พอเริ่มปี 2565 หลายคนคงเริ่ม “ตั้งเป้าหมายปีใหม่” กันอีกครั้ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ควรทำมากๆ เพราะการมีเป้าหมายที่ชัดเจนนั้น นอกจากจะกระตุ้นให้เราเปลี่ยนตัวเองให้ดีขึ้นในแบบที่จับต้องได้แล้ว ยังช่วยยกระดับจิตใจของเราให้แน่วแน่ ชัดเจน และแข็งแกร่งขึ้นได้อีกทาง
แต่สำหรับใครที่ยังไม่ได้ตั้งเป้าหมายของปีนี้เอาไว้ก็ไม่ต้องกังวล เพราะคุณยังมีเวลาค้นหาสิ่งที่ชอบ สิ่งที่อยากทำ หรือสิ่งที่เราต้องการยกระดับตัวเองได้ทุกเวลา ซึ่งซันเดย์จะขอแนะนำวิธีในการค้นหาสิ่งที่ตัวเองชอบได้ง่ายๆ พร้อมแชร์ประสบการณ์+เป้าหมายดีๆ ของเหล่าพนักงานซันเดย์ เผื่อจะเป็นแนวทางหรือแรงบันดาลใจ ให้คุณค้นหาตัวเอง พร้อมกับตั้งเป้าหมายในปีนี้ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น!
วิธีการค้นหาตัวเองว่าเราชอบอะไรกันแน่
- เช็กว่าเราสามารถทำอะไรได้ถนัด และผลลัพธ์ออกมาดี
คนเราย่อมมีเรื่องที่ถนัดต่างกันไป ลองเช็กตัวเองดูว่าเราเคยทำอะไรแล้วรู้สึกภาคภูมิใจ มีคนรอบข้างชื่นชม แม้สิ่งที่เราทำได้ดีอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เราชอบเต็มร้อย แต่ถ้าเราลองพินิจพิจารณาซักนิด สิ่งที่เราทำได้ดี อาจจะเป็นตัวตนที่คุณมองหาอยู่ก็ได้
- สังเกตตัวเอง ว่าเราเคยจดจ่อทำอะไรได้นานจนลืมเวลาไหม
เคยรู้สึกไหมว่าเวลาผ่านไปไวมากๆ ตอนเรากำลังทำกิจกรรมอะไรซักอย่างหรือเปล่า? นั่นอาจเป็นเพราะคุณรู้สึกสนุก ไม่รู้สึกเบื่อที่จะทำสิ่งนั้น และมันอาจจะเป็นอะไรที่เราสามารถนำไปต่อยอดเพื่อตั้งเป้าในการพัฒนาตัวเอง เป็นสกิลใหม่ หรืออาจเป็นอาชีพก็ได้นะ - พาตัวเองไปลองทำสิ่งใหม่ๆ ที่เรายังไม่เคยทำมาก่อน
ลองทำอะไรที่เรายังไม่เคยทำมาก่อน! เป็นหนึ่งในวิธียอดฮิตสำหรับใช้ค้นหาตัวเองที่ดีมากๆ เพราะมีงานวิจัยเผยว่าการตัดสินใจเรียนรู้สกิลใหม่ๆ หรือเข้าร่วมกิจกรรมที่ไม่เคยทำ จะช่วยกระตุ้นเซลล์ประสาทในสมอง เพื่อเชื่อมต่อเส้นใยประสาท (Myelination) เข้าด้วยกันให้เกิดการพัฒนาของสมอง ซึ่งวิธีนี้ก็ได้รับพิสูจน์แล้วว่า หลายๆ คนใช้ในการค้นหาตัวตนได้สำเร็จมาแล้ว - อาจตอบตัวเองให้ได้ก่อนว่า มีอะไรที่เราไม่ชอบทำบ้าง
ถ้าหาสิ่งที่ตัวเราชอบมันยังยากอยู่ เราลองมองมุมกลับดูว่าเราไม่ชอบทำอะไรบ้าง มันอาจจะง่ายขึ้น ซึ่งการที่เราจะรู้ตัวว่าไม่ชอบอะไร สิ่งแรกที่ต้องทำก็คือไปลงมือลองทำด้วยตนเอง (ตามข้อ 3) ดูก่อน ถึงจะได้ประสบการณ์ และตกผลึกออกมาว่านี่แหละคือสิ่งที่เราไม่ชอบ นี่แหละคือสิ่งที่เราชอบ
ชาวซันเดย์แชร์ประสบการณ์ ค้นหาสิ่งชอบ สร้างตัวตนที่ใช่สำหรับตัวเองยังไง?
