ครบจบที่เดียว! ซื้อประกันรถยนต์ต้องเข้าใจอะไรบ้าง?
ประกันรถยนต์ ถือเป็นหนึ่งในเรื่องสำคัญที่คนมีรถยนต์ต้องวางแผนให้ดี ทั้งในเรื่องของความคุ้มครอง ความสะดวกในการใช้งาน รวมถึงค่าใช้จ่ายอย่างเบี้ยประกันรถยนต์ที่ต้องเสียในแต่ละปี
สำหรับใครที่ยังไม่มีประสบการณ์ซื้อประกันรถยนต์มาก่อน หรือถึงรอบที่ต้องต่อประกันรถยนต์ใหม่แล้ว แต่ยังไม่มั่นใจว่าจะเลือกประกันรถยนต์อย่างไรให้ตอบโจทย์ตั้งแต่ครั้งแรก ลองมาดูทุกเรื่องสำคัญที่ต้องเข้าใจให้ดีก่อนซื้อประกันรถยนต์กัน
ประกันรถยนต์ คืออะไร?
จริงอยู่ว่า การตั้งสติก่อนสตาร์ทสามารถช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุจากการขับขี่รถยนต์ได้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว บางครั้งอุบัติเหตุก็สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย ทั้งจากเส้นทาง สภาพอากาศ การทำงานของรถยนต์ ไปจนถึงการขับขี่ของบุคคลอื่นๆ ที่ใช้เส้นทางร่วมกัน ด้วยเหตุนี้ ต่อให้ขับรถยนต์โดยไม่ประมาทก็ไม่ได้แปลว่าจะไม่มีความเสี่ยงจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้
โดย “ประกันรถยนต์” ถือเป็นหนึ่งในตัวช่วยสำคัญที่จะเข้ามาบริหารความเสี่ยงด้านการเงินที่เกิดขึ้นจากอุบัติเหตุ หรือ เหตุไม่คาดฝัน ไม่ว่าจะเป็นค่าซ่อมแซมรถยนต์ ค่าชดเชยจากการโจรกรรมหรือภัยธรรมชาติ การรับผิดชอบต่อคู่กรณี รวมถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกิดขึ้นจากอุบัติเหตุรถยนต์
จะเห็นได้ว่า ไม่เพียงแต่จะช่วยบริหารความเสี่ยงให้กับรถยนต์ของผู้เอาประกันเท่านั้น แต่การซื้อประกันรถยนต์ ซึ่งเป็นประกันภัยภาคสมัครใจ ก็สามารถช่วยบริหารความเสี่ยงของผู้ใช้ท้องถนนคนอื่นได้เช่นกัน
ประเภทของประกันรถยนต์
ประกันรถยนต์แต่ละประเภท ไม่เพียงแต่จะมีเบี้ยประกันที่ไม่เหมือนกันเท่านั้น แต่ยังมาพร้อมกับความคุ้มครองที่แตกต่างกันด้วย โดยประเภทของประกันรถยนต์ในปัจจุบันสามารถแบ่งออกเป็น 5 ประเภท ดังนี้
1. ประกันรถยนต์ชั้น 1
ประกันรถยนต์ชั้น 1 เป็นประกันรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองสูงสุด เหมาะสำหรับรถยนต์คันใหม่ รวมถึงมือใหม่หัดขับที่ต้องการความคุ้มครองครอบคลุม ไปจนถึงผู้ขับขี่ที่รถยนต์อายุไม่เกิน 10 ปีที่ต้องการรับความคุ้มครองรอบด้านมากที่สุด
จุดเด่นของประกันรถยนต์ชั้น 1
- คุ้มครองรถยนต์ทั้งแบบมีคู่กรณีและไม่มีคู่กรณี
- ให้ความคุ้มครองกับบุคคลภายนอก ทั้งการบาดเจ็บ ความเสียหาย รวมถึงยานพาหนะของบุคคลอื่นที่เกิดจากรถยนต์คันเอาประกันภัย และ พิสูจน์แล้วว่าผู้เอาประกันเป็นฝ่ายผิด
- ความเสียหายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น การถูกโจรกรรม ความเสียหายจากไฟไหม้รถยนต์ ภัยธรรมชาติ ค่าประกันตัว ค่ารักษาพยาบาล และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
2. ประกันรถยนต์ชั้น 2+
ประกันรถยนต์ชั้น 2+ จะให้ความคุ้มครองคล้ายคลึงกับประกันรถยนต์ชั้น 1 แต่จะมีเบี้ยประกันที่ถูกกว่า เหมาะสำหรับผู้ที่มีประสบการณ์การขับขี่ ผู้ที่มีอายุรถยนต์ไม่เกิน 10 ปี ไปจนถึงผู้ที่ใช้งานรถยนต์เป็นประจำ หรือ รถยนต์จอดอยู่ในพื้นที่เสี่ยง
