หน้าหลัก เรื่องราวรอบตัว ยื่นภาษี 2568 จะลดหย่อนภาษีให้คุ้มสูงสุดต้องทำอย่างไร?

ยื่นภาษี 2568 จะลดหย่อนภาษีให้คุ้มสูงสุดต้องทำอย่างไร?

ยื่นภาษี 2568

การยื่นภาษี เป็นหน้าที่ตามประมวลรัษฎากรที่กำหนดให้ผู้มีรายได้ถึงเกณฑ์ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาต่อกรมสรรพากร 

อย่างไรก็ดี แม้ภาษีจะเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ตามกฎหมาย แต่ทุกคนสามารถใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษี เพื่อปรับลดฐานรายได้สุทธิที่ใช้คำนวณภาษี ทำให้ยอดภาษีที่ต้องชำระจริงลดลงอย่างถูกต้องตามกฎหมายได้

บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจทุกขั้นตอนของการยื่นภาษี 2568 พร้อมอัปเดตเกณฑ์ลดหย่อนใหม่ล่าสุด รวมถึงเทคนิคการใช้สิทธิ์ประกันสุขภาพและประกันชีวิต เพื่อลดหย่อนภาษี พร้อมวางแผนการเงินและสุขภาพให้ดีที่สุด 

สรุปเนื้อหาสำคัญ:

ใครต้องยื่นภาษี 2568 บ้าง?

ผู้ที่ต้องยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา คือ บุคคลที่มีสถานะเป็น “ผู้มีเงินได้” ตามกฎหมาย และมีรายได้พึงประเมินถึงเกณฑ์ที่กำหนด โดยเกณฑ์การยื่นภาษีจะพิจารณาจากสถานภาพสมรสและประเภทรายได้ ดังนี้

สถานภาพของผู้มีเงินได้ประเภทรายได้เกณฑ์รายได้ที่ต้องยื่นภาษี(บาทต่อปี)
บุคคลธรรมดาทั่วไป (โสด)เงินเดือนเพียงอย่างเดียว มาตรา 40(1)120,000 บาท ขึ้นไป
มีรายได้อื่นนอกเหนือจากเงินเดือน มาตรา 40(2)-(8)60,000 บาท ขึ้นไป
บุคคลธรรมดาทั่วไป (มีคู่สมรส)คู่สมรสมีรายได้รวมกัน220,000 บาท ขึ้นไป
กองมรดกที่ยังไม่ได้แบ่งทุกประเภทรายได้60,000 บาท ขึ้นไป
ห้างหุ้นส่วนสามัญ / คณะบุคคลที่ไม่ใช่นิติบุคคลทุกประเภทรายได้60,000 บาท ขึ้นไป
Sunday Tips! สำหรับคนมีรายได้หลายช่องทาง
ฟรีแลนซ์/เจ้าของธุรกิจออนไลน์ โดยหากคุณมีรายได้จากการรับจ้างทั่วไป (40(2)) หรือรายได้จากการค้าขายออนไลน์ (40(8)) แม้เป็นรายได้ที่ไม่ประจำ หากรวมกันเกิน 60,000 บาทต่อปี ก็ต้องยื่นแบบ ภ.ง.ด.90 โดยส่วนใหญ่แล้ว การละเลยรายได้ประเภทนี้ถือเป็นความเสี่ยงทางภาษีที่พบบ่อยที่สุด
รายได้จากดอกเบี้ย/ปันผล ส่วนใหญ่มักถูกหัก ณ ที่จ่ายแล้ว แต่หากเกินเกณฑ์ที่กำหนดก็อาจถูกเรียกให้นำมารวมคำนวณภาษีได้ 
ดังนั้น ไม่ว่าจะมีรายได้จากช่องทางไหน แนะนำให้ยื่นแบบแสดงรายการเอาไว้ให้ครบเสมอ

ใครเสียภาษีเท่าไหร่บ้าง?