ทีนี้เราลองมาดูกันว่า เพื่อนๆ ชาวซันเดย์ที่กำลังทำงานอยู่ในปัจจุบัน พวกเขามีวิธีอะไรในการค้นหาสิ่งที่ชอบ และสามารถไขคำตอบออกมาได้ว่าตัวตนของพวกเขานั้นเป็นยังไง ด้วยวิธีไหนบ้าง?
นะ – ธนธรรม โภคฐิติยุกต์
ไม่ว่าใครแรกๆ ก็ไม่มีใครรู้ได้หรอกว่าเราชอบทำอะไร ถ้าไม่ขวนขวายพาตัวเองออกไปใช้ชีวิตจริงๆ อย่างตอนเด็กผมคิดว่าผมวาดรูปเก่ง ชอบวาดรูป ที่ครอบครัวก็เลยแนะนำให้เข้าเรียนคณะสถาปัตย์ ซึ่งพอทำไปนานๆ 7-8 ปี ก็เริ่มรู้ว่า มีบางอย่างในงานนี้ที่เราเริ่มไม่รู้สึกสนุกไปกับมันแล้ว ก็เลยตัดสินใจไปเรียนบริหารธุรกิจที่ต่างประเทศ
พอได้ไปใช้ชีวิตที่นั่น ไปอยู่หอกับคนชาติต่างๆ ทีนี้มีเหตุการณ์ที่เราประทับใจก็คือ คนที่ย้ายหอออกไป ส่วนใหญ่เค้าไม่ขนของไปด้วยทั้งหมด มักจะทิ้งไว้ในหอนั่นแหละ เราก็เลยลองค้นหาข้อมูลจนไปเจอ Platform สำหรับขายและประมูลของ ได้เรียนรู้เรื่องการถ่ายภาพ การติดต่อลูกค้า ฯลฯ แล้วได้ลองเอาของที่ทิ้งแล้วไปประกาศขายดู ปรากฏว่าขายได้ดีเลย เราเลยรู้สึกถูกจริตมากในความไวของการทำธุรกรรมซื้อขายผ่านออนไลน์ เพราะได้รู้หมดเลยว่าลูกค้ามีพฤติกรรมยังไง
ทีนี้หลังจากเรียนจบกลับมา ก็มีโอกาสได้จับงาน Consult และต่อยอดไปทำงานกับบริษัทที่เป็นผู้ก่อตั้ง Lazada ที่สิงค์โปร ซึ่งก็ได้ทำงานที่เกี่ยวกับ Digital Marketing และมันก็ตรงกับสิ่งที่เราเคยทำและชอบมันมากในอดีต เลยรู้สึกว่านี่แหละตัวเรา เหมือนได้ค้นพบว่าสิ่งที่เราชอบทำคือ การจัดการสิ่งต่างๆ ด้วยความมีวินัย ไม่ว่าจะเป็นจัดระเบียบการขายสินค้า การแพ๊คของ ส่งของตามเวลา หรือเช็กข้อมูลต่างๆ ฯลฯ ประมาณนี้
ทอม – ฉัตรชัย กฤชเศรษฐสกุล
จุดเริ่มต้นจริงๆ ของตัวตนของผมก็คือ การที่ผมเป็นเด็กติดเกมครับ เริ่มจากสมัยเด็กๆ เลย สัก ป.1 พ่อแม่ผมซื้อเครื่องเกมพวก Super Family / Gameboy มาให้เล่น ตอนนั้นก็คือ เล่นได้ทั้งวัน และมีความฝันอยากสร้างเกมเองได้บ้าง
พอ 10 ขวบก็ได้เริ่มวิชาคอมพิวเตอร์ ซึ่งก็ชอบมากๆ ได้เรียนรู้ตั้งแต่การพิมพ์เอกสาร วาดรูป ไปจนถึงการเขียนโปรแกรมเบื้องต้นด้วย GWBasic ซึ่งพอเราได้ลองพิมพ์ตามในหนังสือแล้วมันรันได้นี่ดีใจมากๆ ผมก็เลยชอบเขียนโปรแกรมตั้งแต่ตอนนั้นเลย
