หน้าหลัก สาระสุขภาพ PM 2.5 อันตรายกับเด็ก ส่งผลถึงพัฒนาการ จริงหรือ?

PM 2.5 อันตรายกับเด็ก ส่งผลถึงพัฒนาการ จริงหรือ?

PM 2.5 อันตรายกับเด็ก ส่งผลถึงพัฒนาการ จริงหรือ?

ต้องบอกก่อนว่า PM 2.5 เป็นภัยร้ายล่องหน ที่อันตรายกับทุกคน ยิ่งได้รับเยอะเท่าไหร่ ก็ยิ่งอันตรายมากเท่านั้น หลังจากคราวที่แล้วที่เราได้พูดถึง PM 2.5 ที่ทำให้คนสุขภาพแข็งแรงเป็นมะเร็งได้ ในบทความ 4 โรคร้าย ที่อาจเกิดขึ้นได้จาก PM2.5 ไป วันนี้ซันเดย์จึงพามาขยายความกันต่อว่า แล้วสำหรับ PM 2.5 อันตรายกับเด็กขนาดไหน ส่งผลถึงพัฒนาการ จริงหรือเปล่า เรามาดูกัน

PM 2.5 อันตรายกับเด็กขนาดไหน

PM 2.5 สามารถแทรกซึมเข้าสู่ร่างกาย และทำลายระบบต่างๆ ได้ ซึ่งปกติแล้วเด็กจะมีอัตราการหายใจถี่กว่าผู้ใหญ่ จึงสูดอากาศที่มี PM 2.5 เข้าไปมากกว่าผู้ใหญ่ และอาจส่งผลกระทบระยะยาวกับปอดได้

ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคปอดอักเสบ หอบหืด และโรคมะเร็งระบบทางเดินหายใจ ส่วนในเด็กที่เป็นโรคภูมิแพ้ หอบหืด หรือโรคทางเดินหายใจอยู่แล้ว เด็กกลุ่มนี้จะมีความไวต่อการกระตุ้นจากฝุ่นละออง หากได้รับฝุ่นละออง PM 2.5 จะทำให้อาการของโรคแย่ลงได้ง่าย นอกจากนั้น PM 2.5 มีขนาดเล็กมากจนสามารถซึมเข้าสู่กระแสเลือด และกระจายไปทั่วร่างกาย อาจกระตุ้นให้เกิดการอักเสบในหลอดเลือด ซึ่งนำไปสู่ภาวะหลอดเลือดหัวใจตีบ และภาวะหลอดเลือดหดตัวได้ 

PM 2.5 ส่งผลถึงพัฒนาการของเด็ก จริงหรือ?

จากการที่ PM 2.5 มีขนาดเล็กมาก จึงสามารถแทรกซึมไปยังอวัยวะต่างๆในร่างกายได้ มันก็มีโอกาสผ่านเข้าไปในสมองของเด็กได้เช่นเดียวกัน

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เด็กที่อยู่ในครรภ์มารดา ฝุ่นละอองเหล่านี้จะทำลายเซลล์สมอง ส่งผลกระทบต่อพัฒนาการทางสติปัญญา และส่งผลต่อการเรียนรู้ ความเป็นอยู่ และความสามารถในการประกอบอาชีพในระยะยาว รวมทั้งยังมีผลทำให้เกิดภาวะสมาธิสั้นอีกด้วย

อาการที่เกิดจาก PM 2.5 ที่ควรรีบไปพบแพทย์

เมื่อมีอาการที่เข้าข่ายข้อด้านล่างนี้ข้อใดข้อหนึ่ง ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายให้ละเอียด

  • หายใจถี่ หายใจลำบาก แน่นหน้าอก
  • ไอจามอยู่บ่อยๆ น้ำมูกไหล
  • แสบตา น้ำตาไหล ตาแดง
  • ผื่นคันขึ้นตามร่างกาย