จุดเด่นของประกันรถยนต์ชั้น 2+
- คุ้มครองความเสียต่อตัวรถยนต์เฉพาะแบบมีคู่กรณี และ ต้องสามารถระบุคู่กรณีได้เท่านั้น
- ความรับผิดชอบต่อบุคคลภายนอก ทั้งจากการบาดเจ็บและความเสียหายทางทรัพย์สิน ในกรณีที่พิสูจน์ว่าผู้เอาประกันเป็นฝ่ายผิด
- ความเสียหายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นการถูกโจรกรรมรถยนต์ ความเสียหายจากไฟไหม้รถยนต์ ภัยธรรมชาติ ค่าประกันตัว ค่ารักษาพยาบาล และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
3. ประกันรถยนต์ชั้น 2
ประกันรถยนต์ชั้น 2 มาพร้อมกับเบี้ยประกันราคาประหยัด เหมาะสำหรับผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในการขับขี่
จุดเด่นของประกันรถยนต์ชั้น 2
- ความรับผิดต่อบุคคลภายนอก ทั้งการบาดเจ็บ การเสียชีวิต และความเสียหายด้านทรัพย์สิน ในกรณีที่พิสูจน์แล้วว่าผู้เอาประกันเป็นฝ่ายผิด
- คุ้มครองการถูกโจรกรรม รถยนต์ไฟไหม้ ค่ารักษาพยาบาลเนื่องมาจากอุบัติเหตุ และค่าประกันตัว
4. ประกันรถยนต์ชั้น 3+
ประกันรถยนต์ชั้น 3+ เหมาะสำหรับผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในการขับขี่รถยนต์ รถยนต์อายุมากกว่า 10 ปีขึ้นไป รวมถึงผู้ที่กำลังมองหาประกันรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองเฉพาะที่จำเป็นในเบี้ยประกันที่คุ้มค่า
จุดเด่นของประกันรถยนต์ชั้น 3+
- คุ้มครองความเสียหายรถยนต์ของผู้เอาประกันในกรณีรถชนเท่านั้น และ ไม่คุ้มครองค่าความเสียหายในกรณีที่เกิดเหตุไฟไหม้ น้ำท่วม และถูกโจรกรรมหรือสูญหาย
- คุ้มครองคู่กรณี ทั้งความเสียหายรถยนต์ ทรัพย์สิน และค่ารักษาพยาบาล
- คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลของผู้เอาประกันและผู้โดยสาร
- ให้ความคุ้มครองอื่นๆ ตามเงื่อนไขกรมธรรม์ที่บริษัทประกันกำหนด
5. ประกันรถยนต์ชั้น 3
ประกันรถยนต์ชั้น 3 เหมาะสำหรับผู้ที่มีประสบการณ์ขับขี่สูงและกำลังมองหาประกันรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองเฉพาะที่จำเป็น
จุดเด่นของประกันรถยนต์ชั้น 3
- ให้ความคุ้มครองคู่กรณี เฉพาะการซ่อมรถยนต์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น
- คุ้มครองในส่วนของค่ารักษาพยาบาล ค่าประกันตัว เงินชดเชยอุบัติเหตุส่วนบุคคลของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
Sunday Q&A คำถาม: มีพ.ร.บ. อยู่แล้ว ยังต้องซื้อประกันรถยนต์อยู่ไหม? คำตอบ: พ.ร.บ. เป็นประกันภัยภาคบังคับที่จะคุ้มครองทุกคนที่ได้รับผลกระทบจากอุบัติเหตุทางถนน ตั้งแต่ค่ารักษาพยาบาล ไปจนถึงยังการสูญเสียอวัยวะและการสูญเสียชีวิต แต่จะไม่คุ้มครองความเสียหายที่เกิดกับรถยนต์ของคุณ หรือ บุคคลภายนอก ดังนั้น การซื้อประกันรถยนต์ ซึ่งเป็นประกันภัยภาคสมัครใจเอาไว้ จะช่วยเพิ่มความคุ้มครองในส่วนอื่นๆ ตามประเภทของประกันรถยนต์ ทั้งยังมอบความอุ่นใจให้กับการใช้รถยนต์และท้องถนนมากยิ่งขึ้น |
ประกันรถยนต์ ไม่คุ้มครองอะไรบ้าง?