ตัวตนของผมที่รักในการเขียนโปรแกรมนี้ ก็น่าจะเพราะเราได้ความรู้สึกที่เราสามารถสร้างอะไรขึ้นมาก็ได้ในโลกของคอมพิวเตอร์ สร้างเว็บ สร้างแอพ หรือจะต่อยอดให้ซับซ้อนแค่ไหนก็ได้ตามความสามารถของเราจะไปถึง แถมมันทำเป็นอาชีพเลี้ยงตัวเองได้ด้วยครับ
เหนย – จนรรจ์พร เดชะคุปต์
จากประสบการณ์ในชีวิตที่ผ่านมา ได้ค้นพบว่าตัวเองเป็นคนที่ชอบไปเจอคนอื่นๆ เพื่อที่ได้คุยกับคนอื่น ได้ถามความเห็นคนอื่น เพื่อที่จะได้รับพลังงานบวกจากผู้อื่นอยู่เสมอค่ะ
เรียกได้ว่า เป็นคนที่จะโฟกัสไปที่เรื่องความสัมพันธ์กับคนรอบข้างเป็นหลัก การออกไปเจอคนเยอะๆ เจอสังคมเยอะๆ ได้รู้จักคนหลายๆแบบ เราจะได้เรียนรู้จากแต่ละคนหมดเลย ได้ความคิดเห็น ได้การชี้แนะ ได้คำแนะนำจากหลายๆด้านก็เลยรู้สึกว่า การพบเจอกับคนอื่นมันเป็นสิ่งที่สำคัญ ที่ควร maintain ไว้ค่ะ
บีม – ธนดล อินทรักษ์
ผมคิดว่าการค้นหาตัวเองให้เจอ เกิดจากการที่ได้ลองทำสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อนเป็นหลักครับ ซึ่งทุกวันนี้ผมก็ยังลองทำสิ่งใหม่ๆ อยู่ตลอด เพราะในแต่ละช่วงเวลา เราก็อาจจะชอบหรือรักที่จะทำอะไรที่แตกต่างกันไป เลยต้องจัดสรรเวลาเพื่อทำในสิ่งที่ตนเองคิดว่ารู้สึกสบายใจที่จะทำมัน
อย่างที่ผ่านมา ผมค้นพบตัวเองว่าชอบเรื่อง “การลงทุน” ตั้งแต่ตอนเรียนมหาลัยเลย ด้วยความที่อยากหารายได้เพิ่มเพื่อที่จะได้แบ่งเบาภาระของที่บ้านด้วย แถมตอนสมัยเรียนมีเพือนตั้งกลุ่มไลน์กันเพื่อคุยกันด้านนี้แบบจริงจังมากๆ ก็จะมีการเเชร์ไอเดีย แชร์วิธีการลงทุนต่างๆระหว่างกันครับ เป็นคอมมิวนิตี้ซึ่งผมก็คิดว่ามันสนุกดี นอกจากนั้นยังเป็นหนทางในการสร้างรายได้เพิ่มได้ตั้งแต่สมัยเรียนอีกด้วย
อ๊อฟ – วนัสวี กุศล
สำหรับอ๊อฟ การค้นหาสิ่งที่ตัวเองชอบและรักในทุกวันนี้ได้นั้น เกิดจากการที่เราได้ลงมือทำ ได้เข้าไปเรียนรู้ด้วยตัวเองเพื่อหาประสบการณ์ และค่อยประเมินว่าสิ่งที่เราทำนั้นเราชอบหรือไม่ ไม่ว่าสิ่งนั้นจะสำเร็จหรือล้มเหลว การได้ลองคือการค้นหาตัวเองที่ดีที่สุด
