โรคร้ายแรงที่พบในผู้ป่วยอายุน้อยลงเรื่อยๆ นั้นมีสาเหตุหลักจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตและมลภาวะที่เปลี่ยนไป ไม่ว่าจะเป็นความเครียดสะสมที่เพิ่มมากขึ้น การพักที่ไม่เพียงพอ ไปจนถึงการรับประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้ร่างกายอ่อนแอลง
แล้วโรคร้ายแรงคืออะไร มีอะไรบ้าง และมีโรคไหนที่พบในผู้ป่วยอายุน้อยบ้าง ลองมาทำความรู้จักกับ 5 โรคร้ายแรงที่พบได้ในผู้ป่วยอายุน้อย พร้อมเข้าใจถึงสาเหตุและแนวทางป้องกัน เพื่อรับมือกับความเสี่ยงด้านการเจ็บป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นกัน

ทำไมเจอโรคร้ายแรงในคนอายุน้อยลง?
ในปัจจุบันนี้ โรคร้ายแรงพบได้บ่อยขึ้นในผู้ป่วยอายุน้อยลงเรื่อยๆ โดยมีสาเหตุหลักมาจากปัจจัยด้านพฤติกรรม สภาพแวดล้อม และพันธุกรรมที่ทำงานร่วมกัน ปัจจัยเหล่านี้ถือเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันเสื่อมถอยลงและเพิ่มโอกาสในการเกิดเซลล์ที่ผิดปกติ หรือ การทำงานของอวัยวะที่ผิดเพี้ยนไป
ที่สำคัญ จากข้อมูลงานวิจัยและสถิติจากองค์การอนามัยโลก (WHO) และสถาบันมะเร็งแห่งชาติ พบว่าผู้ป่วยอายุน้อยที่มีอาการป่วยจากโรคร้ายแรง เช่น มะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก หรือโรคหัวใจและหลอดเลือด มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากสาเหตุหลัก ดังนี้
- พฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น การบริโภคอาหารแปรรูป อาหารรสหวานและเค็มจัด การสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ และขาดการออกกำลังกาย ล้วนส่งผลเสียต่อการทำงานของเซลล์และอวัยวะภายใน
- ความเครียดและการพักผ่อนไม่เพียงพอ การทำงานหนักและรูปแบบชีวิตที่เร่งรีบทำให้ร่างกายมีการสะสมความเครียดอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดการอักเสบเรื้อรังและเป็นปัจจัยกระตุ้นให้เกิดโรคร้ายแรงได้
- มลภาวะและสิ่งแวดล้อม การได้รับสารเคมี มลภาวะทางอากาศ (PM 2.5) หรือ การสัมผัสสารก่อมะเร็งเป็นเวลานาน เช่น บุหรี่มือสอง หรือ การรับประทานอาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะนั้นสามารถส่งผลกระทบโดยตรงต่อระบบภูมิคุ้มกัน และเพิ่มความเสี่ยงโรคร้ายแรงอย่างมะเร็งได้
- การวินิจฉัยที่ไม่ทันเวลา โดยส่วนใหญ่แล้ว โรคร้ายแรงมักไม่แสดงอาการในช่วงแรก ทำให้ผู้ป่วยละเลยและไม่ได้ไปพบแพทย์ นอกจากนี้ การตรวจสุขภาพประจำปีทั่วไปอาจไม่สามารถคัดกรองความเสี่ยงในระดับยีนหรือปัจจัยทางชีวภาพอื่นๆ ได้ ทำให้กว่าจะตรวจพบก็เข้าสู่ระยะที่รักษาได้ยากแล้ว
ตรวจสุขภาพ ทำไมไม่เจอโรคร้ายแรง? แม้จะมีการตรวจสุขภาพเป็นประจำ แต่หลายๆ ครั้ง บางคนกลับไม่พบต้นตอ หรือ สัญญาณของโรคร้ายแรงจนกว่าจะเข้าสู่ระยะรุนแรง ทั้งนี้เป็นเพราะโรคส่วนใหญ่ในระยะเริ่มต้นมักไม่มีอาการชัดเจน อีกทั้งการตรวจสุขภาพประจำปีทั่วไปอาจยังไม่ครอบคลุมการคัดกรองโรคเชิงลึก ด้วยเหตุนี้ นอกจากจะตรวจสุขภาพประจำปีแล้ว แต่ละคนยังควรตรวจคัดกรองโรคร้ายแรงต่างๆ ด้วยเช่นกัน เช่น โรคมะเร็งเต้านมและโรคมะเร็งปากมดลูกเพศหญิง และ โรคมะเร็งต่อมลูกหมากในเพศชาย |