แม้จะให้ความคุ้มครองที่หลากหลาย แต่ประกันรถยนต์ยังมีข้อยกเว้นการคุ้มครองด้วยเช่นกัน โดยหลักๆ แล้ว ประกันรถยนต์จะไม่คุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการเมาแล้วขับ รวมถึงการใช้รถยนต์ในกิจกรรมที่ผิดกฎหมายทุกประการ
นอกจากนี้ การนำรถยนต์ไปแต่ง หรือ ดัดแปลงเกินกฎหมายกำหนด ก็ไม่ได้รับความคุ้มครองจากประกันรถยนต์เช่นกัน โดยการดัดแปลงรถยนต์ที่จะไม่ได้รับความคุ้มครองจะแบ่งเป็น 7 กรณี ดังนี้
- การติดตั้งท่อไอเสียที่มีเสียงดังเกิน 100 เดซิเบล
- การดัดแปลงเครื่องยนต์เพื่อให้แรงขึ้น หรือ “ดัดแปลงสภาพรถ” เพื่อให้วัตถุประสงค์การใช้งานเปลี่ยนไป อาจเสี่ยงโดนยกเลิกกรมธรรม์ได้
- การดัดแปลงสีไฟที่ไม่ใช่สีที่ควรจะเป็น เช่น ไฟเบรกไม่ใช่สีแดง ไฟเลี้ยวไม่ใช่สีส้ม เป็นต้น
- การโหลดรถต่ำกว่า 40 เซนติเมตร หรือ สูงเกินกว่า 135 เซนติเมตร
- การแปลงแผ่นป้ายทะเบียนใหม่ที่ไม่ใช่อันเดิมที่กรมขนส่งออกให้
- การเปลี่ยนสีรถ หรือ เปลี่ยนสีตัวถังรถยนต์ โดยไม่ได้แจ้งกรมขนส่งทางบก
- การใส่ยางรถยนต์แล้วยางล้นเกินออกมานอกบังโคลน หรือ ใส่ล้อใหญ่จนรถยนต์คันอื่นต้องเบี่ยงรถยนต์ออกจากเลนถนน
อย่างไรก็ดี หากใครแต่งรถยนต์มาแล้ว หรือ ซื้อรถป้ายแดงพร้อมของแต่งรถมาแล้ว แต่ไม่แน่ใจว่าบริษัทประกันยังให้ความคุ้มครองในส่วนไหนบ้าง สามารถติดต่อสอบถามไปยังบริษัทประกันรถยนต์ที่สนใจ เพื่อรับทราบเงื่อนไขเพิ่มเติมได้
โดยบริษัทประกันบางแห่งจะมีเงื่อนไขให้ความคุ้มครองกับอุปกรณ์แต่งรถยนต์บางประเภทได้ โดยให้ผู้เอาประกันยื่นใบเสร็จของอุปกรณ์แต่งรถยนต์ เพื่อส่งให้บริษัทประกันเพื่อประเมินราคาและพิจารณาความคุ้มครองต่อไป แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของบริษัทประกันภัยแต่ละแห่งด้วย
ซื้อประกันรถยนต์ แล้วซ่อมรถยนต์แบบไหนได้บ้าง?
