สำหรับใครที่ไม่เคยศึกษาเรื่องการลงทุนมาก่อน อาจมองว่าการลงทุนนั้นเต็มไปด้วยความเสี่ยง ทั้งยังมีความซับซ้อนสูง เพราะนอกจากจะต้องศึกษาข้อมูลบริษัท รวมถึงสินทรัพย์การลงทุนที่ต้องการลงทุนแล้ว นักลงทุนยังต้องเข้าใจจังหวะที่จะทำการซื้อขายด้วยเช่นกัน
การลงทุนแบบ DCA เป็นหนึ่งในเทคนิคการลงทุนที่สามารถช่วยให้นักลงทุนมือใหม่สร้างผลตอบแทนได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้จะยังไม่มีความเชี่ยวชาญเรื่องการเลือกจังหวะการลงทุนมากนัก ว่าแต่การลงทุน DCA คืออะไร มีกี่ประเภท หรือมีข้อดีข้อเสียอย่างไรบ้าง มาหาคำตอบได้ในบทความนี้กัน
DCA คืออะไร?
หากพูดให้เข้าใจง่าย ๆ การลงทุนแบบ DCA หรือ Dollar-Cost Average คือ การลงทุนแบบเป็นงวด ซึ่งจะเป็นการลงทุนในจำนวนเงินที่เท่ากันทุกงวด หรือ ตามระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งโดยส่วนใหญ่มักจะเป็นการเลือกลงทุนแบบรายเดือน ซึ่งในแต่ละจังหวะการลงทุน นักลงทุนเองก็สามารถเลือกเพิ่มหรือลดจำนวนเงินลงทุนได้ตามต้องการได้เช่นกัน
อย่างไรก็ดี การลงทุนแบบ DCA นั้นจะเป็นการลงทุนแบบสม่ำเสมอในระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งจะเป็นการลงทุนที่ไม่ได้ให้ความสำคัญกับราคาสินทรัพย์ ณ ขณะที่ทำการเข้าซื้อขาย เพราะเป้าหมายของการลงทุนแบบ DCA คือ การเพิ่มปริมาณสินทรัพย์ให้มากขึ้นเพื่อสร้างผลตอบแทนในระยะยาว
DCA หุ้น กับ DCA กองทุน ต่างกันยังไง?
การลงทุน DCA หุ้นจะเป็นการเลือกลงทุนในหุ้นโดยเฉพาะ ซึ่งอาจเป็นหุ้นไทย หรือ หุ้นต่างประเทศก็ได้ ขึ้นอยู่กับความเสี่ยงที่รับไหว
ส่วนการลงทุน DCA กองทุนนั้นจะเป็นการลงทุนแบบกระจายการลงทุนในกองทุน โดยการลงทุนในกองทุนนั้น ไม่เพียงแต่จะสร้างโอกาสในการรับผลตอบแทนได้อย่างหลากหลายจากกองทุนชั้นนำมากมายเท่านั้น แต่การลงทุนในกองทุนยังสามารถตอบโจทย์เป้าหมายทางการเงินได้อย่างครบครัน ทั้งยังเหมาะสำหรับนักลงทุนทุกประสบการณ์ เนื่องจากกองทุนเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่มีความเสี่ยงให้เลือกลงทุนถึง 8 ระดับ
อย่างไรก็ดี หากถามว่าควรเลือก DCA ในหุ้น หรือ กองทุนดี ขอแนะนำให้ลองพิจารณาถึงเป้าหมายทางการเงินที่ต้องการ ควบคู่ไปกับระดับความเสี่ยงที่รับไหว
เช่น หากใครต้องการลงทุนในระยะยาวเพื่อเป้าหมายในอนาคต การเลือก DCA ในหุ้น หรือ กองทุน ที่มีความเสี่ยงต่ำก็เป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ แต่หากใครมีประสบการณ์ในการลงทุนมาบ้าง ก็สามารถขยับระดับความเสี่ยงการลงทุนขึ้นไปในกองทุน หรือ หุ้นที่มีความเสี่ยงสูงขึ้นได้เช่นกัน
ข้อดี-ข้อเสียของการลงทุน DCA
ข้อดี
- สร้างวินัยในการลงทุน
เนื่องจากการลงทุน DCA นั้นจะเป็นการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ แปลว่าใน 1 เดือนนั้นเราควรที่จะต้องลงทุนอย่างน้อย 1 ครั้ง เพราะหัวใจของการลงทุนประเภทนี้ก็คือความสม่ำเสมอนั่นเอง - ลดความเสี่ยงในการลงทุน