ผู้ที่มีหน้าที่ต้องเสียภาษี คือ บุคคลที่มีเงินได้สุทธิ โดยมีรายได้พึงประเมินหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนแล้ว เกินกว่า 150,000 บาทต่อปี 

โดยภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในประเทศไทยจะใช้ระบบอัตราก้าวหน้า (Progressive Tax Rate) เท่ากับว่า ยิ่งรายได้สุทธิสูง อัตราภาษีที่ต้องเสียจะยิ่งสูงขึ้นเป็นลำดับ โดยจะต้องเสียภาษีตามเกณฑ์ ดังนี้

เงินได้สุทธิ (บาทต่อปี)อัตราภาษีที่ต้องเสีย (%)ภาษีสะสมสูงสุดในขั้น (บาท)
0 – 150,0000%ยกเว้นภาษี
150,001 – 300,0005%7,500
300,001 – 500,00010%27,500
500,001 – 750,00015%65,000
750,001 – 1,000,00020%115,000
1,000,001 – 2,000,00025%365,000
2,000,001 – 5,000,00030%1,265,000
5,000,001 บาทขึ้นไป35%ไม่จำกัด

ยื่นภาษี 2568 ได้เมื่อไหร่?

  • การยื่นภาษีแบบกระดาษ สามารถยื่นได้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 31 มีนาคม 2569 หากต้องชำระภาษีเพิ่มเติม สามารถขอผ่อนผันเพื่อยื่นล่าช้าได้ แต่ไม่เกินวันที่ 8 เมษายน 2569
  • การยื่นภาษีออนไลน์ที่ www.rd.go.th หรือแอปพลิเคชัน RD Smart Tax สามารถยื่นได้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 8 เมษายน 2569

คำนวณรายได้ไม่ถึงเกณฑ์ ต้องยื่นภาษีหรือเปล่า?

ถึงแม้รายได้สุทธิจะไม่ถึงเกณฑ์ที่ต้องเสียภาษี หรือ ไม่เกิน 150,000 บาท แต่คุณก็ยังต้อง “ยื่นแบบแสดงรายการภาษี” แต่ไม่ต้อง “เสียภาษี” 

โดยการยื่นภาษีตามกฎหมายถือเป็นการแสดงความโปร่งใสทางการเงิน และช่วยสร้างประวัติทางการเงินที่ดี ไว้สำหรับการทำธุรกรรมอื่นๆ ในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นการขอคืนภาษี การทำธุรกรรมทางการเงินในอนาคต ตลอดจนช่วยป้องกันการถูกเรียกตรวจสอบย้อนหลังหรือถูกปรับเนื่องจากไม่ยื่นแบบภาษีด้วย

ยื่นภาษีล่าช้า

ยื่นภาษีล่าช้า ผิดกฎหมายหรือไม่ ต้องทำอย่างไร?

การยื่นภาษีล่าช้ากว่ากำหนดถือว่า “มีความผิดกฎหมายตามประมวลรัษฎากร” ซึ่งมีโทษค่าปรับทางอาญาไม่เกิน 2,000 บาท สำหรับการไม่ยื่นแบบ ภ.ง.ด. ภายในกำหนด และ ต้องชำระเงินเพิ่ม 1.5% ต่อเดือนของยอดภาษีที่ต้องชำระ โดยเริ่มนับตั้งแต่วันพ้นกำหนดจนถึงวันที่ชำระครบ

สิ่งที่ต้องทำเมื่อยื่นภาษีล่าช้า

  1. ให้รีบดำเนินการยื่นแบบ ภ.ง.ด.90/91 พร้อมชำระภาษี (ถ้ามี) ให้เร็วที่สุด
  2. หากยื่นแบบฯ ด้วยตนเองที่สำนักงานสรรพากรพื้นที่ จะต้องแจ้งความประสงค์ขอชำระค่าปรับอาญาตามมาตรา 35 และชำระเงินเพิ่มตามมาตรา 27
  3. ยื่นออนไลน์ (บางกรณี) หากยื่นผ่านระบบออนไลน์ล่าช้า เจ้าหน้าที่จะแจ้งให้ชำระเงินเพิ่ม/ค่าปรับภายหลัง

ยื่นภาษีไม่ครบ ต้องทำอย่างไร?