สมัยเรียนอ๊อฟได้เคยลองทำมาหลายอย่างมากๆ ตั้งแต่พนักงานเซเว่น ครูสอนพิเศษให้เด็กกลุ่มเล็กๆ ไปจนถึงพนักงานพาร์ทไทม์ของธนาคารชื่อดัง ฯลฯ ซึ่งอ๊อฟก็ได้เรียนรู้จากการได้ลองทำด้วยตัวเอง งานรูปแบบไหนที่เป็นตัวตนของเรา อะไรที่เราทำแล้วชอบ ทำแล้วไม่ชอบ อย่างตอนแรกอ๊อฟอยากเป็นครู แต่ก็พบว่าเราไม่ถนัดการสอนเด็กเป็นกลุ่มใหญ่ๆ เท่าไหร่ พอไปทำงานธนาคารก็รู้สึกว่าเราไม่เหมาะในการโน้มน้าวให้คนมาซื้อสินค้าของเราได้
และสุดท้ายเราก็พบว่าการได้ทำงาน Coding หรือสายเทคนิคอยู่เบื้องหลัง พัฒนาระบบต่างๆ เพื่อรองรับความต้องการของคนนั้น คือสิ่งที่เป็นตัวเรา และเราอยากทำมากที่สุดในตอนนี้
น็อต – ณัฐภัท กาญจนประภาส
ผมค้นพบตัวเองตั้งแต่เด็กๆ แล้วว่า ตัวผมเป็นคนที่ชอบเล่นเกมคอมพิวเตอร์มาก เคยมีความฝันว่าอยากจะสร้างเกม เคยออกแบบเกมของตัวเองลงในกระดาษอยู่หลากหลายแนว ทำให้ผูกพันกับเกม และคอมพิวเตอร์มาตั้งแต่ยังเล็ก
พอโตขึ้นมาหน่อยช่วงมัธยมปลาย มีโอกาสได้เข้าค่ายเกี่ยวกับการเขียนโปรแกรม และทำให้เรารู้สึกว่ามันสนุกนะ เรามีความสุขเวลาได้คิด ได้เขียน และรันมันออกมาให้ทำงานได้ตามที่ต้องการ เลยทำให้ชอบการเขียนโปรแกรมมาตั้งแต่ตอนนั้น ทำให้ผมตัดสินใจเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัยในสาขาที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
จนมาถึงตอนนี้ที่ได้ทำงานแล้ว ผมก็ยังรู้สึกสนุก และชอบในการเขียนโปรแกรมอยู่ครับ
ตูน – วีรินทร์ภัทร ฟูวังหม้อ
ส่วนตัวตูนค้นพบมานานแล้ว ว่าตัวเองค่อนข้างมีหลายบุคลิกค่ะ เป็นคนที่มีความ introvert +extrovert ผสมกัน รวมถึงเป็นคนที่ชอบเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ไม่ยึดติดกับกฏเกณฑ์และชอบตั้งคำถามและหาข้อพิสูจน์ด้วยตนเอง หรือถามจากคนที่รู้
นอกจากนั้นยังเป็นคนที่ไม่กลัวการคุยกับคนแปลกหน้า ชอบศึกษาคนและสิ่งต่างๆ ทำให้กล้าที่จะพูดคุยสไตล์เจ๊าะแจ๊ะคนไปเรื่อยๆ แบบอยากรู้ว่าเค้าเป็นคนยังไง? สนใจอะไรยังไง? ถ้าหากว่าตูนเกิดคำถาม ก็มักจะชอบพูดคุยสอบถามกับคนที่รู้ไปเลย หรือไม่ก็กลับไปค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้เหมือนกัน
พอทำจนเป็นนิสัยของเรา ก็เลยทำให้รู้ว่าเราเป็นคนที่ชอบคิด ชอบคุย และก็น่าจะมีประโยชน์กับงานที่ต้องอาศัยการติดต่อ ประสานงาน พูดคุยกับหลายๆ ฝ่าย
ตั้งเป้าหมายในอนาคตยังไง? ให้เป็นจริงได้ไม่มีท้อ
