อินชัวร์เทค คืออะไร? ดีกว่าประกันแบบทั่วไปอย่างไร?

ชีวิตคนเราเต็มไปด้วยความเสี่ยง คนมีรถเสี่ยงรถถูกเฉี่ยวชน คนมีบ้านเสี่ยงไฟไหม้ คนชอบเที่ยวเสี่ยงกระเป๋าเดินทางหาย และคนทุกคนเสี่ยงต่อการเจ็บป่วย ในเมื่อชีวิตเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน หลายคนจึงยอมจ่ายเงินจำนวนที่แน่นอนเพื่อเลือกทำประกันให้รถ บ้าน ประกันสุขภาพ ประกันชีวิต และประกันแปลกๆ อย่างประกันสัตว์เลี้ยง ประกันแล็ปท็อป ประกันภัยเมื่อประสบอุบัติเหตุจากการเล่นยิมนาสติก ฯลฯ

แต่ปัญหาของการทำประกันปัจจุบันคือความยุ่งยากซับซ้อน ไล่ไปตั้งแต่ขั้นตอนการซื้อประกันที่มีขั้นตอนมากมาย แผนประกันที่อ่านไม่รู้เรื่อง เคลมยากและล่าช้า และที่สำคัญ ประกันโดยทั่วไปคิดราคาแบบเหมารวม โดยนำปัจจัยเสี่ยงเพียงไม่กี่อย่างมาคิดคำนวณค่าเบี้ยประกันให้คุณ ผลก็คือคนจำนวนมากที่มีความเสี่ยงต่ำถูกจัดอยู่ในกลุ่มเดียวกับคนที่มีความเสี่ยงสูงและต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันแพงเกินกว่าที่ควรจะเป็น

ประกันภัย อินชัวร์เทค — ประกันทั่วไป เสี่ยงมากเสี่ยงน้อยก็จ่ายราคาเดียวกันหมด

ราคาเบี้ยประกันที่ดีกว่า ซื้อสะดวกและเคลมเร็วกว่า ทำทุกอย่างได้ง่ายกว่า นี่เป็นเพียงไม่กี่สิ่งที่ธุรกิจประกันเกิดใหม่ที่เรียกว่า “อินชัวร์เทค” นำเสนอแก่ผู้บริโภค วันนี้ เราจะพาคุณมารู้จักกับประกันแนวใหม่ที่เรียกว่าอินชัวร์เทคกัน

Table of Contents

อินชัวร์เทคคืออะไร?

อินชัวร์เทค (InsurTech) เป็นคำที่ใช้เรียกธุรกิจประกันภัยที่นำเทคโนโลยีมาใช้ ไม่ว่าจะเพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้า เพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน หรือสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ประกันไฮเทคใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ายิ่งขึ้น อินชัวร์เทคบางรายถึงขั้นนำเทคโนโลยีและข้อมูลเชิงลึกมาคำนวณและปรับเปลี่ยนโครงสร้างราคาแบบใหม่ให้อิงตามรายบุคคล คำว่า “อินชัวร์เทค” มาจากการนำคำว่า ประกันภัย (insurance) และเทคโนโลยี (technology) มาประกอบกันนั่นเอง

อะไรที่อินชัวร์เทคทำได้ แต่ประกันแบบเดิมๆ ทำไม่ได้

เนื่องจากอินชัวร์เทคใช้ความสามารถของเทคโนโลยีเข้ามาช่วย โดยเฉพาะอินชัวร์เทคหลายรายที่นำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์หรือ AI การประมวลผลด้วยเครื่องจักร และการวิเคราะห์ฐานข้อมูลขนาดใหญ่มาใช้ในการคำนวณราคาเป็นรายบุคคลอย่างที่ว่าไปข้างต้น ทำให้แต่ละคนจ่ายเพื่อครอบคลุมความเสี่ยงของตนเองเท่านั้น แทนที่จะต้องจ่ายแทนคนอื่นแบบประกันแบบเดิมที่คิดราคาแบบเหมารวม เหล่านี้ทำให้อินชัวร์เทคหลายเจ้าสามารถเสนอราคาเบี้ยประกันที่ดีกว่าได้

อินชัวร์เทคยังสามารถคิดค้นและนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันแบบใหม่ๆ ได้อย่างไม่จำกัด เพื่อให้ตอบสนองกับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น การออกแผนประกันรถแบบคุ้มครองแค่เสาร์อาทิตย์ สำหรับคนเมืองที่วันธรรมดาเดินทางโดยขนส่งสาธารณะและขับรถจริงๆ แค่สัปดาห์ละสองวันเท่านั้น ราคาเบี้ยประกันแบบนี้จึงถูกกว่า ซึ่งเป็นทางเลือกที่ดีกว่าสำหรับลูกค้า