แน่นอนว่าขึ้นชื่อว่าการลงทุนแล้ว ก็ต้องมีความเสี่ยงเป็นธรรมดา แต่ข้อดีของการลงทุนแบบ DCA นั้นจะเป็นการเฉลี่ยต้นทุนในระยะยาว เนื่องจากการลงทุนประเภทนี้จะไม่ได้คำนึงถึงราคา ณ ขณะที่ทำการเข้าซื้อ แน่นอนว่าในบางงวดก็อาจได้ต้นทุนที่ต่ำ ในขณะที่บางครั้งก็อาจเจอเข้ากับต้นทุนที่สูง แต่เมื่อเฉลี่ยกันในท้ายที่สุดก็มีโอกาสที่ต้นทุนจะถูกถัวเฉลี่ยไปต่ำกว่าราคา ณ ปัจจุบันก็ได้เช่นกัน
- ใช้เงินทุนไม่มาก
การลงทุนแบบ DCA นั้นไม่จำเป็นต้องลงเงินอะไรมากมาย เริ่มต้นที่เพียง 500 บาทต่อเดือนเท่านั้น (อ้างอิงข้อมูลจากเว็บไซต์ธนาคารกสิกรไทย) จึงเหมาะเป็นอย่างยิ่งกับนักลงทุนมือใหม่ ผู้เริ่มต้นทำงานไม่นานแต่อยากลงทุน ไปจนถึงผู้ที่อยากต่อยอดเงินเก็บเพื่อเป้าหมายที่ต้องการในอนาคต ซึ่งนับว่าเป็นการสร้างความมั่งคั่งในระยะยาวได้อย่างดี - เข้าจังหวะไหนก็ได้
หลาย ๆ คนอาจจะมองว่าการลงทุนนั้นเป็นเรื่องยาก เพราะต้องศึกษาเรื่องการจับจังหวะตลาด แต่การลงทุนแบบ DCA นั้นจะไม่ได้พิจารณาถึงราคาสินทรัพย์ ณ ขณะลงทุน ซึ่งช่วยให้นักลงทุนสามารถเลือกเวลาเข้าซื้อได้ตามที่ต้องการ
ข้อเสีย
- ควรมีความรู้ในการเลือกสินทรัพย์การลงทุนอยู่บ้าง
การลงทุนแบบ DCA นั้นเหมาะกับนักลงทุนหน้าใหม่ก็จริง แต่อย่างน้อยก็ควรจะศึกษาหรือมีความรู้ในการเลือกสินทรัพย์การลงทุนอยู่บ้าง เพราะหากไม่มีความรู้ในการเลือกสินทรัพย์อยู่เลย ไม่เพียงแต่จะเพิ่มความเสี่ยงให้กับการลงทุนเท่านั้น แต่ยังเสี่ยงได้สินทรัพย์ที่สร้างผลตอบแทนได้ไม่ดีเท่าที่ควรด้วย
- ต้องลงทุนหลักปี
อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่าการลงทุนแบบ DCA นั้นเป็นการลงทุนในระยะยาว ซึ่งกว่าจะเห็นผลลัพธ์การลงทุนที่ต้องการได้อาจใช้เวลานานหลักปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับจำนวนเงินลงทุนด้วยเช่นกัน
Sunday Tips! 3 เทคนิคลงทุน DCA ให้ได้กำไร ยิ่งเริ่มลงทุนเร็ว ยิ่งดีอย่าลงทุนเกินตัวจนขาดสภาพคล่องทางการเงินเลือกลงทุนในทรัพย์สินที่มีโอกาสที่จะเติบโตในระยะยาว |
การลงทุนนับว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของผู้ที่ต้องการเข้าถึงเป้าหมายทางการเงินที่ต้องการ เพราะลำพังเพียงแค่เก็บเงินเพียงอย่างเดียว นอกจากจะเสี่ยงเจอพิษเศรษฐกิจที่ทำให้มูลค่าเงินลดลงแล้ว การเก็บเงินเอาไว้เฉย ๆ ยังทำให้สร้างผลตอบแทนที่อาจไปไม่ถึงเป้าหมายทางการเงินที่ฝันไว้ก็เป็นได้แต่นอกจากการลงทุนเพื่อเป้าหมายชีวิตในอนาคตแล้ว การลงทุนกับสุขภาพก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญไม่แพ้กัน อย่าลืมลงทุนกับประกันสุขภาพออนไลน์ จาก Sunday เพื่อช่วยบริหารความเสี่ยงที่มาพร้อมกับสุขภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาลที่อาจส่งผลกระทบต่อเงินเก็บและเป้าหมายทางการเงินในอนาคต