PM 2.5 ในที่ที่เราคิดไม่ถึง

หลายคนอาจไม่รู้ว่า PM2.5 ไม่ได้มีแค่ด้านนอกบ้านเท่านั้น แต่ในบ้านก็สามารถมีฝุ่นละอองพวกนี้ได้เช่นกัน ไม่ว่ามาจากการเล็ดลอดเข้ามาผ่านช่องประตู หน้าต่าง หรือการทำอาหารที่ทำให้เกิดฝุ่นควัน ก็สามารถสร้าง PM2.5 ในบ้านได้ ดังนั้นเราจึงต้องมั่นดูแลให้ที่อยู่อาศัยของเราปราศจากมลพิษทาอากาศอยู่เสมอ ด้วยการปิดหน้าต่าง หรือช่องระบายอากาศ ในวันที่มีฝุ่นมาก หลีกเลี่ยงการทำอาหารที่ทำให้เกิดฝุ่นและควัน และติดตั้งเครื่องฟอกอากาศภายในบ้าน

วิธีป้องกันเด็กๆ จาก PM 2.5 

  1. หลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง ลดการวิ่งเล่นด้านนอกอาคาร
  2. ใส่หน้ากากอนามัย N95 หรือหน้ากากที่สามารถป้องกันฝุ่น PM 2.5 ได้ เมื่อออกนอกอาคาร
  3. ปิดประตูหน้าต่างที่บ้าน เพื่อป้องกันฝุ่นละอองเข้าบ้าน
  4. มั่นดูแลร่างกาย รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และควรดื่มน้ำอย่างน้อย 6-8 แก้วต่อวัน
  5. เด็ก ๆ ที่มีโรคประจำตัว เช่น หอบหืด ภูมิแพ้โรคทางเดินหายใจ ควรเตรียมยาประจำตัวให้พร้อม และทานยาประจำสม่ำเสมอ คุณพ่อ คุณแม่ควรพกยาที่จำเป็นติดตัว เพื่อให้เด็กใช้เมื่อมีอาการกำเริบ

เท่านี้ก็สามารถหลีกเลี่ยงและป้องกัน PM2.5 ได้แล้ว แต่ถึงอย่างนั้น PM2.5 ยังสามารถส่งผลได้กับทุกเพศทุกวัย จึงแนะนำในคุณพ่อคุณแม่ มั่นดูแลร่างกายในสุขภาพแข็งแรงอยู่เสมอ เพื่อให้สามารถปกป้องลูกน้อยได้อย่างเต็มที่ เหมือนอย่างประกันสุขภาพเด็กเล็กและผู้ปกครองที่สามารถช่วยรองรับค่าใช้จ่าย ให้สามารถได้รับการรักษาอย่างเต็มที่และรวดเร็ว

หากต้องข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ PM2.5 สามารถฟังข้อมูลดีๆ จาก นพ.วิชัย อังคเศกวินัย อายุรแพทย์โรคหลอดเลือดและหัวใจ ได้ ที่นี่


Credit : [1][2][3][4][5][6]

Share this article
Shareable URL
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง

เช็กลิสต์ 10 วิธีดูแลสุขภาพให้ดีทั้งกายและใจ ใคร ๆ ก็ทำได้

สุขภาพดีที่สร้างได้จาก 10 วิธีการดูแลตัวเองเหล่านี้ อยากมีสุขภาพดี แต่ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน…
how to take care your self

รู้จักไวรัส RSV โรคทางเดินหายใจในเด็ก อันตรายถึงชีวิต

โรค RSV คืออะไร สังเกตอาการได้อย่างไรบ้าง? ในช่วงที่อากาศเริ่มเปลี่ยนแปลงบ่อย ๆ อย่างช่วงปลายฝนต้นหนาว…

นอนเยอะแต่เหมือนนอนไม่พอ คุณอาจจะเป็นโรคนอนเกิน!

นอนเท่าไหร่ก็ไม่พอ อาจเป็นโรคนอนเกินได้นะ! มีใครเคยเป็นบ้าง นอนเต็ม 8 ชั่วโมงก็แล้ว 12 ชั่วโมงก็แล้ว…
oversleeping-symptoms-feeling-tired-despite-sleeping-a-lot
0
Share