หน้าหลัก เรื่องราวรอบตัว รู้จักกับ Burnout Syndrome ภาวะหมดไฟ ที่ทำยังไงใจก็ไม่สู้

รู้จักกับ Burnout Syndrome ภาวะหมดไฟ ที่ทำยังไงใจก็ไม่สู้

Burnout Syndrome ภาวะหมดไฟ หมดใจกับการทำงาน

Burnout Syndrome หรือภาวะหมดไฟ ใครไม่เคยเป็นคงไม่เข้าใจแน่ ๆ ว่าอาการมันเป็นอย่างไรกันแน่ สำหรับใครที่เคยเป็น หรือกำลังหมดไฟอยู่ ซันเดย์ขอให้วางใจ เพราะวันนี้เราจะไปดำดิ่งสู่ต้นเหตุของการเกิดภาวะนี้กัน จะได้ลองสำรวจตัวเองว่าปัญหาเกิดจากอะไร ก่อนที่จะหาวิธีแก้เพื่อสุขภาพที่ดีของเราต่อไป 

Burnout Syndrome คืออะไร?

Burnout Syndrome หรือภาวะหมดไฟ คือภาวะที่ทำให้เรารู้สึกไม่อยากทำงาน ไม่อยากทำสิ่งที่ทำอยู่ ไม่มีแรงจูงใจที่จะสร้างสรรค์ผลงานดี ๆ เหมือนตื่นขึ้นมาแล้วก็ทำหน้าที่ไปวัน ๆ บางคนอาจจะถึงขั้นรู้สึกว่าตัวเองไม่มีความสามารถ ไม่ประสบความสำเร็จในสิ่งที่ทำอยู่ จนทำให้รู้สึกถอดใจและตั้งคำถามกับตัวเองบ่อย ๆ ว่านี่เรากำลังทำอะไรอยู่ เราควรหยุดทำงานนี้ดีไหมนั่นเอง

ส่วนมากซันเดย์มักจะเห็นคนพูดถึงภาวะหมดไฟกับการทำงานเท่านั้น แต่จริง ๆ แล้วภาวะนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกอย่างเลย ไม่ว่าจะเป็น การเรียน การอ่านหนังสือสอบ การทำงานอดิเรกหรือแม้กระทั่งการใช้ชีวิตในแต่ละวัน ซึ่งถ้าปล่อยให้เกิดภาวะนี้นาน ๆ เข้า อาจจะส่งผลทำให้เกิดปัญหาทางด้านจิตใจตามมาได้ แถมยังทำให้เราทำงาน เรียนและทำสิ่งต่าง ๆ ได้แย่ลงอีกด้วย

Burnout Syndrome เกิดจากอะไรได้บ้าง?

ถ้าเราคิดดี ๆ คำว่า Burnout คือคำที่ใช้บ่งบอกถึงอาการที่ไม่มีแรงจูงใจ หมดไฟในการทำสิ่งต่าง ๆ ซึ่งความรู้สึกเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้จากหลากหลายสาเหตุด้วยกัน เช่น