การยื่นภาษีไม่ครบถ้วน เช่น ตกหล่นรายได้บางรายการ หรือ กรอกรายการลดหย่อนผิดพลาด เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้บ่อย และสามารถแก้ไขได้ ขึ้นอยู่ว่าการยื่นภาษีไม่ครบถ้วนนั้นเกิดขึ้น “ก่อน” หรือ “หลัง” วันที่กำหนดให้ยื่นแบบ โดยจะพิจารณาแตกต่างกัน ดังนี้

1. กรณีพบว่ายื่นไม่ครบ “ภายในกำหนดเวลา”

กรณีนี้ คุณสามารถดำเนินการ ยื่นแบบเพิ่มเติม หรือ ยื่นใหม่ ได้ทันที โดยมีขั้นตอน ดังนี้

  • เข้าสู่ระบบยื่นภาษีออนไลน์ที่เว็บไซต์กรมสรรพากร 
  • เลือกเมนู “ยื่นเพิ่มเติม” หรือ ทำรายการยื่นใหม่ทั้งหมด 
  • กรอกข้อมูลรายได้ ค่าใช้จ่าย และค่าลดหย่อน ใหม่ทั้งหมดให้ถูกต้องและครบถ้วน หากการยื่นเพิ่มเติมแล้วทำให้มีภาษีต้องชำระเพิ่มจากที่เคยชำระไปแล้ว คุณจะต้องชำระส่วนที่ขาดไป 
  • เจ้าหน้าที่จะถือแบบที่ยื่นล่าสุดเป็นหลัก ทำให้ไม่มีโทษปรับหรือเงินเพิ่มใดๆ

2. กรณีพบว่ายื่นไม่ครบ “หลังจากกำหนดเวลา”

การยื่นเพิ่มเติมหลังกำหนดเวลา ถือว่าเป็นการยื่นแบบล่าช้า ซึ่งมีโทษค่าปรับทางอาญาไม่เกิน 2,000 บาท สำหรับการไม่ยื่นแบบ ภ.ง.ด. ภายในกำหนด และ ต้องชำระเงินเพิ่ม 1.5% ต่อเดือนของยอดภาษีที่ต้องชำระ โดยเริ่มนับตั้งแต่วันพ้นกำหนดจนถึงวันที่ชำระครบ

ลดหย่อนภาษีคืออะไร หมวดไหนลดหย่อนได้เท่าไหร่บ้าง?

การลดหย่อนภาษี คือ สิทธิที่กฎหมายมอบให้ผู้มีเงินได้สามารถนำค่าใช้จ่ายบางประเภทมาหักออกจาก “เงินได้พึงประเมิน” เพื่อให้เหลือเป็น “เงินได้สุทธิ” ที่ใช้คำนวณภาษีในอัตราที่ต่ำลงอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยจะมี 5 หมวด ดังนี้

1. ค่าลดหย่อนภาษีส่วนตัว

รายการลดหย่อนเพดานลดหย่อน (สูงสุด)เงื่อนไขสำคัญ
ค่าลดหย่อนส่วนตัว60,000 บาทสำหรับผู้มีเงินได้ทุกคนโดยไม่มีเงื่อนไข
ค่าลดหย่อนคู่สมรส60,000 บาทเฉพาะคู่สมรสที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายและ ไม่มีเงินได้
ค่าลดหย่อนบุตร30,000 บาท (ต่อคน)บุตรชอบด้วยกฎหมาย หรือบุตรบุญธรรม (รวมกันไม่เกิน 3 คน)
ค่าลดหย่อนบุตรคนที่ 2 ขึ้นไป (เกิดตั้งแต่ปี 2561)60,000 บาท (ต่อคน)ต้องเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมาย
ค่าฝากครรภ์และคลอดบุตรไม่เกินครรภ์ละ 60,000 บาทใช้ใบเสร็จรับเงินจากสถานพยาบาล
อุปการะบิดามารดาคนละ 30,000 บาท (สูงสุด 4 คน)อายุ 60 ปีขึ้นไป และมีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี
อุปการะผู้พิการ/ทุพพลภาพคนละ 60,000 บาทมีบัตรประจำตัวผู้พิการ และมีหนังสือรับรองการเป็นผู้อุปการะ

2. ค่าลดหย่อนภาษีกลุ่มเงินบริจาค

รายการลดหย่อนเพดานลดหย่อน (สูงสุด)เงื่อนไขสำคัญ
เงินบริจาคทั่วไปตามที่จ่ายจริง ไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังหักลดหย่อนเช่น ศาสนสถาน หรือ องค์กรสาธารณกุศลทั่วไป
เงินบริจาค 2 เท่า (การศึกษา, กีฬา, สาธารณสุข)2 เท่าของเงินบริจาคจริง ไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังหักลดหย่อนต้องเป็นหน่วยงานที่กำหนด
เงินบริจาคให้พรรคการเมืองไม่เกิน 10,000 บาทวงเงินแยกต่างหาก

