หน้าหลัก สาระรถยนต์ไฟฟ้า รถยนต์ไฟฟ้าทํางานอย่างไร แบ่งออกเป็นกี่ขั้นตอน ทำไมถึงเสียงเงียบ?

รถยนต์ไฟฟ้าทํางานอย่างไร แบ่งออกเป็นกี่ขั้นตอน ทำไมถึงเสียงเงียบ?

รถยนต์ไฟฟ้าทำงานอย่างไรถึงไร้เสียง

ถ้าเป็นเมื่อก่อน รถยนต์ที่เสียงเครื่องแรง ๆ ดัง ๆ อาจจะดึงดูดความสนใจจากผู้คนบนท้องถนนได้เป็นอย่างดี แต่ปัจจุบันนี้ ใครหลายคนกลับให้ความสนใจกับรถยนต์ที่มีความเงียบ อย่างเช่นรถยนต์ไฟฟ้าที่เสียงเครื่องเงียบจนต้องใส่เสียงเครื่องยนต์สังเคราะห์เอาไว้เพื่อเป็นตัวช่วยตรวจสอบความปลอดภัยขณะขับขี่

แต่ทำไมรถยนต์ EV ถึงมีเสียงเงียบกว่ารถยนต์น้ำมันทั่วไป ในบทความนี้ลองมาทำความเข้าใจกันกันหน่อยว่ารถ EV คืออะไร มีระบบการทำงานอย่างไร ทำไมถึงเสียงเงียบและมีสมรรถนะที่สูงได้ขนาดนี้ ใครที่กำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับระบบรถยนต์ไฟฟ้าประกอบการตัดสินใจซื้ออยู่ บอกเลยว่าห้ามพลาด!

ทำไมรถยนต์ไฟฟ้าถึงเสียงเงียบ

รถยนต์ EV คืออะไร?

รถยนต์ไฟฟ้าหรือที่เรียกกันจนคุ้นชินว่ารถยนต์ EV มีชื่อภาษาอังกฤษเต็ม ๆ คือ “Electric vehicles” หมายถึง รถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าในการขับเคลื่อนทั้งหมด ไม่มีเครื่องยนต์ที่ทำให้เกิดการเผาไหม้ เพราะรถยนต์ไฟฟ้าใช้แบตเตอรี่เป็นตัวสำรองพลังงานในการขับเคลื่อน

รถยนต์ EV กลายเป็นที่น่าสนใจมากขึ้นทั่วโลก เนื่องจากรถยนต์ EV นั้นมีความยั่งยืนกับสิ่งแวดล้อมมากกว่า ทั้งในเรื่องของการช่วยลดการปล่อยก๊าซจากการเผาไหม้ได้ ไปจนถึงการมีมอเตอร์ที่เสียงเงียบ ทำให้ลดมลภาวะทางเสียงได้เป็นอย่างดี


ทำไมรถยนต์ไฟฟ้าถึงเงียบกว่ารถที่ใช้น้ำมัน?

รถยนต์ที่ใช้น้ำมัน รวมไปถึงรถยนต์แบบ Hybrid จะมีเครื่องยนต์แบบสันดาปที่มีการเผาไหม้เพื่อนำเชื้อเพลิงมาขับเคลื่อนรถยนต์ ทำให้เกิดเสียงออกมาจากท่อไอเสีย รวมถึงมีเสียงการทำงานของชิ้นส่วนต่าง ๆ ด้วย

สำหรับระบบรถยนต์ไฟฟ้า จะมีมอเตอร์รถยนต์ไฟฟ้าที่เป็นแหล่งพลังงานในการขับเคลื่อน ไม่มีเครื่องยนต์แบบสันดาปเป็นส่วนประกอบ และไม่มีชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดเสียงในขณะที่ทำงาน ทำให้เครื่องยนต์รถไฟฟ้ามีความเงียบกว่ารถยนต์ทั่วไปมากจนถึงขั้นที่กฎหมายต้องบังคับให้ใส่เสียงเครื่องยนต์สังเคราะห์เอาไว้ด้วย เพื่อความปลอดภัยระหว่างขับขี่

ทำไมรถยนต์ไฟฟ้าถึงเงียบกว่ารถที่ใช้น้ำมัน

มอเตอร์รถยนต์ไฟฟ้าคืออะไร? ทำงานอย่างไรบ้าง?

มอเตอร์ของรถยนต์ EV ที่ถูกใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน จะมีอยู่ 2 ประเภทด้วยกัน ได้แก่ แบบ DC (Direct Current) หรือแบบกระแสตรง และแบบ AC (Alternating Current) หรือแบบกระแสสลับ ซึ่งแตกต่างกันออกไปดังนี้

มอเตอร์รถยนต์ไฟฟ้าแบบ DC

เป็นมอเตอร์ที่มักจะพบในชิ้นส่วนเล็ก ๆ ภายในรถยนต์ EV อย่างเช่น บริเวณควบคุมที่ปัดน้ำฝน ระบบปรับอากาศภายในห้องโดยสาร รวมถึงมอเตอร์ที่ช่วยควบคุมพวงมาลัยของรถยนต์ด้วย 

มอเตอร์รถยนต์ไฟฟ้าแบบ AC

มอเตอร์แบบนี้จะถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภทด้วยกัน ได้แก่ Asynchronous และ Synchronous

