หน้าหลัก เรื่องราวรอบตัว ‘จอดรถตากแดด’ ภัยใกล้ตัวที่เจ้าของรถยนต์ไม่ควรมองข้าม

‘จอดรถตากแดด’ ภัยใกล้ตัวที่เจ้าของรถยนต์ไม่ควรมองข้าม

จอดรถตากแดด-ภัยร้ายที่ไม่ควรมองข้าม

ไม่เพียงแต่จะต้องวางแผนการเงินให้รอบคอบเท่านั้น แต่ก่อนตัดสินใจซื้อรถยนต์คันใหม่ทุกครั้ง เจ้าของรถยนต์ยังควรเตรียมความพร้อมเรื่อง ‘ที่จอดรถ’ ให้ดี ทั้งนี้เพื่อป้องกันการมีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกับเพื่อนบ้าน ตลอดจนเป็นการช่วยดูแลรักษารถยนต์ไปในตัว

อย่างไรก็ดี ด้วยพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านที่มีจำกัด เจ้าของรถยนต์จำนวนไม่น้อยจึงมีความจำเป็นที่จะต้องนำรถยนต์ออกไปจอดกลางแจ้งเป็นประจำ ซึ่งสำหรับใครที่ต้องการซื้อรถยนต์คันใหม่แล้ว อาจทำให้อดสงสัยไม่ได้ว่า การจอดรถตากแดด จะเป็นอันตรายต่อตัวรถยนต์มากแค่ไหน?

สำหรับใครที่มีต้องจอดรถตากแดดเป็นประจำ แต่ยังไม่มั่นใจว่าจะรับมืออย่างไรให้เหมาะสม มาทำความรู้จักอันตรายจากการจอดรถตากแดด พร้อมการรับมือ และ วิธีป้องกันความเสียหาย เมื่อต้องจอดรถตากแดดกัน


จอดรถตากแดด-อันตรายกับรถยนต์มากแค่ไหน-ดูแลรถอย่างไร

แสงแดดสร้างความเสียหายให้กับรถยนต์ได้อย่างไร?

จอดรถตากแดดอันตรายจริงไหม

เจ้าของรถยนต์ส่วนใหญ่มักเข้าใจว่า การจอดรถตากแดดสามารถช่วยไล่จิ้งจกและบรรดาสัตว์ร้ายที่อาจซ่อนตัวอยู่ภายในรถยนต์ ทั้งยังสามารถช่วยลดกลิ่นอับและกำจัดเชื้อโรคภายในรถยนต์ได้ 

แต่ในความเป็นจริงแล้ว แม้การจอดรถตากแดดจะมีข้อดีอยู่บ้าง แต่ในระยะยาวแล้ว การจอดรถตากแดดนั้นสามารถสร้างผลเสียให้กับรถยนต์ได้มากกว่าที่คิด เช่นเดียวกับผิวหนังของมนุษย์ รังสีอัลตราไวโอเลต (Ultraviolet : UV) และ รังสีความร้อนอย่างอินฟราเรด (Infrared) จากแสงแดดเองก็สามารถสร้างความเสียหายให้กับรถยนต์ได้หลายส่วน ดังต่อไปนี้

สีรถยนต์ซีดลง ไม่เงางามเหมือนใหม่

รังสีอัลตราไวโอเลตและรังสีความร้อนจากแสงแดดถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้สารเคลือบและสีของรถยนต์เสื่อมสภาพไวขึ้น ส่งผลให้รถยนต์ดูไม่เงางามเหมือนตอนซื้อมาใหม่ ๆ หากจอดรถตากแดดนานวันเข้าสีรถยนต์ก็จะซีดลงเรื่อย ๆ ทำให้ต้องเสียเงินและเวลาไปทำสีรถยนต์ใหม่อีกด้วย

อุปกรณ์ภายในห้องโดยสารเสื่อมสภาพ

การจอดรถตากแดดเป็นเวลานานย่อมทำให้เกิดความร้อนสะสมภายในห้องโดยสาร ส่งผลให้อุปกรณ์ภายในอย่างยางพวงมาลัย คอนโซลรถยนต์ ไปจนถึงเบาะนั่ง กรอบซีลยางตามกระจก รวมไปถึงอุปกรณ์ที่ทำมาจากยางและพลาสติกต่าง ๆ เสื่อมสภาพลง ทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม หรือ เปลี่ยนอุปกรณ์ภายในห้องโดยสารบ่อย ๆ นั่นเอง