5 โรคร้ายแรงที่พบได้บ่อยในผู้ป่วยอายุน้อย
หลายคนอาจคิดว่าโรคร้ายแรงเป็นเรื่องไกลตัว แต่ในความเป็นจริงแล้ว โรคร้ายแรงถือเป็นอีกหนึ่งการเจ็บป่วยที่กำลังคุกคามชีวิตของคนวัยทำงานอย่างเงียบๆ โดยเฉพาะ 5 โรคร้าย ดังนี้
1. มะเร็ง (Cancer)
มะเร็ง คือ กลุ่มโรคที่เกิดจากการที่เซลล์ในร่างกายมีการเจริญเติบโตผิดปกติและควบคุมไม่ได้จนกลายเป็นก้อนเนื้อร้ายที่สามารถลุกลามไปยังอวัยวะส่วนอื่นๆ ได้
ในปัจจุบันนี้ มะเร็งพบได้ในผู้ป่วยอายุน้อยลงเรื่อยๆ โดยเฉพาะมะเร็งที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินอาหารและระบบสืบพันธุ์ โดยเฉพาะมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก มะเร็งเต้านม และมะเร็งต่อมไทรอยด์ ที่พบได้บ่อยมากขึ้น
นอกจากนี้ ในประเทศไทยยังมีรายงานการมะเร็งที่หายาก เช่น มะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเฉียบพลัน (Acute Myeloid Leukemia – AML) และมะเร็งกระดูก (Osteosarcoma) ซึ่งมักพบในผู้ป่วยวัยเด็ก หรือ วัยรุ่นด้วยเช่นกัน
2. โรคหัวใจและหลอดเลือด (Cardiovascular Disease)
โรคหัวใจและหลอดเลือด คือ กลุ่มโรคที่ส่งผลต่อการทำงานของหัวใจและหลอดเลือดแดง โดยเฉพาะโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดและหลอดเลือดสมอง
สาเหตุหลักของกลุ่มโรคหัวใจและหลอดเลือดเกิดจากการสะสมของไขมันในหลอดเลือดจนเกิดภาวะหลอดเลือดตีบและอุดตัน ซึ่งสัมพันธ์กับพฤติกรรม เช่น การกินอาหารไขมันสูง ความเครียด การสูบบุหรี่ และภาวะน้ำหนักเกินในวัยหนุ่มสาว ซึ่งแม้จะเป็นคนอายุน้อยก็เสี่ยงเป็นโรคร้ายแรงนี้ได้เช่นกัน
3. โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke)
โรคหลอดเลือดสมอง คือ ภาวะที่สมองขาดเลือดไปเลี้ยงอย่างเฉียบพลันจากหลอดเลือดสมองแตกหรืออุดตัน ซึ่งทำให้เนื้อเยื่อสมองถูกทำลายและอาจทำให้เป็นอัมพาตหรือเสียชีวิตได้
สาเหตุหลักของกลุ่มโรคหลอดเลือดสมองในกลุ่มคนอายุน้อย อาจเกิดขึ้นจากภาวะหลอดเลือดผิดปกติแต่กำเนิด หรือ การเกิดลิ่มเลือดที่หัวใจจากโรคบางชนิด เช่น หัวใจเต้นผิดจังหวะ หรือ เกิดจากภาวะไขมันในเลือดสูงและเบาหวานที่ไม่ได้รับการรักษา
4. โรคเบาหวาน (Diabetes)
โรคเบาหวาน คือ ภาวะที่ระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ เนื่องจากร่างกายผลิตอินซูลินได้ไม่เพียงพอหรือดื้อต่ออินซูลิน
ในปัจจุบันนี้ มีรายงานการพบผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 มากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มวัยทำงานและวัยรุ่น ซึ่งมีสาเหตุสัมพันธ์กับพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น การกินน้ำตาลและแป้งในปริมาณมาก และการขาดการออกกำลังกาย โดยหากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนรุนแรง เช่น โรคไตวาย โรคตาบอด หรือ โรคหัวใจได้
5. โรคไตวายเรื้อรัง (Chronic Kidney Disease)