ในปัจจุบันนี้ ผู้เอาประกันสามารถซื้อประกันรถยนต์ พร้อมเลือกได้ว่าจะนำรถยนต์เข้าซ่อมแบบใด ระหว่างการซ่อมกับศูนย์รถยนต์ หรือที่หลายคนเรียกว่า “ซ่อมศูนย์” หรือ “ซ่อมห้าง” กับอีกแบบหนึ่ง คือ การซ่อมกับอู่รถยนต์
จริงอยู่ว่า การซ่อมที่อู่ซ่อมรถยนต์ทั่วไปมักจะมีค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่า แต่ผู้เอาประกันก็ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าอู่ซ่อมที่เลือกมีความน่าเชื่อถือและมีคุณภาพ ในขณะที่การซ่อมที่ศูนย์บริการของผู้ผลิตรถยนต์จะมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่า แต่จะได้รับการซ่อมที่มีมาตรฐานและชิ้นส่วนแท้จากผู้ผลิต
อ่านรายละเอียดเรื่องการซ่อมศูนย์และซ่อมอู่เพิ่มเติมที่นี่
ซื้อประกันรถยนต์อย่างไรให้ตอบโจทย์ต้ังแต่ครั้งแรก?
การเลือกประกันรถยนต์ที่เหมาะสมกับตัวเองนั้นไม่ใช่เรื่องยาก เริ่มต้นได้ง่ายๆ จากการพิจารณา 3 ปัจจัยหลัก ประกอบไปด้วยรายละเอียดของรถยนต์ของตัวเอง ประวัติการขับขี่ที่ผ่านมา และ งบประมาณที่รับไหว
1. ดูรถยนต์เราก่อน
เริ่มแรก ผู้เอาประกันจะต้องพิจารณาดูก่อนว่า รถยนต์ของเราเหมาะกับการซื้อประกันรถยนต์แบบไหน โดยหากรถยนต์มีมูลค่าสูง หรือ เป็นรถยนต์คันใหม่ การเลือกประกันรถยนต์ชั้น 1 จะช่วยให้ได้รับความคุ้มครองที่ครอบคลุมมากที่สุด
2. ดูประวัติการขับขี่ที่ผ่านมา
ในลำดับต่อมา ให้มาพิจารณาถึงประวัติการขับขี่ที่ผ่านมา โดยหากมีประวัติการขับขี่ที่ดี ไม่มีอุบัติเหตุ หรือ การเคลมประกันมาก่อน คุณอาจมีสิทธิ์ได้รับส่วนลดเบี้ยประกันที่มากขึ้น แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของบริษัทประกันภัยแต่ละแห่งด้วย หรือ หากใครเป็นมือใหม่หัดขับที่ยังไม่มีประสบการณ์มาก การเลือกซื้อประกันรถยนต์ชั้น 1 ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ตอบโจทย์เช่นกัน
3. ดูงบประมาณที่เหมาะสม
สุดท้าย ให้มาพิจารณาถึงงบประมาณที่รับไหวในการซื้อประกันรถยนต์ โดยอาจพิจารณาจากค่าใช้จ่ายแบบรายปี หรือ รายเดือนดู จากนั้นให้เพิ่มค่าเบี้ยประกันรถยนต์เข้าไปด้วย เท่านี้ก็จะช่วยให้เห็นภาพแล้วว่า ควรเลือกซื้อประกันรถยนต์ด้วยงบประมาณเท่าไหร่
12 คำศัพท์ประกัน ความรู้ประกัน ที่คนซื้อ “ประกันรถยนต์” ต้องรู้! อ่านบทความนี้เลย
ซื้อประกันรถยนต์ที่ “คุณ” ออกแบบได้ เลือกประกันรถยนต์ซันเดย์
