หน้าหลัก เรื่องราวรอบตัว อัปเดต 2024! ซื้อประกันลดหย่อนภาษีได้ไหม ลดหย่อนได้เท่าไหร่?

อัปเดต 2024! ซื้อประกันลดหย่อนภาษีได้ไหม ลดหย่อนได้เท่าไหร่?

insurance-and-tax-deduction

ซื้อประกันลดหย่อนภาษีได้ไหม ประกันประเภทไหนลดหย่อนภาษีได้เท่าไหร่บ้าง?

การซื้อประกันที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นประกันสุขภาพ หรือ ประกันชีวิต นอกจากจะช่วยประหยัดภาษีได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว คุณยังได้รับความคุ้มครองเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน ให้คุณได้สร้างความมั่นคงทางการเงินได้จากการบริหารความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ

ใกล้รอบยื่นภาษีแล้ว หากคุณกำลังยังไม่แน่ใจว่าการซื้อประกันสามารถลดหย่อนภาษีได้ในเงื่อนไขใดบ้าง หรือ ยังไม่ชัวร์ว่าจะสามารถใช้อะไรมาลดหย่อนภาษีได้บ้าง มาปูพื้นฐานการลดหย่อนภาษีแบบเข้าใจง่ายๆ ในบทความนี้กัน

การลดหย่อนภาษีคืออะไร?

การลดหย่อนภาษี คือ สิทธิประโยชน์ทางภาษีที่สามารถนำค่าใช้จ่ายตามเงื่อนไขที่กำหนด ไปหักออกจากรายได้หลังหักค่าใช้จ่าย เพื่อให้ได้เงินได้สุทธิที่นำไปคำนวณภาษีที่ต้องเสียในปีนั้นๆ ตามสูตรคำนวณดังนี้

สูตรคำนวณเงินได้สุทธิรายได้ต่อปี – ค่าใช้จ่าย – ค่าลดหย่อน = เงินได้สุทธิ
สูตรคำนวณภาษีที่ต้องชำระเงินได้สุทธิ x อัตราภาษี = เงินภาษีที่ต้องจ่าย

การลดหย่อนภาษี เป็นสิทธิ์ที่ถูกต้องตามกฎหมายที่ช่วยให้บุคคลธรรมดาสามารถประหยัดภาษีได้ ส่งผลให้มีเงินเหลือเพื่อนำไปใช้สำหรับเป้าหมายอื่นๆ ที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการลงทุน การเคลียร์ภาระหนี้สิน ไปจนถึงการนำเงินไปเก็บเป็นทุนสำรองสำหรับเหตุการณ์ฉุกเฉินในชีวิต

ใช้อะไรลดหย่อนภาษีได้บ้าง?

เมื่ออ่านมาถึงจุดนี้ เชื่อว่าหลายๆ คนคงสงสัยอยู่ไม่น้อยว่า รายการลดหย่อนภาษีที่ถูกต้องตามกฎหมายมีอะไรบ้าง และแต่ละรายการสามารถลดหย่อนภาษีได้เท่าไหร่

โดยพื้นฐานแล้ว รายการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจะมีด้วยกัน 5 รายการหลักๆ ซึ่งจะมีรายละเอียดและเงื่อนไขในการลดหย่อนภาษีที่แตกต่างกัน ดังนี้

1. ค่าลดหย่อนภาษีส่วนตัว

  • ค่าลดหย่อนส่วนตัว 60,000 บาท
  • ค่าลดหย่อนคู่สมรส 60,000 บาท
    • เฉพาะกรณีจดทะเบียนสมรสอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
    • ต้องไม่มีรายได้ค่าลดหย่อนฝากครรภ์และคลอดบุตร
    • สามีที่มีภรรยาที่ไม่มีเงินได้ สามารถใช้ใบเสร็จรับเงินและใบรับรองแพทย์จากสถานพยาบาล นำมาลดหย่อนภาษีได้
  • ค่าลดหย่อนฝากครรภ์และคลอดบุตร ไม่เกินครรภ์ละ 60,000 บาท
  • ค่าลดหย่อนภาษีบุตร คนละ 30,000 บาท
    • บุตรมีอายุไม่เกิน 20 ปี อายุ 21-25 ปี ต้องกำลังศึกษาในระดับอนุปริญญา (ปวส.) ขึ้นไปอายุ 25 ปีขึ้นไป ต้องเป็นบุคคลไร้ความสามารถ หรือเสมือนไร้ความสามารถ
    • บุตรตามกฎหมาย ลดหย่อนได้ไม่จำกัดจำนวน
    • บุตรบุญธรรม ลดหย่อนได้ไม่เกิน 3 คน
    • หากมีทั้งบุตรบุญธรรมและบุตรชอบด้วยกฎหมาย ให้นำบุตรชอบด้วยกฎหมายทั้งหมดมาหักก่อน แล้วจึงนำบุตรบุญธรรมมาหัก รวมกันได้ไม่เกิน 3 คน
  • ค่าลดหย่อนสำหรับเลี้ยงดูบิดามารดาของตนเองและของคู่สมรส คนละ 30,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 4 คน
    • เฉพาะบิดามารดาที่อายุมากกว่า 60 ปี รายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี
    • ต้องไม่ใช่พ่อแม่บุญธรรม
  • ค่าลดหย่อนภาษีกรณีอุปการะผู้พิการ หรือบุคคลทุพพลภาพ คนละ 60,000 บาท
    • รายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี
    • มีบัตรประจำตัวผู้พิการ 
    • ต้องมีหนังสือรับรองการเป็นผู้อุปการะ