3. ค่าลดหย่อนภาษีกลุ่มจากการออมและลงทุน

หมวดนี้มีความซับซ้อนเนื่องจากมีหลายวงเงินและเพดานรวมกัน โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่มหลัก คือ กลุ่มเพดานรวม 500,000 บาท และ กลุ่มวงเงินแยกต่างหาก

กลุ่มที่ 1: เพดานรวมเพื่อการเกษียณ

ยอดรวมของรายการเหล่านี้ ต้องไม่เกิน 500,000 บาท

รายการลดหย่อนเพดานลดหย่อน (ต่อรายการ)หมายเหตุ
กองทุน RMF30% ของเงินได้ แต่ไม่เกิน 500,000 บาท
กองทุน SSF30% ของเงินได้ แต่ไม่เกิน 200,000 บาทถือครอง 10 ปี
กองทุน PVD / กบข. / กองทุนครูเอกชนตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 500,000 บาทแต่ละกองทุนมีเงื่อนไข % ของรายได้
ประกันชีวิตแบบบำนาญ15% ของเงินได้ แต่ไม่เกิน 200,000 บาท
กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.)ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 30,000 บาท

กลุ่มที่ 2: วงเงินลดหย่อนแยกต่างหาก

รายการลดหย่อนเพดานลดหย่อน (ต่อรายการ)หมายเหตุ
กองทุน ThaiESG (ปี 67-69)30% ของเงินได้ แต่ไม่เกิน 300,000 บาทวงเงินนี้ แยกต่างหาก จากกลุ่ม 500,000 บาท (ถือครอง 5 ปี)
กองทุน ThaiESGX (เงินใหม่ ปี 68)30% ของเงินได้ แต่ไม่เกิน 300,000 บาทวงเงินนี้ แยกต่างหาก (สำหรับผู้ลงทุนใหม่ พ.ค. – มิ.ย. 68 เท่านั้น)
ThaiESGX (สับเปลี่ยน LTF)ปี 2568 ลดหย่อนได้ 300,000 บาทวงเงินสับเปลี่ยนรวมสูงสุด 500,000 บาท โดยส่วนที่เหลือจะทยอยลดหย่อนปีละ 50,000 บาทใน 4 ปีถัดไป
เงินลงทุนธุรกิจ Social Enterpriseไม่เกิน 100,000 บาทวงเงินแยกต่างหาก

4. ค่าลดหย่อนกลุ่มกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ

  • ดอกเบี้ยกู้ยืมเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย ลดหย่อนได้ไม่เกิน 100,000 บาท
  • การสร้างบ้านใหม่ ลดหย่อนได้ 100,000 บาท
  • ค่าลดหย่อนตามโครงการสนับสนุนเศรษฐกิจของรัฐบาล เช่น E-Receipt 2.0 ที่ลดหย่อนสูงสุดไม่เกิน 50,000 บาท ใช้สิทธิ์ในช่วง 16 มกราคม – 28 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา

5. ค่าลดหย่อนภาษีกลุ่มจากเบี้ยประกัน

รายการลดหย่อนเพดานลดหย่อน (สูงสุด)เงื่อนไขสำคัญ
เงินสมทบประกันสังคมไม่เกิน 9,000 บาทตามที่จ่ายจริงในปีภาษี
เบี้ยประกันชีวิตทั่วไป / สะสมทรัพย์รวมกันไม่เกิน 100,000 บาทคุ้มครอง 10 ปีขึ้นไป
เบี้ยประกันสุขภาพของตนเองไม่เกิน 25,000 บาทต้องรวมกับเบี้ยประกันชีวิตและสะสมทรัพย์แล้วไม่เกิน 100,000 บาท
เบี้ยประกันสุขภาพของบิดามารดาไม่เกิน 15,000 บาทบิดามารดามีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี

วิธียื่นภาษีออนไลน์ มือใหม่ต้องรู้!