ซันเดย์ เปิดโอกาสให้คุณได้ซื้อประกันรถยนต์ออนไลน์ ที่นอกจากจะเลือกรับส่วนลดค่าเบี้ยประกันได้มากถึง 4 จุดแล้ว* คุณยังสามารถปรับแต่งและออกแบบความคุ้มครองของประกันรถยนต์ให้เหมาะกับการใช้งานได้
สำหรับใครที่ต้องการเปรียบเทียบเบี้ยประกันรถยนต์ซันเดย์เบื้องต้นก่อน ลองมาพิจารณาเบี้ยประกันรถยนต์ตามรุ่นและยี่ห้อของรถยนต์ตามรายละเอียด ดังนี้
เช็กเบี้ยประกันรถยนต์ของคุณที่นี่
Ford
ซันเดย์ ให้ความคุ้มครองรถยนต์ Ford Everest ตั้งแต่ปี 2018 พร้อมเลือกทุนประกันรถยนต์ได้สูงสุด 1,100,000 บาท
สรุปรายละเอียดประกันรถยนต์ Ford จากซันเดย์
- รุ่นที่รับประกัน Ford Everest ปี 2018 ขึ้นไป
- ทุนประกัน 570,000 – 1,100,000 บาท
- เลือกได้ทั้งซ่อมอู่และซ่อมศูนย์
เช็กเบี้ยประกันรถยนต์ของคุณที่นี่
Honda
ซันเดย์ มาพร้อมกับประกันรถยนต์สำหรับ Honda ในหลากหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็น ACCORD, CR-V และ HR-V โดยเจ้าของรถยนต์สามารถเลือกปรับแต่งความคุ้มครองและทุนประกันได้สูงสุด 1,200,000 บาท
สรุปรายละเอียดประกันรถยนต์ Honda จากซันเดย์
- รุ่นที่รับประกัน Honda ACCORD, CR-V และ HR-V ปี 2018 ขึ้นไป
- ทุนประกัน 410,000 – 1,200,000 บาท
- เลือกได้ทั้งซ่อมอู่และซ่อมศูนย์
เช็กเบี้ยประกันรถยนต์ของคุณที่นี่
Toyota
สำหรับเจ้าของรถยนต์ Toyota รุ่น C-HR, CAMRY, COROLLA CROSS, FORTUNER และ HILUX REVO สามารถซื้อประกันรถยนต์ซันเดย์ เพื่อรับความคุ้มครองด้วยทุนประกันที่คุณเลือกได้ สูงสุดถึง 1,150,000 บาท โดยเจ้าของรถยนต์ Toyota ตามรุ่นที่ระบุนี้ สามารถเช็กเบี้ยประกันที่เหมาะสมกับรถยนต์ของคุณได้ง่ายๆ ที่เว็บไซต์ของซันเดย์เช่นกัน
สรุปรายละเอียดประกันรถยนต์ Toyota จากซันเดย์
- รุ่นที่รับประกัน Toyota C-HR, CAMRY, COROLLA CROSS, FORTUNER และ HILUX REVO ปี 2018 ขึ้นไป
- ทุนประกัน 250,000 – 1,1500,000 บาท
- เลือกได้ทั้งซ่อมอู่และซ่อมศูนย์
เช็กเบี้ยประกันรถยนต์ของคุณที่นี่
Isuzu
ประกันรถยนต์ซันเดย์ พร้อมให้ความคุ้มครองกับรถยนต์ Isuzu D-MAX และ MU-X ปรับแต่งความคุ้มครองให้เหมาะกับการใช้งานได้ง่ายๆ พร้อมเลือกทุนประกันที่เหมาะสมได้ตามต้องการ
สรุปรายละเอียดประกันรถยนต์ Isuzu จากซันเดย์
- รุ่นที่รับประกัน Isuzu D-MAX และ MU-X ปี 2018 ขึ้นไป
- ทุนประกัน 220,000 – 930,000 บาท
- เลือกได้ทั้งซ่อมอู่และซ่อมศูนย์
เช็กเบี้ยประกันรถยนต์ของคุณที่นี่
Mazda