2. ค่าลดหย่อนภาษีกลุ่มเงินบริจาค

  • เงินบริจาคทั่วไป ลดหย่อนได้ตามจริง สูงสุดไม่เกิน 10% ของเงินได้หลักหักลดหย่อนภาษี
  • เงินบริจาคเพื่อการศึกษา กีฬา พัฒนาสังคม ประโยชน์สาธารณะและสถานพยาบาลของรัฐ ลดหย่อนได้ 2 เท่าของเงินบริจาคจริง สูงสุดไม่เกิน 10% ของเงินได้หลักหักลดหย่อนภาษี
  • เงินบริจาคให้พรรคการเมือง ลดหย่อนได้สูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท

3. ค่าลดหย่อนภาษีกลุ่มจากการออมและลงทุน

  • *กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ลดหย่อนได้ 30% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษี
  • *กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD) กองทุนบำเหน็จบำนาญราชการ (กบข.) และ กองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน ลดหย่อนภาษีได้ 15% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษี
  • *กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ลดหย่อนภาษีได้ตามจริงสูงสุดไม่เกิน 13,200 บาท
  • กองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) ลดหย่อนได้ 30% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษี ตามที่จ่ายจริง สูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท ได้สิทธิประโยชน์สำหรับลดหย่อนภาษี 5 ปี และรวมกับสิทธิลดหย่อนเพื่อการเกษียณอายุอื่นๆ แล้วต้องไม่เกิน 500,000 บาท
  • กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thai ESG) ลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 30% ของรายได้ สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท โดยจะได้สิทธิประโยชน์สำหรับลดหย่อนภาษี 10 ปี นับตั้งแต่ปีพ.ศ. 2566-2575
  • เงินลงทุนธุรกิจ Social Enterprise (วิสาหกิจเพื่อสังคม) ลดหย่อนได้ตามจริง สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท

*รวมกับสิทธิลดหย่อนเพื่อการเกษียณอายุอื่นๆ แล้วต้องไม่เกิน 500,000 บาท โดยสิทธิลดหย่อนภาษีเพื่อการเกษียณอายุประกอบไปด้วย กองทุน RMF กองทุน SSF กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กองทุนสงเคราะห์ตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน กองทุนการออมแห่งชาติ เบี้ยประกันภัยสำหรับการประกันชีวิตแบบบำนาญ

4. ค่าลดหย่อนกลุ่มกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ

  • ดอกเบี้ยกู้ยืมเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย ลดหย่อนได้ไม่เกิน 100,000 บาท
  • ค่าลดหย่อนตามโครงการสนับสนุนเศรษฐกิจของรัฐบาล เช่น โครงการลดหย่อนเที่ยวเมืองรอง ลดหย่อนได้สูงสุด 15,000 บาท และ โครงการช้อปดีมีคืน หรือ โครงการ Easy e-Receipt ที่ลดหย่อนได้สูงสุด 50,000 บาท

5. ค่าลดหย่อนภาษีกลุ่มจากเบี้ยประกัน

  • เงินประกันสังคม ลดหย่อนได้ตามจริง สูงสุดไม่เกิน 9,000 บาท
  • เบี้ยประกันชีวิต เงินฝากแบบมีประกันชีวิต และ ประกันสะสมทรัพย์ ลดหย่อนได้ตามจริง สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท มีระยะเวลาคุ้มครอง 10 ปีขึ้นไป ทำกับบริษัทประกันชีวิตในประเทศไทย และ ห้ามมีการเวนคืนกรมธรรม์ก่อนครบ 10 ปี 
  • เบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ ลดหย่อนได้ 15% ของเงินได้ตามจริง สูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท รวมกับสิทธิลดหย่อนเพื่อการเกษียณอายุอื่นๆ แล้วต้องไม่เกิน 500,000 บาท
  • เบี้ยประกันสุขภาพ ลดหย่อนได้ตามจริง ไม่เกิน 25,000 บาท

ซื้อประกันลดหย่อนภาษี ต้องเข้าใจอะไรบ้าง?

