin ราคาเท่าไหร่ คุ้มครองมากน้อยแค่ไหน และจะตอบโจทย์ความต้องการได้ในแง่มุมใดบ้าง ซันเดย์เองก็มาพร้อมกับประกันรถยนต์ไฟฟ้า BYD Dolphin ให้ผู้ที่สนใจได้พิจารณาและวางแผนค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ด้วยเช่นกัน โดยผู้ที่สนใจสามารถกรอกข้อมูลติดต่อ เพื่อให้เจ้าหน้าที่แนะนำแผนประกันที่ตอบโจทย์ทั้งในแง่ของเบี้ยประกัน ความคุ้มครอง และเงื่อนไขอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องได้เช่นกัน

ซื้อประกันรถ ev

Loading

Share this article
Shareable URL
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง

อัปเดตครบ BYD Seal 2024 มีกี่รุ่น ราคาเท่าไหร่ ซื้อรุ่นไหนดี?

อยากซื้อ BYD Seal แต่ไม่รู้จะซื้อรุ่นไหนดี มาเปรียบเทียบกันที่นี่! ในกลุ่มของรถยนต์แบบ Mid-Size Car หรือ…
BYD Seal มีกี่รุ่น ราคา
0
Share