- หากยังคิดเป้าหมายไม่ออก ให้ลองมองย้อนไปในอดีตจะช่วยได้
ก่อนที่เราจะ Look Forward เราอาจจะ Look Back เพื่อมองย้อนกลับไปว่า เหตุการณ์ไหน หรือสิ่งใดที่หล่อหลอมตัวเราให้เป็นกลายเป็นตัวเราขึ้นมา จากนั้นเราอาจจะต่อยอดจากสิ่งที่เราเคยทำในอดีต หรือนำสิ่งที่เรายังคิดว่าขาดอยู่ มาตั้งเป็นเป้าหมายเพื่อพัฒนาตนเองได้ต่อไป - ตั้งเป้าหมายใหญ่ที่สำคัญ และโฟกัสเป็นหลัก
ในแต่ละปีไม่ควรตั้งเป้าหมายมากจนเกินไป อาจเริ่มจากสิ่งที่เราคิดว่าสำคัญที่สุดก่อน และที่สำคัญก็คืออย่าตั้งเป้าหมายที่ใหญ่จนเป็นไปได้ยากจนเกินตัว เพื่อให้เราสามารถมุ่งหน้าไปสู่ความเร็จได้อย่างเป็นรูปธรรมจับต้องได้ - วางแผนให้ชัด เพื่อมุ่งหน้าไปที่เป้าหมายนั้น
ถ้าเราได้เป้าหมายใหญ่แล้ว ให้ลองซอยสิ่งที่เราตั้งเอาไว้เป็นหัวข้อที่ต้องทำย่อยๆ รายวัน สิ่งนี้จะกลายเป็น Roadmap เพื่อให้เราเดินหน้าทำให้สำเร็จไปได้ทีละอย่าง และควรทำให้เป็นกิจวัตรประจำทุกวัน
เปิดใจชาวซันเดย์ พวกเขามีเป้าหมายอะไรในปี 2565 กันบ้างนะ?
ถ้าคุณยังไม่ได้ตัดสินใจเกี่ยวกับเป้าหมายของตนเองในปีนี้ก็ไม่เป็นไร ลองมาดูตัวอย่าง New Year Resolution ที่น่าสนใจจากเพื่อนๆ ชาวซันเดย์ของเรา ซึ่งพวกเขาเลือกตั้งเป้าหมายจากสิ่งที่ชอบ และตั้งใจจะเดินหน้าทำให้สำเร็จ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับทุกคนได้ ตามนี้เลย
นะ – ธนธรรม โภคฐิติยุกต์
กรณีผมถ้ามองย้อนไปในอดีต จะรู้สึกว่าตัวเองชอบการทำอะไรให้เป็นระเบียบ มีแบบแผนที่แน่ชัด เป้าหมายหลักของผมในปีนี้เลยจะเน้นที่การจัดการผ่อนหนี้บ้านของตัวเองให้หมดเหลือแค่ ¼ ให่ได้ เป็นการบริหารส่วนของหนี้สิน เพื่อจะได้ให้ตัวเองรู้สึกสบายใจในการใช้ชีวิตได้มากขึ้น
นอกจากนั้นยังมีเป้าหมายที่จะบริหารการใช้เงินของตนเอง ให้สามารถเทไปยังด้านของการลงทุนให้มากกว่าที่เป็น เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับชีวิตได้มากกว่าที่เคย
ที่เหลือก็คือ อยากจัดสรรเวลาเพื่อสามารถออกไปใช้ชีวิตได้มากขึ้นกว่าเดิม อาจจะพยายามลดเวลางานลงให้น้อยกว่าปีที่ผ่านมาบ้าง เพื่อจะได้ไปลองทำอะไรใหม่ๆ ใช้ชีวิตให้ได้มากกว่าที่ผ่านมาก
ทอม – ฉัตรชัย กฤชเศรษฐสกุล