  • ความกดดันที่มากเกินไป เช่น ต้องติวหนังสืออย่างหนักเพื่อทำข้อสอบให้ได้คะแนนตามข้อกำหนด หรือการรับผิดชอบงานใหญ่ ๆ โดยที่ไม่ได้รับความช่วยเหลือจากทีม ทำให้เรารู้สึกกดดันอย่างต่อเนื่อง จนทำให้รู้สึกกดดัน และรู้สึกหมดสนุกกับการทำสิ่งที่ได้รับมอบหมาย
  • ความเครียดสะสม อาจจะเกิดจากสังคมในที่ทำงาน ที่ไม่มีระบบการทำงานเป็นทีม รู้สึกเครียดจากความคาดหวังของพ่อแม่ หัวหน้าหรือคนรักเองก็ทำให้เกิดอาการหมดไฟได้เช่นกัน
  • ทำงานหนักเกินไป แรก ๆ การทำงานหนักดูเหมือนจะเป็นความท้าทายที่น่าก้าวข้าม แต่ถ้าทำงานหนักติดต่อกันจนไม่ได้พักผ่อนเลย ก็สามารถทำให้เกิดความเหนื่อยล้าจนทำให้จิตใจถดถอยได้
  • สิ่งที่ทำอยู่ไม่มีความท้าทายเองก็ทำให้หลาย ๆ คนเกิดภาวะหมดไฟได้ โดยเฉพาะกับคนที่ชอบสร้างสรรค์ ชอบค้นหาสิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ การที่ต้องทำงานเดิมซ้ำ ๆ สามารถทำให้รู้สึกเบื่อ รู้สึกเหมือนไม่มีอะไรก้าวหน้า และเกิดคำถามกับตัวเองได้ว่านี่เรากำลังทำอะไรกันอยู่แน่
  • ความคาดหวังที่เกินจริง ทำให้หลาย ๆ คนเผชิญกับภาวะหมดไฟกันมานักต่อนักแล้ว เมื่อตั้งความหวังที่สูงจนเกินไป ทำให้เกิดความกดดันสูง และเมื่อทำไม่สำเร็จก็จะกลับมาโทษตัวเองและมองว่าสิ่งที่ตัวเองทำนั้นไม่มีคุณค่า
  • พักผ่อนไม่เพียงพอ ก็ทำให้เกิดภาวะหมดไฟได้นะ เพราะสมองของเราต้องการการพักผ่อนที่มีประสิทธิภาพ เพื่อทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
  • ไม่มีเวลาสำหรับชีวิตส่วนตัว ทำให้เกิดความเครียดสะสม นาน ๆ เข้าก็มักจะทำให้เรารู้สึกว่าเรากำลังอยู่ผิดที่ผิดทาง ทำไมจึงไม่ได้มีเวลาออกไปเจอเพื่อน ๆ บ้างเลย ขาดปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น ทำให้จิตใจเรารู้สึกห่อเหี่ยวได้ไม่แพ้กัน

จะรู้ได้อย่างไรว่าเรามีอาการ Burnout Syndrome

เชื่อไหมว่าคนที่มีภาวะหมดไฟส่วนมาก แทบจะไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองมีอาการนี้ จนกระทั่งอาการชัดเจนขึ้นมาก ๆ แล้ว ซันเดย์เลยเอาข้อสังเกตมาให้ทุกคนได้ลองตรวจสอบกันว่าเรามีอาการเหล่านี้บ้างไหม

  • รู้สึกไม่อยากไปทำงาน ไม่อยากไปเรียน ไม่อยากลุกออกจากที่นอน
  • รู้สึกอ่อนเพลีย ถึงแม้ว่าจะนอนหลับได้เต็มที่
  • รู้สึกเบื่อหน่ายกับสิ่งที่ทำ สิ่งที่เคยชอบทำก็กลับรู้สึกว่าไม่ชอบแล้ว
  • มีอาการปวดหัว มึนหัว ปวดกล้ามเนื้อ
  • ภูมิตก ป่วยง่ายกว่าปกติ
  • โฟกัสกับสิ่งที่ทำได้ไม่นาน สักพักก็รู้สึกเบื่อจนต้องหาอย่างอื่นทำ
  • นอนไม่หลับ หรือนอนหลับไม่สนิท
  • รู้สึกหงุดหงิดกับสิ่งเล็กน้อยบ่อยขึ้น
  • ไม่ค่อยอยากพูดคุยกับคนอื่น ๆ อยากอยู่คนเดียวเงียบ ๆ 

ผลกระทบด้านสุขภาพที่มาพร้อมกับ Burnout Syndrome

นอกจากอาการข้างต้นที่ว่ามาแล้ว หากปล่อยทิ้งไว้นาน ๆ Burnout Syndrome ก็สามารถทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยที่หนักมากขึ้นได้ เช่น

