ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ในหนึ่งวันแทบจะมีทุกฤดู เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวหนาว และไหนจะฝนอีก ทำให้ร่างกายปรับตัวไม่ทัน ทำให้หลายๆ คนเป็นไข้หวัด ไม่สบายไปตามๆ กัน ยิ่งเด็กเล็กที่ภูมิต้านทานยังไม่แข็งแรงคุณพ่อคุณแม่ก็คงอดเป็นห่วงลูกๆ ของตัวเองไม่ได้ และด้วยความที่โรงเรียนเปิดเทอมทำให้เด็กๆ ต้องไปเจอคนหมู่มาก ทำให้ติดหวัดได้ง่าย อย่างเช่น โรค RSV ที่กำลังระบาดอย่างหนักในเด็กเล็กในตอนนี้ ซันเดย์จะพาคุณพ่อคุณแม่ทุกคนไปดูกันว่า
โรค RSV คืออะไร?
โรค RSV (Respiratory Syncytial Virus) หรือหากเรียกให้เข้าใจง่ายขึ้นก็คือ “โรคติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ” เชื้อไวรัสนี้จริงๆ สามารถพบได้ตลอดทั้งปี หากแต่จะแพร่และเจริญเติบโตได้ดีกว่าปกติในช่วงหน้าฝนและหน้าหนาว เป็นไวรัสที่แพร่กระจายไวและติดได้ง่าย ไม่ว่าจะจากการสัมผัส ทางอากาศ การอยู่ใกล้ชิดกับคนหมู่มากหรืออยู่ในกลุ่มคนแออัด เป็นโรคที่ไม่ค่อยแสดงอาหารในผู้ใหญ่ แต่จะเห็นได้ชัดและอาการรุนแรงในเด็กทารก เด็กเล็ก และที่สำคัญจะเสี่ยงมีอาการุนแรงแทรกซ้อน (เช่นปอดอักเสบ) หากเกิดขึ้นในเด็กคลอดก่อนกำหนด เด็กที่มีปัญหาโรคหัวใจ โรคปอด โรคหอบหืด หรือใครก็ตามที่มีภูมิคุ้มกันต่ำมาก ซึ่งโดยปกติแล้วระยะเวลารักษาตัวของโรคนี้จะอยู่ที่ประมาณ 1-2 อาทิตย์ แล้วแต่อาการ
อาการของ โรค RSV เป็นอย่างไร?
เมื่อป่วยเป็นโรค RSV แล้วจะมีอาการยังไง? เนื่องจากโรคนี้เกี่ยวกับระบบหายใจโดยตรง ตัวไวรัสจะลงไปในระบบทางเดินหายใจทั้งส่วนบนและส่วนล่าง อาการจึงคล้ายกับการเป็นไข้หวัดมากจนบางท่านแยกไม่ออก แต่สิ่งที่ต่างออกไปคือจะมีอาการเหนื่อยหอบ ไอและมีเสมหะจำนวนมาก นอกจากนี้ยังคุณพ่อคุณแม่สามารถสังเกตอาการได้จากสิ่งเหล่านี้:
- มีอาการเหนื่อยหอบ หายใจลำบาก
- ไอและมีเสมหะจำนวนมากกว่าปกติ บางรายอาจถึงขั้นอาเจียน
- หายใจแรงผิดปกติจนผิดสังเกต จนถึงขั้นมีเสียงหวีด
- ซึมไม่ร่าเริง ไม่อยากอาหาร
- มีอาการตัวเขียวเนื่องจากร่างกายได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ (cyanosis)
ซึ่งหากเป็นไข้หวัดธรรมดาจะเป็นการไอแห้ง ปวดหัว ปวดตัวและมีน้ำมูกใสๆ ไม่ได้มีอาการหรือปัญหาในด้านหายใจมากเท่ากับโรค RSV เพราะโรคนี้นั้นมีสิธิ์ลงปอดและมุ่งไปทางระบบหายใจโดยตรง แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามหากลูกๆ ของท่านมีอาการดังกล่าวควรพบแพทย์ทันที เพราะไม่ว่าจะไข้หวัดหรือโรค RSV ก็เป็นอันตรายต่อเด็กๆ อยู่ดี
วิธีป้องกันโรค RSV
ปัจจุบันยังไม่มียารักษาโดยตรง มีเพียงแค่ยารักษาตามอาการ ประคับประครองไม่ให้อาการทรุดหนัก เพราะงั้นวิธีที่ดีที่สุดคือการป้องกันไม่ให้ติดโรคนี้ง่ายๆ ดังนี้
- ฉีดวัคซีนหลักให้ครบ เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันและสร้างภูมิต้านทานโรคต่างๆ ให้ร่างกาย
- พักผ่อน ทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายหรือเล่นกิจกรรม และทำให้ร่างกายแข็งแรงตลอดเวลา เพราะหากอยู่ในภาวะขาดวิตามิน อ่อนแรง อ่อนเพลีย โรคจะถามหาได้ง่ายๆ
- หลีกเลี่ยงการใช้ของร่วมกับคนอื่น เช่น ช้อน ส้อม จาน แก้วน้ำ ฯลฯ และการสัมผัสและใกล้กับผู้คนเกินไป เช่น การหอมแก้ม จับมือหรือหน้า ฯลฯ
- หมั่นล้างมือ ทำความสะอาด ฉีดสเปรย์หรือใช้เจลแอลกอฮอล์ เมื่อสัมผัสสิ่งต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ เพราะเชื้อโรคอยู่ได้ทุกที่
- สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาเมื่ออยู่ในที่คนหมู่มาก หลีกเลี่ยงจุดแออัดและอยู่ในสถานที่โปร่งๆ
- หากเป็นหวัดหรือมีความเสี่ยงที่จะเป็น ให้ลูกหยุดเรียนทันทีอย่างน้อย 1-2อาทิตย์ เพื่อป้องกันการติดเชื้อหรือแพร่เชื้อ เพราะโดยส่วนใหญ่นั้นเด็กๆ จะติดมาจากที่โรงเรียน
อัตราการป่วยของโรค RSV ในประเทศไทย อ่านต่อคลิก
ทำประกันสุขภาพเด็กให้ลูก คุ้มครองโรค RSV
เพียงเท่านี้ก็ลดความเสี่ยงที่ลูกของทุกท่านจะติดโรค RSV หรือโรคอื่นๆ ได้ง่ายๆ เพราะหากเกินไม่สบายหรือติดโรคขึ้นมาแล้ว แน่นอนว่ามีความเสี่ยงมากกว่าหลายเท่า ทั้งนี้ทั้งนั้นซันเดย์ยังเชื่อเสมอว่าการป้องกันนั้นย่อมดีกว่าเสมอ และเชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่ทุกท่านนั้นไม่มีมีท่านไหนอยากให้ลูกน้อยของท่านเองเจ็บป่วยใดๆ
นอกจากปกป้องร่างกายของลูกน้อยของคุณแล้ว การมีประกันที่คุ้มครองแบบครอบคลุมก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญ ที่ซันเดย์คุณพ่อคุณแม่สามารถเลือกแบบแผนประกันสุขภาพเด็กออนไลน์ให้ลูกน้อยของคุณเองพร้อมปรับแต่งตามใจชอบได้อีกด้วย ที่สำคัญที่ซันเดย์เราดูแลตั้งแต่เด็กทารกอายุ 15 วัน ไปจนถึง 10 ปี