สำหรับเป้าหมายในปีนี้สำหรับผม สิ่งที่สอดคล้องกับความชอบและตัวตนของเราเลยก็คือ เราอยากมีเวลาที่จะเล่นเกมกับลูกให้มากขึ้น เพราะเดี๋ยวลูกโตเป็นวัยรุ่นก็จะไม่อยากเล่นกับเราแล้ว
นอกจากนั้นก็อยากจะตั้งเป้าหมายที่เน้นเรื่องของสุขภาพเป็นหลักด้วยครับ โดยเฉพาะการนอนพักผ่อนให้เพียงพอต่อวันตามหลักการที่ถูกต้อง ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเลยนะสำหรับผม
อันดับสุดท้ายที่อยากทำก็คือ การไม่มีหนี้เป็นลาภอันประเสริฐ ตั้งใจว่าภายในปีนี้หรือไม่เกินปีหน้าจะปลดหนี้บ้านให้ได้ละครับ
เหนย – จนรรจ์พร เดชะคุปต์
สำหรับเหนย เป้าหมายในปีนี้ก็คือ การพยายามออกไปนัดเจอเพื่อน คนรู้จัก ที่ในปีที่ผ่านมาเราทำไม่ได้ หรือไม่มีโอกาสที่จะได้เจอให้ได้มากที่สุด
อย่างที่เราค้นพบตัวเองว่า เราให้คุณค่ากับความสัมพันธ์มาก ดังนั้นถ้าสถานการณ์ต่างๆ ดีขึ้น เราก็อยากจะออกไปพบ ไปพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ขอคำปรึกษาจากคนอื่นๆ เพื่อต่อยอดพลังบวกให้กับตัวเองได้ตลอดทั้งปีนี้ค่ะ
บีม – ธนดล อินทรักษ์
ถ้าเป็นเป้าหมายที่ตั้งไว้ตอนนี้คือยาวถึงอีก 3-4 ปีข้างหน้านะ อันดับแรกก็จะหนีไม่พ้นพวกการลงทุนหรือหารายได้เสริมครับ หลักๆ ก็คือพยายามทำกำไรจากการลงทุนให้ได้มากขึ้น ส่วนอันดับที่ 2 ก็จะเป็นเรื่องของการพิจารณาซื้อรถยนต์ EV เป็นคันแรกในชีวิต และ อันดับสุดท้ายก็คือการสร้างครอบครัว
เป้าหมายทั้งหมด ถ้าให้พูดรวมๆ ก็คือ ผมอยากที่จะสร้างความมั่นคงให้กับตัวเองและครอบครัวเป็นหลัก เพราะการดำเนินชีวิตทุกวันนี้อะไรก็ไม่แน่นอน ถ้าเรามีความมั่นคงทั้งหน้าที่การงานและการเงินในระดับนึงแล้ว เราก็จะเลือกใช้ชีวิตไปกับครอบครัว หรือใช้เวลาไปกับสิ่งที่ชอบได้ด้วย
สำหรับรถ EV คือจริงๆ ก็คือนอกจากเรื่องของเทคโนโลยีความสะดวกสบายที่คิดว่าจะได้แล้ว การประหยัดค่าน้ำมันก็เป็นสิ่งที่อยากได้ แต่ก็ยังอยู่ในระหว่างการศึกษาหาข้อมูลอยู่ครับ
อ๊อฟ – วนัสวี กุศล
เนื่องจากอ๊อฟซึ่งเป็นคนที่ชอบลองลงมือทำอะไรใหม่ๆ ด้วยตนเองอยู่แล้ว เลยตั้งเป้าไว้หลายอย่าง เริ่มตั้งแต่การเรียนโยคะเพื่อสุขภาพ จะได้ลดอาการออฟฟิศซินโดรมได้โดยที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายมากนัก
เรื่องของการลงทุนเองอ๊อฟก็สนใจมากขึ้น เพราะล่าสุดก็ได้ลองด้วยตัวเอง และเจ็บเองกับการลงทุนไปแล้ว ปีนี้ก็เลยอยากจะให้เวลากับการหาความรู้ การค้นหาให้เจอว่าเราเหมาะกับการลงทุนแบบไหนกันแน่ที่จะไม่เจ็บตัวเหมือนปีที่ผ่านมา
สุดท้ายก็คือการหาอาชีพเสริมในวันหยุด และการพัฒนาตัวเอง ในปีนี้เราตั้งใจจะรับสอนพิเศษทุกวันเสาร์หรืออาทิตย์ รับงานแต่งหน้าในช่วงที่มีงานเข้ามา รวมถึงฝึกภาษาอังกฤษให้มากกว่าเดิมด้วย
น็อต – ณัฐภัท กาญจนประภาส
ผมมักจะใช้วิธีวางเป้าหมายใหญ่ๆ หลักๆ ไว้ แล้ววางแผนว่าเราจะทำให้มันเสร็จได้เมื่อไรครับ ซึ่งปีนี้ก็ตั้งเป้าเอาไว้ว่าจะพาครอบครัวไปเที่ยวต่างประเทศให้ได้หากสถานการณ์ดีขึ้น เพราะว่าการไปเที่ยวด้วยกัน นอกจากจะเป็นความฝันของคุณแม่แล้ว ครอบครัวของผมยังเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง คอยสนับสนุนสิ่งที่ผมชอบ และให้โอกาสผมได้ลงมือทำตามตัวตนที่ผมอยากจะเป็นอย่างเต็มที่ ปีนี้ก็เลยอยากจะตอบแทนให้กับทั้งคุณพ่อและคุณแม่ด้วยครับ
สำหรับเป้าหมายอื่นๆ ก็คืออยากจะเก็บซื้อคอนโดมิเนียมซักแห่งนึง เพราะหลังจากที่สามารถปลดหนี้ได้สำเร็จแล้ว ซึ่งก็รู้สึกว่าได้รับอิสระในการตัดสินใจเรื่องเงินขึ้นเยอะมาก นอกจากนั้นก็อยากจะจัดสรรเงินไปลงทุนในหุ้น + กองทุนด้วยครับ
ตูน – วีรินทร์ภัทร ฟูวังหม้อ
สำหรับในปีนี้ตูนตั้งเอาไว้ทั้งหมด 3 เป้าหมายใหญ่ค่ะ
อย่างแรกเลยก็คือ พยายามสร้าง Balance working life & personal life ระหว่างการทำงานและการใช้ชีวิตให้ได้ พร้อมกับทำงานอย่างตั้งใจและเต็มที่ไปกับมัน สองก็คืออยากมุ่งมั่นทำ Project ให้จบปริญญาโทตามที่ตั้งใจเอาไว้ เพื่อเอาความรู้ที่ได้มาต่อยอดกับงานประจำที่ทำอยู่
และอย่างสุดท้ายที่สำคัญและเป็นตัวตนของเราเลยก็คือ เราอยากจะมีเพื่อนใหม่ในสังคมที่ดี ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ รวมถึงยอมรับการเปลี่ยนแปลงในแง่บวกจากผู้อื่น สร้างสัมพันธ์ที่ดีกับผู้คนรอบตัวให้ได้อย่างราบรื่นตลอดทั้งปีค่ะ
ทั้งหมดนี้ก็คือการค้นหาตัวตน พร้อมกับตั้งเป้าหมายในอนาคตสไตล์ Look back, Look Forward ของชาวซันเดย์นั่นเอง
แล้วคุณหละ ปี 2565 นี้จะทำอะไร 🙂 ?