นี่ยังไม่รวมถึงเรื่องพื้นฐานอย่างการนำเทคโนโลยีเข้ามาอำนวยความสะดวกในการซื้อประกัน การเคลม การติดต่อเจ้าหน้าที่ ทำให้ลูกค้าสามารถทำทุกอย่างได้ด้วยตัวเองทางออนไลน์ แทนที่จะใช้คนและเอกสารเป็นปึกๆ ในการประสานงาน

อินชัวร์เทคในต่างประเทศ

ตัวอย่างสตาร์ตอัพในแวดวงอินชัวร์เทคที่น่าสนใจในต่างประเทศมีได้แก่

InMyBag – รายนี้ให้ความคุ้มครองอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โดยเชื่อมโยงระบบหลังบ้านเข้ากับอเมซอนหรือแอปเปิ้ล เมื่ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของลูกค้ามีปัญหา ระบบก็จะให้ยืมอุปกรณ์จากอเมซอนหรือแอปเปิ้ลเป็นการชั่วคราวภายในเวลาอันรวดเร็ว
Cuvva – อินชัวร์เทคขายประกันรถ ที่ให้ลูกค้าเลือกจ่ายได้เป็นรายชั่วโมง รายวัน รายสัปดาห์ หรือรายเดือน
Slice – ประกันภัยแบบออนดีมานด์ (on-demand) ที่ให้คุณเลือกซื้อความคุ้มครองตามสถานการณ์ เช่น เมื่อจะให้คนเช่าบ้านหนึ่งคืน ก็ซื้อกรมธรรม์ที่คุ้มครองความเสียหายภายในบ้านแค่หนึ่งคืนเท่านั้น

นอกจากนี้ยังมีบริษัทอินชัวร์เทคที่น่าสนใจอีกมาก ไม่ว่าจะเป็น Zhong An, Lemonade, Metromile, Bought By Many, Oscar, Huize และ Insureon

ขอแนะนำให้รู้จัก ซันเดย์ อินชัวร์เทคแบบครบวงจรรายแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ซันเดย์เป็นผู้ให้บริการประกันภัยซึ่งขับเคลื่อนโดยเทคโนโลยีแบบครบวงจรรายแรกในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซันเดย์ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (artificial intelligence) การเรียนรู้ด้วยเครื่องจักร (machine learning) และใช้การวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (big data) มาใช้ในการคำนวณความเสี่ยงและตั้งราคาเป็นรายบุคคล คุณจึงจ่ายค่าเบี้ยประกันในราคาที่เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงของคุณ และไม่ต้องจ่ายแทนคนอื่นแบบประกันแบบเดิมๆ ที่ตั้งราคาเบี้ยประกันแบบเหมารวม

ยกตัวอย่างเช่น ในกรณีซื้อประกันรถ ประกันทั่วไปใช้ปัจจัยเพียงไม่กี่อย่าง เช่น รุ่นรถ ปีที่ซื้อ อายุคนขับ เพื่อมาคำนวณระดับความเสี่ยงและตั้งราคาเบี้ยประกันให้คุณ ทำให้คนที่มีความเสี่ยงน้อยส่วนใหญ่ลงเอยด้วยการถูกจัดอยู่ในกลุ่มเดียวกับคนเสี่ยงมาก และต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันแพงไปด้วย แต่ที่ซันเดย์ เรานำตัวแปรมากกว่า 500 ตัวมาใช้ในการคำนวณความเสี่ยงและตั้งราคา ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ที่มีสถิติน้ำท่วม ข้อมูลความหนาแน่นของถนนในแต่ละพื้นที่ สัดส่วนผู้ขับขี่หน้าใหม่ ความกว้างของถนน ฯลฯ และใช้เทคโนโลยีช่วยประมวณผล และลงเอยด้วยการที่คุณไม่ต้องจ่ายแพงเกินระดับความเสี่ยงของคุณเองแบบที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

เทคโนโลยีของซันเดย์ยังทำให้คุณเลือกปรับแต่งความคุ้มครองเองได้ โดยเลือกคุ้มครองเฉพาะสิ่งที่คุณต้องการเท่านั้นและเลิกจ่ายในสิ่งที่ไม่จำเป็น เพราะแนวคิดของซันเดย์เชื่อว่าลูกค้าแต่ละคนมีไลฟ์สไตล์และความต้องการที่แตกต่างกัน เราจึงไม่บังคับให้ทุกคนต้องซื้อแพ็จเกจประกันแบบเดียวกัน

เรายังนำเทคโนโลยีมาช่วยทำให้การเคลมเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็วผ่านแอพบนมือถือ ไม่ว่าจะเป็นการแจ้งอุบัติเหตุ เรียกเคลม เช็คตำแหน่งของเจ้าหน้าที่สำรวจภัย เช็คสถานะเคลม สถานะซ่อม หรือต่อกรมธรรม์ได้เพียงปลายนิ้วคลิก