ซื้อประกันรถยนต์ซันเดย์ พร้อมปรับแต่งความคุ้มครองที่เหมาะสมให้กับรถยนต์ Mazda ของคุณง่ายๆ เลือกรับทุนประกันได้สูงถึง 1,050,000 บาท ตอบโจทย์ความต้องการของเจ้าของรถยนต์ Mazda ได้อย่างลงตัว
สรุปรายละเอียดประกันรถยนต์ Mazda จากซันเดย์
- รุ่นที่รับประกัน Mazda 3, CX-3, CX-30 และ CX-5 ปี 2018 ขึ้นไป
- ทุนประกัน 410,000 – 1,050,000 บาท
- เลือกได้ทั้งซ่อมอู่และซ่อมศูนย์
เช็กเบี้ยประกันรถยนต์ของคุณที่นี่
MG
เจ้าของรถยนต์ MG รุ่น ZS สามารถรับความคุ้มครองจากประกันรถยนต์ซันเดย์ ด้วยทุนประกันสูงสุด 520,000 บาท
สรุปรายละเอียดประกันรถยนต์ MG จากซันเดย์
- รุ่นที่รับประกัน MG ZS ปี 2018 ขึ้นไป
- ทุนประกัน 290,000 – 520,000 บาท
- เลือกได้ทั้งซ่อมอู่และซ่อมศูนย์
เช็กเบี้ยประกันรถยนต์ของคุณที่นี่
Mitsubishi
ซื้อประกันรถยนต์ Mitsubishi PAJERO SPORT เลือกประกันรถยนต์ซันเดย์ที่คุณสามารถปรับแต่งความคุ้มครองได้ เลือกรับทุนประกันได้สูงสุด 1,100,000 บาท
สรุปรายละเอียดประกันรถยนต์ Mitsubishi จากซันเดย์
- รุ่นที่รับประกัน Mitsubishi PAJERO SPORT ปี 2018 ขึ้นไป
- ทุนประกัน 610,000 – 1,100,000 บาท
- เลือกได้ทั้งซ่อมอู่และซ่อมศูนย์
เช็กเบี้ยประกันรถยนต์ของคุณที่นี่
Nissan
อยากซื้อประกันรถยนต์ Nissan ที่ตอบโจทย์ เลือกประกันรถยนต์ซันเดย์ดีกว่า เลือกรับทุนประกันได้สูงสุด 630,000 บาท พร้อมปรับแต่งความคุ้มครองที่เหมาะสมกับการใช้งานได้ง่ายๆ
สรุปรายละเอียดประกันรถยนต์ Nissan จากซันเดย์
- รุ่นที่รับประกัน Mitsubishi TEANA และ X-TRAIL ปี 2018 ขึ้นไป
- ทุนประกัน 430,000 – 630,000 บาท
- เลือกได้ทั้งซ่อมอู่และซ่อมศูนย์
อยากซื้อประกันรถยนต์ให้ตอบโจทย์ เลือกประกันรถยนต์ซันเดย์ที่คุณปรับแต่งความคุ้มครองและทุนประกัน พร้อมเลือกรับส่วนลดเบี้ยประกันรถยนต์ได้มากขึ้น 4 จุด* เช็กเบี้ยสุดง่าย ใช้แค่วันเดือนปีเกิดและรหัสไปรษณีย์ที่อยู่ปัจจุบันเท่านั้น
เช็กเบี้ยประกันรถยนต์ของคุณที่นี่
*เงื่อนไขเป็นไปที่บริษัทกำหนด
อยากใช้ซูเปอร์แอปฯ Jolly by Sunday ต้องทำอย่างไร?
หากคุณเป็นอีกคนที่อยากใช้ซูเปอร์แอปฯ Jolly by Sunday แอปประกันที่ตอบโจทย์ความต้องการทุกอย่างได้ครอบคลุมแบบนี้ สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันมาใช้งานได้ในทันที ผ่าน App Store หรือ Google Play Store แล้วอย่าลืมติดตามข่าวสารและโปรโมชันดีๆ จากซันเดย์ในทุกๆ วันของคุณ