ฟิล์มกรองแสงเสื่อมคุณภาพ

เจ้าของรถยนต์หลายคนมักเข้าใจว่า การติดฟิล์มกรองแสงที่มีค่าความเข้มสูงมาก ๆ จะสามารถป้องกันอันตรายจากการจอดรถตากแดดได้ 

แต่ในความเป็นจริงแล้ว แม้ฟิล์มกรองแสงจะเป็นอุปกรณ์ที่มีความทนทานต่อแสงแดด แต่การจอดรถตากแดดจนทำให้ตัวฟิล์มสัมผัสกับรังสียูวีและรังสีความร้อนโดยตรงอย่างต่อเนื่องสามารถทำให้ฟิล์มกรองแสงมีอายุการใช้งานที่น้อยลงได้ ทั้งยังเพิ่มความเสี่ยงที่ฟิล์มจะเกิดเป็นฟองอากาศและลอกออกเป็นขุยได้เช่นกัน

ยางรถยนต์เสื่อมสภาพไวขึ้น

แม้ยางรถยนต์จะเป็นอุปกรณ์ที่มีความทนทานต่อความร้อนและแรงเสียดทานสูงมาก แต่รู้หรือไม่? การจอดรถตากแดดเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง ไม่เพียงแต่จะทำให้ผิวยางเสื่อมสภาพเท่านั้น แต่แสงแดดยังทำให้ผิวยางเปราะและเหนียวขึ้น ส่งผลให้เพิ่มความเสี่ยงที่ยางจะชำรุดในระหว่างใช้งาน หรืออาจระเบิดและเกิดเป็นอุบัติเหตุได้เช่นกัน

ไฟรถยนต์หมองและเสื่อมสภาพ

ไฟหน้าและไฟท้ายของรถยนต์ในปัจจุบันได้เปลี่ยนจากการใช้วัสดุแก้วมาเป็นพลาสติกด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย ด้วยเหตุนี้ การจอดรถกลางแดดเป็นประจำจึงทำให้ไฟหน้าและไฟท้ายของรถยนต์ที่เป็นพลาสติกดูหมอง เหลือง และเสื่อมสภาพไวขึ้น ซึ่งนอกจากจะส่งผลต่อความสวยงามของรถยนต์แล้ว ยังสามารถส่งผลต่อทัศนวิสัยการขับรถยนต์ตอนกลางคืนด้วยเช่นกัน

เครื่องยนต์เสื่อมสภาพและอันตรายจากสารระเหย

การใช้งานรถยนต์ในสภาพอากาศที่ร้อนจัดเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้สารเหลวหล่อลื่นและน้ำมันเครื่องของรถยนต์เสื่อมสภาพเร็วกกว่าปกติ หากยิ่งจอดรถตากแดดเป็นประจำด้วยแล้ว ภายในห้องเครื่องของรถยนต์ก็จะยิ่งมีความร้อนสะสมเข้าไปใหญ่

แน่นอนว่า นอกจากจะเพิ่มความร้อนให้กับเครื่องยนต์และเพิ่มความเสี่ยงที่แบตเตอรี่จะบวมแล้ว ความร้อนสะสมดังกล่าวนี้ยังทำให้สารเหลวหล่อลื่นและน้ำมันเครื่องเสื่อมสภาพไวขึ้นและมีความเสี่ยงที่ระเหยเข้ามาในระบบปรับอากาศ ทำให้เป็นอันตรายต่อผู้ขับขี่และผู้โดยสารอีกด้วย


ดูแลรักษารถยนต์อย่างไรเมื่อต้องจอดรถตากแดด?