  • Asynchronous AC Motors หรือมอเตอร์แบบ Induction ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายในรถยนต์ EV เป็นระบบที่ไม่ต้องใช้แม่เหล็กในการสร้างสนามแม่เหล็กไฟฟ้าภายในเครื่องยนต์ มีราคาที่จับต้องได้และซ่อมแซมง่ายกว่าแบบ Synchronous รถยนต์ไฟฟ้าชื่อดังอย่าง Tesla เองก็ใช้มอเตอร์แบบนี้เช่นเดียวกัน มอเตอร์ชนิดนี้คือมอเตอร์แบบเหนี่ยวนำ ทำงานด้วยการจ่ายพลังงานงานไฟฟ้าไปที่ส่วน Stator เพื่อสร้างสนามแม่เหล็กไฟฟ้าขึ้นมา ซึ่งส่งผลทำให้ Rotor เกิดการหมุนตัวและก่อให้เกิดเป็นการเคลื่อนที่ของเครื่องยนต์นั่นเอง 
  • Synchronous AC Motors เป็นมอเตอร์รถยนต์ไฟฟ้าที่มีแม่เหล็กอยู่ภายใน ทำให้สามารถสร้างแรงขับเคลื่อนได้มากกว่า เหมาะกับรถยนต์ไฟฟ้าที่เน้นความเร็ว แรง ด้วยขนาดที่กะทัดรัด ทำให้มอเตอร์แบบนี้ถูกใช้ในรถยนต์ไฟฟ้าที่มีขนาดเล็ก ราคาสูง ต้องการการดูแลสูง ทำให้ไม่เป็นที่นิยมในการใช้งานสำหรับรถยนต์ส่วนบุคคลตามท้องตลาด แบรนด์ที่ใช้เครื่องยนต์รถไฟฟ้าแบบนี้จะมี Audi และ Mercedes-Benz เป็นต้น

ทำไมรถยนต์ไฟฟ้าถึงมีสมรรถนะในการขับขี่สูงกว่ารถยนต์ทั่วไป?

เหตุผลที่รถยนต์ไฟฟ้ามีสมรรถนะในการขับขี่ที่สูงกว่ารถยนต์ประเภทอื่น ๆ ประกอบไปด้วยหลายปัจจัย ทั้งมอเตอร์รถยนต์ไฟฟ้า น้ำหนักเบากว่ารถที่มีเครื่องยนต์ บางรุ่นมีระบบคืนพลังงานให้รถยนต์เข้ามาช่วยด้วย (Energy Recovery)

  • มอเตอร์รถยนต์ไฟฟ้าใช้เวลาน้อยมากในการออกตัว เพราะมอเตอร์สามารถเพิ่มแรงหมุนได้ทันทีเมื่อมีการจ่ายกระแสไฟฟ้าเข้าไป ทำให้รถยนต์ออกตัวได้ไวมากกว่า แถมยังเสียงเงียบตลอดการขับขี่
  • รถยนต์ไฟฟ้าบางรุ่นมีการพัฒนาระบบคืนพลังงานหรือ Energy Recovery เข้ามาใช้ร่วมกับระบบรถยนต์ไฟฟ้าที่มีอยู่แล้ว เพื่อช่วยทำให้สามารถประหยัดพลังงานได้มากขึ้น เพิ่มระยะขับขี่ต่อการชาร์จได้ยาวนานขึ้น
ทำไมรถยนต์ไฟฟ้าถึงมีสมรรถนะสูง

เครื่องรถยนต์รถไฟฟ้าเงียบขนาดนี้ มีเสียงอย่างอื่นบ้างไหม?

ถึงแม้ว่ารถ EV จะเป็นที่รู้จักกันในด้านของความเงียบ แต่ก็มีเสียงที่เกิดจากการขับขี่เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเสียงของล้อรถยนต์ เสียงลมเมื่อขับที่ความเร็วสูงก็ยังคงมีอยู่เหมือนรถยนต์ทั่ว ๆ ไป เสียงของเครื่องยนต์ไฟฟ้าก็มีให้ได้ยินเช่นกัน แต่ตัวเสียงถือว่าเบามาก ๆ นอกจากนั้นก็จะมีแค่เสียงระบบความปลอดภัยต่าง ๆ ที่ติดตั้งมากับตัวรถยนต์


เครื่องยนต์รถไฟฟ้า หัวใจสำคัญของรถ EV

หลังจากที่ได้ทำความรู้จักกับประเภทของเครื่องยนต์ที่ถูกนำมาใช้กับรถ EV แล้ว น่าจะทำให้เห็นว่าการดูแลมอเตอร์เป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะเป็นเหมือนกับหัวใจของรถยนต์ที่สร้างแรงขับเคลื่อน 

ใครที่กำลังตัดสินใจอยู่ว่าจะซื้อรถ EV ไว้ใช้ดีไหม แต่กังวลเรื่องค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการซ่อมแซมมอเตอร์รถยนต์ไฟฟ้าเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ก็ควรทำประกันรถยนต์ไฟฟ้าที่ตอบโจทย์ อย่างการทำประกันรถยนต์ไฟฟ้าออนไลน์ จาก Sunday 

ออกแบบความคุ้มครองให้ตรงตามการใช้งานของตัวเองได้ มาพร้อมระบบช่วยคำนวณเบี้ยประกันที่เหมาะสม หากเกิดเหตุเมื่อไหร่ สามารถแจ้งเหตุผ่านระบบ Live Streaming พร้อมจบงานเคลมรวดเร็วได้ใน 15 นาที

*ระบุชื่อผู้ขับขี่รับส่วนลดค่าเบี้ยประกัน 5-20% ขึ้นอยู่กับอายุของผู้ขับขี่


Loading

Share this article
Shareable URL
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง

จริงไหม? รถยนต์ไฟฟ้า ประหยัดกว่ารถน้ำมัน

รถ EV ที่ไม่ได้มีแค่รักษ์โลก แต่ประหยัดได้มากกว่า! ในยุคที่คนรอบ ๆ ตัวเริ่มหันไปใช้งาน รถยนต์ไฟฟ้า…
benefits-of-electric-cars-vs-gasoline-cost-savings
0
Share