เชื่อว่าใครหลายคนคงได้คำตอบแล้วว่า ซื้อประกันเพื่อลดหย่อนภาษีได้ไหม แต่เชื่อว่ายังมีอีกหลายคนที่สงสัยว่า มีประกันสุขภาพและประกันชีวิตประเภทไหนที่สามารถนำเบี้ยมาลดหย่อนภาษีได้บ้าง 

ดังนั้น เพื่อช่วยให้เข้าใจเงื่อนไขการลดหย่อนภาษีจากการซื้อประกันให้มากขึ้น ลองมาพิจารณาเงื่อนไขการซื้อประกันสุขภาพและประกันชีวิตเพื่อลดหย่อนภาษีกัน

ประกันสุขภาพลดหย่อนภาษีได้เท่าไหร่ ภายใต้เงื่อนไขอะไรบ้าง?

ประเภทประกันสุขภาพที่นำเบี้ยมาลดหย่อนภาษีได้:

เบี้ยประกันสุขภาพลดหย่อนภาษีได้ไหม ได้เท่าไหร่บ้าง?

  • กรณีซื้อให้ตัวเอง นำเบี้ยประกันสุขภาพมาลดหย่อนภาษีได้ตามจริง สูงสุดไม่เกิน 25,000 บาท แต่เมื่อรวมกับเบี้ยประกันชีวิตต้องไม่เกิน 100,000 บาท และรวมกับเบี้ยประกันชีวิตบำนาญต้องไม่เกิน 200,000 บาท
  • กรณีซื้อให้บิดามารดา นำเบี้ยประกันสุขภาพมาลดหย่อนได้สูงสุดไม่เกินคนละ 15,000 บาท เฉพาะกรณีที่บิดามารดาต้องมีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาท/ปี 
  • กรณีซื้อให้คู่สมรส นำเบี้ยประกันสุขภาพมาลดหย่อนภาษีได้ตามจริงไม่เกิน 15,000 บาท เฉพาะกรณีที่คู่สมรสไม่มีรายได้ หรือ รายได้ไม่เกิน 30,000 บาท/ปี 

ประกันชีวิตลดหย่อนภาษีได้เท่าไหร่ ภายใต้เงื่อนไขอะไรบ้าง?

ประเภทประกันชีวิตที่นำเบี้ยลดหย่อนภาษีได้:

เบี้ยประกันชีวิตลดหย่อนภาษีได้ไหม ได้เท่าไหร่บ้าง?

  • ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ แบบชั่วระยะเวลา และแบบสะสมทรัพย์ ลดหย่อนภาษีได้ตามจริงสูงสุด 100,000 บาท หากมีประกันชีวิตของคู่สมรสที่ไม่มีรายได้ สามารถลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริงไม่เกิน 10,000 บาท
  • ประกันชีวิตควบการลงทุน ค่าเบี้ยประกันในส่วนค่าการประกันภัย และ ค่าใช้จ่ายหลักอื่น ๆ ของกรมธรรม์ เมื่อนำมารวมกับประกันชีวิตแบบทั่วไป ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 100,000 บาท แต่ส่วนที่นำไปลงทุนไม่สามารถนำมารวมเพื่อลดหย่อนภาษีได้
  • ประกันชีวิตแบบบำนาญ ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 15% ของรายได้ แต่ไม่เกิน 200,000 บาท
    • หากทำประกันแบบบำนาญร่วมกับประกันชีวิตทั่วไป นำเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญไปรวมกับเบี้ยประกันชีวิตทั่วไปให้ครบสิทธิ์ 100,000 บาทได้ 
    • หากไม่ได้ใช้สิทธิ์ลดหย่อนสำหรับประกันชีวิตทั่วไป ประกันชีวิตแบบบำนาญลดหย่อนได้สูงสุด 300,000 บาท

เท่านี้ก็เข้าใจการลดหย่อนภาษีด้วยการซื้อประกันสุขภาพและประกันชีวิตแล้ว หากคุณเป็นอีกคนที่กำลังมองหาประกันสุขภาพและประกันชีวิตดีๆ เพื่อช่วยคุ้มครองตัวคุณและคนที่รัก ตลอดจนเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยลดหย่อนภาษี สามารถเข้ามาเช็กเบี้ยประกันสุขภาพและประกันชีวิตที่เหมาะกับตัวคุณและคนที่รักได้ที่เว็บไซต์ของซันเดย์วันนี้ ซื้อก่อนสิ้นเดือนธันวาคม รับสิทธิ์การลดหย่อนภาษีทันที

ประกันสุขภาพ ipdopd1500

ประกันสุขภาพซันเดย์
Share this article
Shareable URL
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง

ลดหย่อนภาษีด้วย “เที่ยวดี มีคืน 2568” สรุปครบในที่เดียว!

รู้ไว้ไม่พลาด! เที่ยวดี มีคืน สิทธิลดหย่อนภาษีส่งท้ายปี 2568 มาตรการ “เที่ยวดี มีคืน” คือ…
เที่ยวดีมีคืน

รู้ไว้ดีกว่า! รวมวิธีเตรียมตัวรับมือภัยพิบัติสงคราม

เตรียมตัวอย่างไรในวันที่เกิด “ภัยพิบัติสงคราม”? การเตรียมตัวรับมือภัยพิบัติสงคราม คือ…
ภัยพิบัติสงคราม
0
Share