  • เกิดภาวะซึมเศร้า เกิดจากความเหนื่อยล้าทางจิตใจ ทำให้ความมั่นใจลดลง รู้สึกไร้ค่า ไม่มีความสุขกับสิ่งที่ทำ ไม่อยากเข้าหาผู้คนเหมือนเคย
  • เกิดโรคนอนไม่หลับได้ง่ายขึ้น เพราะมีความเครียดสะสม ทำให้นอนหลับได้ไม่เพียงพอ นอนหลับได้ช้า นอนหลับไม่สนิท 
  • เสี่ยงต่อโรคหัวใจและความดันโลหิตสูง เกิดจากการที่ระบบหัวใจและหลอดเลือดทำงานได้ไม่เต็มที่

นอกจากนี้ อาการของ Burnout Syndrome ก็ยังส่งผลต่อการใช้ชีวิตในด้านอื่น ๆ อีกด้วย เช่น การสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้คนรอบ ๆ ตัว ไปจนถึงการดูแลตัวเองโดยรวม 

Burnout Syndrome สามารถแก้ไขได้ไหม?

ต้องบอกว่าอาการที่มากับ Burnout Syndrome นั้นสามารถแก้ไขได้ แต่ถ้าจะให้ดีที่สุด ควรจะต้องกลับไปแก้ไขที่จุดเริ่มต้นที่ทำให้เราเกิดความรู้สึกเบื่อหน่ายกับสิ่งที่ทำ ไม่ว่าจะเป็น ลักษณะงานที่ทำ บรรยากาศในการทำงาน สถานที่ทำงาน ปัญหากับเพื่อนร่วมงาน ความกดดันที่มีต่อตัวเอง ความคาดหวังจากคนรอบข้าง ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะสามารถรู้เท่าทันตัวเองได้ แต่ Burnout Syndrome ก็มีวิธีแก้ที่เราสามารถเริ่มทำได้เลยเช่นกัน จะได้เอาตัวรอดจากสถานการณ์นี้ได้ในเบื้องต้นก่อน

อยากใช้ซูเปอร์แอปฯ Jolly by Sunday ต้องทำอย่างไร?

แอปประกันซูเปอร์แอปฯ Jolly by Sunday ทำอะไรได้บ้าง?

หากคุณเป็นอีกคนที่อยากใช้ซูเปอร์แอปฯ Jolly by Sunday แอปประกันที่ตอบโจทย์ความต้องการทุกอย่างได้ครอบคลุมแบบนี้ สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันมาใช้งานได้ในทันที ผ่าน App Store หรือ Google Play Store แล้วอย่าลืมติดตามข่าวสารและโปรโมชันดีๆ จากซันเดย์ในทุกๆ วันของคุณ

Share this article
Shareable URL
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง

รู้จักกับ Vacation Guilt ลางานแล้วรู้สึกผิด พร้อมวิธีปรับตัวแบบมือโปร

ลางานแล้วรู้สึกผิดเกิดจากอะไร ต้องปรับตัวอย่างไรดี? มีใครเป็นแบบนี้บ้าง? ทำงานหนักมาตลอดทั้งปี…

รวมไอเดียของขวัญคริสต์มาสเพื่อสุขภาพโดนใจคนให้ ถูกใจคนรับ

รวมของขวัญคริสต์มาสเพื่อสุขภาพ จะให้เพื่อนหรือแฟนก็เลิศ! เริ่มมีอากาศเย็น ๆ มาให้สัมผัสกันในช่วงปลายปี…
health-focused-christmas-gift-ideas-for-everyone

อาการแพ้แอลกอฮอล์เป็นอย่างไร อันตรายแค่ไหน พร้อมวิธีแก้

คนแพ้แอลกอฮอล์มีอาการเป็นอย่างไรบ้าง?  อาการแพ้แอลกอฮอล์หรือแพ้เหล้าเป็นอาการที่พบได้ไม่มาก…
alcohol-allergy-symptoms-risks-and-solutions
0
Share