จอดรถตากแดดมานาน-เช็กรถยนต์อย่างไรดี

แม้การจอดรถตากแดดจะมาพร้อมกับข้อเสียมากมาย ทั้งยังเป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้ขับขี่และผู้โดยสารอีกด้วย 

แต่สำหรับบ้านไหนที่มีความจำเป็นต้องนำรถยนต์ออกไปจอดกลางแดดเป็นประจำ ก่อนจะเริ่มสตาร์ท หรือ จอดรถยนต์ ขอแนะนำให้ลองเช็กรถยนต์ตาม 5 ขั้นตอนดังนี้

  1. เปิดฝากระโปรงรถยนต์ เพื่อตรวจสอบสภาพของน้ำมันเครื่อง สารหล่อลื่น และของแบตเตอรี่ให้พร้อมใช้งาน ทั้งยังช่วยเป็นการระบายความร้อนบางส่วนออกไปจากห้องเครื่องอีกด้วย
  2. เปิดปิดประตูและลดกระจกลงเล็กน้อย เพื่อระบายความร้อนออกและสารระเหยอันตรายออกจากห้องโดยสาร จากนั้นจึงค่อยสตาร์ทรถยนต์
  3. เปิดเครื่องปรับอากาศเมื่ออากาศภายในห้องโดยสารเริ่มเย็นขึ้น เพื่อช่วยรักษาคอมเพรสเซอร์และระบบการทำงานของเครื่องปรับอากาศภายในรถยนต์

Sunday Tips!

รู้หรือไม่? หากต้องจอดรถกลางแจ้ง ไม่ต้องยกที่ปัดน้ำฝนขึ้นก็ได้! เนื่องจากการยกที่ปัดน้ำฝนขึ้นจะยิ่งทำให้ตัวก้านปัดน้ำฝนเสื่อมสภาพไว ตัวสปริงที่ยึดกับก้านปัดน้ำฝนทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ ทำให้ตัวปัดน้ำฝนไม่ยึดเกาะกับกระจก ส่งผลให้ปัดน้ำฝนไม่ดีเท่าที่ควร

ไม่มีที่จอดรถในร่ม ปกป้องรถยนต์จากแสงแดดในระยะยาวได้อย่างไร?

จอดรถกลางแดดนาน-ดูแลรถยังไงดี

สำหรับเจ้าของรถยนต์คนไหนที่บ้านมีพื้นที่จำกัด หรือ ตอนนี้อาศัยอยู่ที่หอพัก อพาร์ทเมนต์ หรือ คอนโดที่มีที่จอดรถไม่เพียงพอ จนทำให้ต้องนำรถยนต์ไปจอดอยู่กลางแดดบ่อย ๆ หากไม่อยากให้รถยนต์เสื่อมสภาพไวกว่าที่ควร ขอแนะนำให้ปฏิบัติตาม 5 เคล็ดลับง่าย ๆ ดังนี้

1. ลดกระจกลงเล็กน้อย 

การจอดรถพร้อมลดกระจกลง 1 – 2 เซนติเมตรสามารถช่วยระบายความร้อนออกจากห้องโดยสารได้ โดยระยะ 1 – 2 เซนติเมตรถือว่าเป็นระยะที่ยังอยู่ในรัศมีของขอบป้องกันกระจก ทำให้ลดความเสี่ยงที่ฝนจะสาดเข้ามาเต็มรถยนต์ได้อีกด้วย

2. ใช้ผ้าคลุมรถยนต์ที่ได้มาตรฐาน 

เมื่อต้องจอดรถกลางแจ้ง การคลุมผ้าคลุมรถยนต์ที่ได้มาตรฐานสามารถช่วยสะท้อนรังสียูวีและรังสีความร้อน ทั้งยังช่วยปกป้องรถยนต์จากอันตรายจากแสงแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3. ใช้ม่านบังแดด 

สำหรับเจ้าของรถยนต์ที่ยังไม่สามารถหาผ้าคลุมรถยนต์มาใช้งานได้ ขอแนะนำให้เริ่มต้นจากการนำม่านบังแดดมาปิดกระจกรถยนต์ เพื่อป้องกันไม่ให้รังสียูวีและรังสีความร้อนเข้ามาสร้างความเสียหายภายในห้องโดยสารก่อนได้

4. เคลือบรถยนต์ให้บ่อยขึ้น

การเคลือบรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นการเคลือบสี การเคลือบแก้ว ไปจนถึงการติดฟิล์มที่ตัวรถยนต์ หรือที่เรียกว่า Wrap นั้นสามารถช่วยป้องกันไม่ให้รังสียูวีและรังสีความร้อนสร้างความเสียหายที่ตัวถังของรถยนต์ได้ 

