หน้าหลัก สาระรถยนต์ไฟฟ้า รวมทุกเรื่องเกี่ยวกับ ‘ยางรถยนต์ไฟฟ้า’ อยากซื้อรถ EV ต้องรู้!

รวมทุกเรื่องเกี่ยวกับ ‘ยางรถยนต์ไฟฟ้า’ อยากซื้อรถ EV ต้องรู้!

รวมทุกเรื่องเกี่ยวกับยางรถยนต์ไฟฟ้า

เมื่อพูดถึงการซื้อรถยนต์ไฟฟ้า คนส่วนใหญ่มักให้ความสนใจกับ เครื่องยนต์(มอเตอร์ไฟฟ้า) สมรรถนะ อัตราการประหยัดพลังงาน และงบประมาณในการซื้อรถยนต์เป็นหลัก แต่จะมีน้อยคนนักที่ให้ความสนใจกับอะไหล่ชิ้นสำคัญอย่าง ‘ยางรถยนต์ไฟฟ้า’ เนื่องจากเข้าใจว่า ยางรถยนต์ทั่วไปก็สามารถใช้กับรถยนต์ไฟฟ้าได้เช่นกัน


แล้วความจริงจะเป็นเช่นนั้นหรือไม่ ยางรถยนต์ไฟฟ้าแตกต่างจากยางรถยนต์ทั่วไปอย่างไร มีการบำรุงรักษาที่เหมือนกันหรือไม่ อายุยางรถยนต์ไฟฟ้าจะสั้นกว่ายางรถยนต์สันดาปจริงไหม อ่านบทความนี้จบรับรองได้คำตอบแน่นอน!

รวมทุกเรื่องเกี่ยวกับยางรถยนต์ไฟฟ้า-2

รู้จัก ‘ยางรถยนต์ไฟฟ้า’ กันก่อน

ก่อนที่จะไปพิจารณาถึงความแตกต่างของยางรถยนต์สันดาปทั่วไปและยางสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ลองมาทำความเข้าใจกันก่อนดีกว่าว่า ยางรถยนต์ไฟฟ้าคืออะไร มียี่ห้อไหนให้เลือกสรรกันบ้าง

ยางรถยนต์ไฟฟ้าคืออะไร?

ยางรถยนต์ไฟฟ้า หรือ ยางรถยนต์ EV คือ ยางรถยนต์ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อใช้งานกับรถยนต์ไฟฟ้าที่มีแรงบิดที่สูงกว่ารถยนต์สันดาป นอกจากนี้ รถยนต์ไฟฟ้ายังมีการติดตั้งแบตเตอรี่สำรองพลังงานเอาไว้ ทำให้ตัวรถยนต์มีน้ำหนักมากกว่ารถยนต์ทั่วไปถึง 10% – 20% ส่งผลให้มีจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำ ทำให้เจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าจำเป็นจะต้องเลือกใช้ยางรถไฟฟ้าโดยเฉพาะ

ยางรถยนต์ไฟฟ้าคืออะไร

ยางรถยนต์ไฟฟ้ามียี่ห้อไหนบ้าง?

แม้จะพบเห็นรถยนต์ไฟฟ้าตามท้องถนนได้มากขึ้น แต่ก็ไม่ได้แปลว่าจำนวนยางรถยนต์ไฟฟ้าในท้องตลาดจะสูงขึ้นตาม ในปัจจุบันนี้ ยางรถยนต์ไฟฟ้ายังเป็นอีกหนึ่งอะไหล่ชิ้นสำคัญที่หายากและมีราคาสูงมาก โดยยางรถยนต์ไฟฟ้าบางรุ่นอาจมีราคาเริ่มต้นสูงถึง 1x,xxx บาท/เส้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรุ่น สเปก แบรนด์รถยนต์ ไปจนถึงขนาดของยางรถยนต์ที่เลือกใช้

ณ ขณะนี้ ผู้ผลิตยางรถยนต์ไฟฟ้าที่วางจำหน่ายในเมืองไทยจะมีด้วยกันไม่กี่ยี่ห้อ หลัก ๆ แล้วยางรถยนต์ไฟฟ้าจะมียี่ห้อดังนี้

  • Bridgestone
  • Goodyear
  • MICHELIN
  • Hankook
  • Yokohama
  • Firestone
  • Pirelli
  • Continental

แต่ในอนาคตอันใกล้นี้ ไม่แน่ว่าอาจมีแบรนด์ผู้ผลิตยางรถไฟฟ้ามากขึ้น เพื่อรับกับกระแสรถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังมาแรง ซึ่งอาจส่งผลให้ยางสำหรับรถยนต์ไฟฟ้ามีความหลากหลายทั้งในเรื่องของรุ่น สเปก และราคามากขึ้นเช่นกัน

ยางรถยนต์ไฟฟ้าต่างจากยางรถยนต์ทั่วไปอย่างไรบ้าง

ยางรถยนต์ไฟฟ้าต่างจากยางรถยนต์ทั่วไปอย่างไรบ้าง?