  1. เข้าเว็บไซต์กรมสรรพากร และเลือกเมนู “ยื่นแบบออนไลน์” (e-Filing)
  2. กรอกข้อมูลส่วนตัว สำหรับผู้ยื่นภาษีครั้งแรก ต้องลงทะเบียน/ยืนยันตัวตน จากนั้นล็อกอินด้วยเลขบัตรประชาชน
  3. เลือกประเภทแบบ: เลือกแบบ ภ.ง.ด.90 (สำหรับผู้มีรายได้หลายประเภท) หรือ ภ.ง.ด.91 (สำหรับผู้มีรายได้เป็นเงินเดือนอย่างเดียว)
  4. กรอกข้อมูลรายได้ตาม 50 ทวิ ที่ได้รับจากนายจ้างหรือผู้จ่ายเงินได้
  5. กรอกรายละเอียดค่าลดหย่อนที่สามารถใช้สิทธิ์ได้ เช่น ค่าลดหย่อนส่วนตัว ค่าประกันสุขภาพเพื่อลดหย่อนภาษี ค่าดอกเบี้ยบ้าน
  6. ตรวจสอบผลการคำนวณ โดยระบบจะคำนวณภาษีสุทธิที่ต้องชำระ (หรือขอคืน) อัตโนมัติ
  7. กด “ยืนยันการยื่นแบบ” และชำระภาษีผ่านช่องทางที่กำหนด (กรณีต้องชำระ) หรือ รอการคืนเงินภาษี (กรณีขอคืน)

ลดหย่อนภาษีได้ในราคาที่ถูกลง ด้วยประกันสุขภาพเหมาจ่ายแบบร่วมจ่ายของซันเดย์

การใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีด้วยประกันสุขภาพ ถือเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยให้คุณวางแผนรับมือกับค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ที่สูงลิ่วในปัจจุบัน ทั้งยังรับผลประโยชน์ทางภาษีได้ โดยสามารถนำเบี้ยประกันสุขภาพที่ซื้อให้ตนเองมาลดหย่อนภาษีสูงสุดถึง 25,000 บาท

ตัวอย่างการประหยัดภาษีจากประกันสุขภาพ

กรณีคนที่มีรายได้เฉลี่ย 50,000 บาทต่อเดือน และอยู่ในฐานภาษี 15%

รายละเอียดก่อนใช้สิทธิ์ประกันหลังใช้สิทธิ์ประกันสุขภาพ(เบี้ย 25,000 บาท)
เงินได้สุทธิ600,000 บาท600,000 – 25,000 = 575,000 บาท
อัตราภาษีสูงสุดที่ถูกคิด15% (อยู่ในขั้น 500,001 – 750,000 บาท)15% (อยู่ในขั้น 500,001 – 750,000 บาท)
ภาษีที่ต้องจ่าย (โดยประมาณ)42,500 บาท38,750 บาท
เงินภาษีที่ประหยัดได้3,750 บาท

แต่รู้หรือเปล่า? 

ประกันสุขภาพซันเดย์ยังมาพร้อมกับแผนร่วมจ่าย หรือ Copayment ที่คุณสามารถเลือกประหยัดเบี้ยได้สูงสุด 30% แต่ยังได้รับความคุ้มครองที่ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นค่าห้องสูงสุด 6,000 บาท และผลประโยชน์สูงสุด 1,000,000 บาท

เท่ากับว่า คุณยังสามารถรับสิทธิ์ลดหย่อนภาษีได้ ในเบี้ยประกันสุขภาพที่ถูกลง และยังได้รับความคุ้มครองที่ครบถ้วนอยู่
ใกล้ถึงรอบยื่นภาษีแล้ว อย่าลืมวางแผนประกันสุขภาพไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ โดยคุณสามารถเช็กเบี้ยและความคุ้มครองของประกันสุขภาพซันเดย์ที่เหมาะกับตัวเองได้ง่ายๆ ที่เว็บไซต์ easysunday.com ใช้แค่ “วันเดือนปีเกิด” เท่านั้น



ประกันสุขภาพซันเดย์
Share this article
Shareable URL
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง

รู้ไว้ดีกว่า! รวมวิธีเตรียมตัวรับมือภัยพิบัติสงคราม

เตรียมตัวอย่างไรในวันที่เกิด “ภัยพิบัติสงคราม”? การเตรียมตัวรับมือภัยพิบัติสงคราม คือ…
ภัยพิบัติสงคราม

สรุปสิทธิประกันสังคม วัยทำงานไม่มีประกันสุขภาพควรรู้

เมื่อเริ่มงานใหม่ หลายบริษัทมักมีข้อกำหนดให้พนักงานต้องผ่านช่วงทดลองงานก่อนถึงจะได้รับสวัสดิการประกันสุขภาพ หรือ…
วัยทำงานไม่มีประกันสุขภาพควรรู้
0
Share