5. นำวัตถุอันตรายออกจากตัวรถยนต์

อันตรายจากการจอดรถตากแดดไม่ได้มีแค่ความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับตัวรถยนต์และผู้ใช้งาน แต่การทิ้งวัตถุอันตรายอย่างไฟแช็ก แบตเตอรี่สำรอง หรือ กระป๋องสเปรย์ เอาไว้ขณะที่จอดรถกลางแจ้ง อาจทำให้เกิดประกายไฟ ซึ่งเป็นสาเหตุของเพลิงไหม้รถยนต์ได้เช่นกัน ดังนั้น หากต้องนำรถยนต์ไปจอดไว้กลางแดด อย่าลืมเช็กวัตถุอันตรายก่อนลงจากรถยนต์ด้วย


เพียงเท่านี้ เจ้าของรถยนต์ทุกคนก็ได้เข้าใจเคล็ดลับการดูแลรถยนต์ ตลอดจนวิธีป้องกันความเสียหายเมื่อต้องจอดรถตากแดดแล้ว

อย่างไรก็ดี หากต้องการเพิ่มความอุ่นใจให้กับการใช้งานรถยนต์มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของอุบัติเหตุ รวมไปถึงเหตุไม่คาดฝันจากทั้งภัยพิบัติ น้ำท่วม เหตุไฟไหม้ และการสูญหาย นอกจากจะเลือกจุดจอดรถยนต์ที่อยู่ในรัศมีกล้องวงจรปิดและแสงไฟยามค่ำคืนแล้ว อย่าลืมเลือกทำประกันรถยนต์ที่ตอบโจทย์ทั้งการใช้งาน ประเภทรถยนต์ และเบี้ยประกันที่สอดคล้องกับสภาพคล่องทางการเงินด้วย

หากยังไม่ชัวร์จะเลือกทำประกันรถยนต์ที่ไหนดี เลือกประกันรถยนต์ จาก Sunday ดีกว่า! สมัครง่าย เคลมสะดวกด้วยตัวเอง พร้อมติดตามสถานะได้ง่าย ๆ ผ่านซูเปอร์แอปฯ Jolly by Sunday เลือกปรับความคุ้มครองได้ตามใจในเบี้ยประกันที่เมคเซนส์ ขับรถเมื่อไหร่ก็อุ่นใจได้มากกว่า! ลองเช็กราคา ประกันรถยนต์ Sunday แบบที่ตอบโจทย์กับตัวเองได้เลย!


Share this article
Shareable URL
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง

เปิด 5 ประเทศปลูกชามากที่สุดในโลก ใช่ประเทศที่คิดไหม?

เจาะลึกประเภทชาจากประเทศที่ปลูกชาได้มากที่สุดในโลก ชาร้อน ๆ สักแก้ว หรือจะเป็นชาเขียวเย็น ๆ สักขวดระหว่างวัน…
top-5-tea-producing-countries-in-the-world

ชอบชาเขียวต้องอ่าน! ประโยชน์ของชาเขียว และการดื่มที่ถูกต้อง

รู้จักกับประวัติชาเขียว เครื่องดื่มสุดฮิตที่หลายคนหลงรัก ชาเขียวหรือ Ryokucha ( 緑茶 )…
green-tea-benefits-and-how-to-drink-correctly

อัปเดต 2024! ซื้อประกันลดหย่อนภาษีได้ไหม ลดหย่อนได้เท่าไหร่?

ซื้อประกันลดหย่อนภาษีได้ไหม ประกันประเภทไหนลดหย่อนภาษีได้เท่าไหร่บ้าง? การซื้อประกันที่เหมาะสม…
insurance-and-tax-deduction

Soft Power แบบไทยด้วย 5Fs สร้างชื่อไกลไประดับโลก!

Soft Power คืออะไร ในไทยมีอะไรบ้าง? การขายของในยุคปัจจุบันนี้ จะมาขายกันโต้ง ๆ ก็ทำให้ลูกค้าหนีหายกันหมด…
Soft Power
0
Share