แม้จะเป็นยางที่ช่วยขับเคลื่อนรถยนต์เหมือนกัน แต่เมื่อมีการใช้งานกับรถยนต์คนละประเภท แน่นอนว่ายางรถยนต์ไฟฟ้าและยางรถยนต์ทั่วไป หรือ ยางรถยนต์สันดาปย่อมมีความแตกต่างกันเป็นธรรมดา โดยพื้นฐานแล้ว ยางสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าจะมีความแตกต่างจากยางรถยนต์ทั่วไป 5 ด้าน ดังนี้

1. ทนทานต่อแรงบิดมากกว่า

รถยนต์ไฟฟ้ามาพร้อมกับอัตราเร่งที่เร็วแรง ทั้งยังมีกำลังส่งและแรงบิดที่สูงกว่ารถยนต์สันดาปทั่วไป แน่นอนว่าแรงบิดที่สูงย่อมมาพร้อมกับการสึกหรอที่รวดเร็ว ดังนั้น ยางสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าจึงต้องมีความหนาเป็นพิเศษ ทั้งยังต้องมีการออกแบบตัวยาง ดอกยาง ตลอดจนมีการเลือกใช้สารประกอบยางพิเศษ เพื่อรองรับการใช้งานโดยเฉพาะ

2. เสียงรบกวนน้อยกว่า

รถยนต์ไฟฟ้ามาพร้อมกับประสบการณ์การขับขี่ที่เงียบสงบ ดังนั้น เพื่อรักษาความเงียบในการขับขี่นี้ ยางสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าส่วนใหญ่จึงมีการออกแบบดอกยางพิเศษ ตลอดจนมีการนำสารประกอบดูดซับเสียงมาใช้กับตัวยาง หรือ ผู้ผลิตบางยี่ห้อยังมีการนำโฟมซับเสียงเข้ามาใช้กับตัวยางเพื่อช่วยให้ขับขี่ได้นุ่มและเงียบขึ้นอีกด้วย

3. ยึดเกาะถนนได้ดี

เนื่องจากมีอัตราเร่งที่เร็วแรงและแรงบิดที่สูงมาก ไม่ว่าจะบังคับรถยนต์ไฟฟ้าไปทางไหนก็จะมีแรงกระทำที่มากกว่ารถยนต์สันดาป ด้วยเหตุนี้ ยางสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าจึงต้องรองรับแรงเสียดทานที่มากขึ้น ทั้งยังต้องสามารถยึดเกาะกับถนนได้มากยางรถยนต์ทั่วไป

นอกจากนี้ รถยนต์ไฟฟ้าส่วนใหญ่ยังมีการใช้ระบบ Regenerative Braking ที่จะหน่วงรถยนต์ให้ช้าลงเมื่อมีการชะลอความเร็ว ดังนั้น ยางสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าจึงต้องสามารถทำงานร่วมกับระบบเบรกดังกล่าวได้และมีการยึดเกาะถนนที่ดีด้วยเช่นกัน

4. แรงต้านการหมุนต่ำ ใช้พลังงานน้อย วิ่งได้ไกลขึ้น

การขับเคลื่อนรถยนต์ไฟฟ้าที่มีอัตราเร่งเร็วแรง แรงบิดสูง และมีน้ำหนักมาก ทำให้การแรงต้านทานการหมุนที่สูง ส่งผลให้ต้องใช้เชื้อเพลิง หรือ พลังงานที่มากขึ้น ด้วยเหตุนี้ ยางสำหรับรถยนต์ EV ส่วนใหญ่จึงมีแรงต้านการหมุนที่ต่ำ ซึ่งสามารถช่วยในเรื่องของการประหยัดพลังงาน ส่งผลให้ใช้งานได้ในระยะทางที่ไกลขึ้น ทั้งยังช่วยลดการปล่อยมลพิษสู่สิ่งแวดล้อมได้มากขึ้น 

โดยการพิจารณาแรงต้านการหมุนของยางสามารถดูได้จาก EU Label ตั้งแต่เกรด A – G ที่ติดอยู่กับตัวยาง ซึ่งหากเป็นเกรด A ก็แปลว่ามีแรงต้านทานการหมุนต่ำที่สุดนั่นเอง

5. รองรับน้ำหนักรถยนต์ได้เป็นพิเศษ

ยางรถยนต์ไฟฟ้าสามารถรับน้ำหนักได้มากกว่ายางรถยนต์ทั่วไป เนื่องจากต้องรองรับน้ำหนักของแบตเตอรี่สำรองของรถยนต์ โดยการรับน้ำหนักของยางรถไฟฟ้านี้สามารถดูได้จากค่า Load Index หรือ ดัชนีรับน้ำหนักของยางได้


Q&A Sunday ตอบให้!