โรคไตวายเรื้อรัง คือ ภาวะที่ไตไม่สามารถทำหน้าที่ขับของเสียออกจากร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โดยสาเหตุของโรคไตวายเรื้อรังมักเกิดขึ้นจากโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงที่ควบคุมไม่ได้เป็นเวลานาน รวมถึงการใช้ยาแก้ปวดที่มากเกินไป หรือ ภาวะแพ้ภูมิตัวเองบางชนิดที่ทำลายเนื้อเยื่อไต ผู้ป่วยกลุ่มนี้มักไม่มีอาการในระยะแรก แต่เมื่อไตวายในระยะรุนแรงอาจจำเป็นต้องได้รับการฟอกไต หรือ ปลูกถ่ายไต ซึ่งเป็นการรักษาที่ละเอียดอ่อน ใช้ระยะเวลานาน และมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก

วิธีเตรียมรับมือกับโรคร้ายแรง บริหารความเสี่ยงได้ตั้งแต่วันนี้
การรับมือกับโรคร้ายแรงไม่ใช่แค่การรอให้เกิดแล้วค่อยรักษา แต่คือการป้องกันและเตรียมพร้อมให้ทันท่วงทีทั้งในด้านสุขภาพและการเงิน แม้ว่าจะมีสุขภาพที่แข็งแรงในวันนี้ ก็ย่อมมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคร้ายแรงได้เช่นกัน โดยทุกคนสามารถเตรียมรับมือความเสี่ยงโรคร้ายแรงได้ง่ายๆ ใน 3 วิธีดังนี้
1. ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
พยายามลดความเครียดโดยหาเวลานั่งสมาธิ หรือ ทำกิจกรรมที่ผ่อนคลาย และควรพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 7 – 8 ชั่วโมงต่อคืน พร้อมเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผัก ผลไม้ และโปรตีน และควรออกกำลังกายเป็นประจำอย่างน้อย 3 – 4 วันต่อสัปดาห์
2. ตรวจสุขภาพเชิงรุก
แทนที่จะรอให้มีอาการป่วย ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพประจำปีที่ครอบคลุมการคัดกรองความเสี่ยงเชิงลึก เช่น ตรวจคัดกรองมะเร็งสำหรับคนที่มีประวัติในครอบครัว หรือ การตรวจวัดระดับไขมันและน้ำตาลในเลือดอย่างละเอียด เพื่อให้พบความผิดปกติได้ตั้งแต่เนิ่นๆ
3. วางแผนการเงิน
โรคร้ายแรงจัดเป็นกลุ่มโรคที่มีค่ารักษาพยาบาลสูงมาก ทั้งยังต้องอาศัยการรักษาที่ต่อเนื่อง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องทางการเงินได้ ด้วยเหตุนี้ การทำประกันสุขภาพ หรือ ประกันโรคร้ายแรงจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำคัญที่จะช่วยคุ้มครองและลดภาระค่าใช้จ่ายในยามฉุกเฉินได้
โรคร้ายแรง แม้จะมีโอกาสเกิดได้น้อย แต่ก็ยังมีความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นได้โดยไม่ทันตั้งตัว ด้วยเหตุนี้ การวางแผนเตรียมพร้อมไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะการมีเงินสำรองและมีความคุ้มครองสำหรับค่ารักษาพยาบาลโรคร้ายแรงที่สูงมาก หากอยากเข้าใจให้ชัดเจนยิ่งขึ้นว่า ทำไมประกันโรคร้ายแรงถึงสำคัญ สามารถอ่านต่อได้ที่ บทความนี้

ประกันโรคร้ายแรง “เจอ จ่าย จริง” ของซันเดย์ พร้อมเป็นอีกหนึ่งทางเลือกดีๆ ที่ช่วยคุ้มครองโรคร้ายแรงในเบี้ยเริ่มต้นแค่หลักร้อย พร้อมรับเงินก้อนเมื่อตรวจพบ 1 ใน 22 โรคร้ายแรงตามเงื่อนไขในกรมธรรม์ ให้คุณได้มีตัวช่วยคุ้มครองสำหรับการรักษาพยาบาลโรคร้ายแรง เพื่อการรักษาที่ต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพมากที่สุด
เช็กเบี้ยประกันโรคร้ายแรง “เจอ จ่าย จริง” ของซันเดย์ได้ง่ายๆ ใช้แค่ “วันเดือนปีเกิด” เท่านั้น