Q: นำยางรถยนต์สันดาปมาใช้กับรถยนต์ไฟฟ้าได้หรือไม่?
A: ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ยางรถยนต์ EV มีราคาค่อนข้างสูง จนทำให้ใครหลายคนอดสงสัยไม่ได้ว่า หากต้องการประหยัดงบประมาณจะสามารถนำยางรถยนต์ทั่วไปมาใช้งานกับรถยนต์ไฟฟ้าได้หรือไม่ 
จริง ๆ แล้ว เจ้าของรถยนต์สามารถนำยางรถยนต์ทั่วไป หรือ ยางเรเดียลบางรุ่น มาใช้กับรถยนต์ไฟฟ้าได้ แต่การทำเช่นนี้จะทำให้ใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าได้ไม่เต็มประสิทธิภาพเท่าที่ควร ไม่ว่าจะเป็นอัตราเร่งที่ทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร ทั้งยังมีเสียงรบกวนจากยางระหว่างการขับขี่

นอกจากนี้ ด้วยน้ำหนักและแรงบิดที่สูงกว่ารถยนต์ทั่วไป หากนำยางรถยนต์ธรรมดามาใส่รถยนต์ไฟฟ้า แน่นอนว่าตัวยางก็ย่อมเสื่อมสภาพเร็วขึ้นเป็นธรรมดาเช่นกัน ดังนั้น การใช้ยางรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ ไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานรถยนต์เท่านั้น แต่ยังเป็นยืดอายุยางรถยนต์ไปในตัวอีกด้วย 

การบำรุงรักษายางรถยนต์ไฟฟ้า

เช่นเดียวกับยางรถยนต์ทั่วไป หากต้องการรักษาประสิทธิภาพการทำงานของยางรถยนต์ไฟฟ้าให้ได้มากที่สุด เจ้าของรถยนต์เองจำเป็นที่จะต้องบำรุงรักษาตัวยางด้วยเช่นกัน โดยการบำรุงรักษายางสำหรับรถยนต์ไฟฟ้านั้นสามารถทำได้ ดังนี้

  1. ตรวจสอบลมยางเป็นประจำ ควรเติมลมยางให้เหมาะสมกับสเปกและการใช้งานยาง
  2. เช็กการสึกหรอของยางอยู่เสมอ 
  3. สังเกตการขับขี่ในจังหวะต่าง ๆ อยู่เป็นประจำ หากพบความผิดปกติเมื่อไหร่ ขอแนะนำให้ตรวจสอบสภาพยาง ทั้งนี้เพื่อประสิทธิภาพการใช้งาน ความปลอดภัย และการขับขี่ที่เหมาะกับสมรรถนะรถยนต์
  4. ตรวจสอบการตั้งศูนย์ล้อ ตั้งแต่เปลี่ยนยางใหม่ ระหว่างการใช้งานทั้งในระยะสั้น ระยะยาว รวมไปถึงหลังจากอุบัติเหตุและการขับรถยนต์ไปกระแทกของแข็ง ตกหลุมบ่อ หรือ ต้องใช้กำลังรถยนต์สูง

ยางรถยนต์ไฟฟ้าควรเปลี่ยนเมื่อไหร่ มีการรับประกันหรือไม่?

‘ยางรถยนต์ไฟฟ้ากี่ปีเปลี่ยนที’ เป็นอีกหนึ่งคำถามที่หลายคนสงสัยอยู่ไม่น้อย คำตอบ คือ ขึ้นอยู่กับการใช้งานเป็นหลัก แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว ยางรถยนต์ไฟฟ้าจะมีความทนทานและสมรรถนะที่สูงมาก ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน หากเลือกสเปกยางที่เหมาะสมกับรถยนต์อาจสามารถใช้ยางชุดเดิมได้นานกว่า 5 ปีเลยทีเดียว


นอกจากนี้ ผู้ผลิตยางสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าบางยี่ห้อยังมีการรับประกันยางรถยนต์ EV นานถึง 5 ปี ทำให้เจ้าของรถยนต์สามารถวางใจในการบำรุงรักษาไปได้บางส่วนเช่นกัน

ยางรถยนต์ไฟฟ้ารั่ว-ต้องทำอย่างไร

หากยางรถยนต์ไฟฟ้ารั่ว ต้องทำอย่างไร? 

หากเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่มีระบบ Temp Pressure Monitoring Sensor หรือเซนเซอร์วัดลมยางที่ล้อ ขอแนะนำให้ตั้งสติและขับเข้าข้างทางอย่างระมัดระวัง เนื่องจากการฝืนขับต่อไป หรือ ‘บดยาง’ อาจทำให้ระบบ Temp Pressure Monitoring Sensor เสียหายได้ 

หากรถยนต์ไฟฟ้าไม่มีระบบวัดเซนเซอร์ลมยาง หรือ Temp Pressure Monitoring Sensor ก็ไม่ควรฝืนขับต่อ หรือ ‘บดยาง’ ต่อไปเช่นกัน เพราะอาจสร้างความเสียหายให้กับตัวรถยนต์ ช่วงล่าง รวมถึงเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุได้ 

เมื่อขับรถยนต์เข้าข้างทางได้อย่างปลอดภัยแล้ว ขอแนะนำให้ลงมาประเมินความเสียหายของยาง จากนั้นจึงติดต่อบริการฉุกเฉินของรถยนต์แต่ละค่าย หรือ หาศูนย์ยางรถยนต์ที่ได้มาตรฐานและมีประสบการณ์ซ่อมยางรถยนต์ไฟฟ้าที่ใกล้ที่สุด เพื่อทำการถอดยางรถไฟฟ้าและซ่อมแซมตัวยางอย่างถูกต้องต่อไป 

Sunday Tips:

หากไม่มีความจำเป็น หรือ อยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉิน ขอแนะนำให้หลีกเลี่ยงการซ่อม หรือ ปะยางรถยนต์ EV กับอู่ ศูนย์ หรือ ร้านที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือ ไม่มีประสบการณ์การซ่อมยางสำหรับรถยนต์ไฟฟ้ามาก่อน เนื่องจากบริเวณยางของรถยนต์ไฟฟ้ามีระบบที่ซับซ้อน มีความเปราะบางหลายจุด แถมรถยนต์บางรุ่นยังมี Temp Pressure Monitoring Sensor ติดตั้งเอาไว้

ด้วยเหตุนี้ หากไม่มีความเชี่ยวชาญ หรือ ประสบการณ์ในการซ่อมแซมยางสำหรับรถยนต์ไฟฟ้ามาก่อน อาจส่งผลเสียกับระบบการขับเคลื่อนรถยนต์ ทำให้ระบบที่ติดตั้งอยู่ภายในยางเสียหาย หรืออาจส่งผลต่อความปลอดภัยในการใช้งานในอนาคตได้

จะเห็นได้ว่า ยางรถไฟฟ้าถือเป็นอีกหนึ่งอะไหล่ชิ้นสำคัญที่เจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าควรให้ความสำคัญไม่แพ้กับส่วนอื่น ๆ เลยทีเดียว ไม่เพียงแต่จะหมั่นดูแลรักษายางรถยนต์ เพื่อรักษาประสิทธิภาพการใช้งานที่ส่งผลต่อความปลอดภัยในการขับขี่เท่านั้น การเลือกประกันรถยนต์ไฟฟ้าที่คุ้มครองครอบคลุมถึงยางรถยนต์ไฟฟ้าก็เป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้กัน

มองหาประกันรถยนต์ไฟฟ้า เลือกประกันรถยนต์ไฟฟ้าจาก Sunday ออกแบบความคุ้มครองที่ใช้ในเบี้ยประกันที่เหมาะสมได้ด้วยตัวคุณเอง อุ่นใจทุกการเดินทางด้วยรถยนต์ไฟฟ้า คุ้มครองครอบคลุมถึงยางรถยนต์ไฟฟ้าในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุและมีความเสียหายกับส่วนอื่นของรถยนต์ในเวลาเดียวกัน* 

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่ระบุในกรมธรรม์

Share this article
Shareable URL
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง

เหตุผลที่เบี้ยประกันรถยนต์ไฟฟ้าแพงกว่ารถยนต์ทั่วไป

ทำไมเบี้ยประกันรถยนต์ไฟฟ้าถึงแพงกว่าประกันรถยนต์ทั่วไป? “ประกันรถยนต์ไฟฟ้าแพงไหม” เป็นอีกหนึ่งคำถามที่หลายๆ…
why-ev-car-insurance-premium-more-expensive

จริงไหม? รถยนต์ไฟฟ้า ประหยัดกว่ารถน้ำมัน

รถ EV ที่ไม่ได้มีแค่รักษ์โลก แต่ประหยัดได้มากกว่า! ในยุคที่คนรอบ ๆ ตัวเริ่มหันไปใช้งาน รถยนต์ไฟฟ้า…
benefits-of-electric-cars-vs-gasoline-cost-savings
0
Share