หน้าหลัก รู้ทันประกันรถยนต์ ทำประกันรถยนต์แล้ว ทำไมยังต้องเสีย “ค่าเสียหายส่วนแรก” อยู่?

ทำประกันรถยนต์แล้ว ทำไมยังต้องเสีย “ค่าเสียหายส่วนแรก” อยู่?

ทำไมยังต้องจ่าย “ค่าเสียหายส่วนแรก” ทั้งๆ ที่มีประกันรถยนต์แล้ว?

ทำประกันรถยนต์เพื่อรับความคุ้มครองความเสียหายทั้งหมดแล้ว ทำไมผู้เอาประกันยังต้องเสียค่าเสียหายส่วนแรกอยู่ แบบนี้บริษัทประกันรถยนต์ทำผิดกฎความคุ้มครอง หรือ ตั้งใจเก็บเงินเพิ่มโดยไม่แจ้งล่วงหน้าหรือเปล่า 

แล้วค่าเสียค่าส่วนแรกคืออะไร ถ้าบริษัทประกันเรียกเก็บถือว่าทำผิดกฎความคุ้มครองหรือไม่ มาเคลียร์ทุกข้อสงสัยในบทความนี้กัน

Excess

ค่าเสียหายส่วนแรก คืออะไร?

ค่าเสียหายส่วนแรก คือ ค่าใช้จ่ายที่ผู้เอาประกันต้องรับผิดชอบในกรณีที่เป็นฝ่ายผิด หรือ ไม่สามารถระบุคู่กรณีได้ ซึ่งจะเป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ประกันรถยนต์ตามที่ได้ทำกับบริษัทประกันเอาไว้

ค่าเสียหายส่วนแรกจะแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ

  1. ค่าเสียหายส่วนแรกภาคบังคับ (Excess) หรือ ที่หลายๆ คนมักอ่านว่า “ค่าแอคเซฟ” หรือ “ค่าเอ็กเซส”
  2. ค่าเสียหายส่วนแรกภาคสมัครใจ (Deductible) หรือ ที่หลายคนมักเรียกสั้นๆ “ค่าดีดักประกันรถ”

ทำไมยังต้องเสียค่าเสียหายส่วนแรกอยู่?

จริงอยู่ที่ผู้เอาประกันจะได้รับความคุ้มครองความเสียหายจากประกันรถยนต์ แต่ผู้เอาประกันจะต้องเสียค่าเสียหายส่วนแรกด้วยเช่นกัน โดยเงื่อนไขการเสียค่าเสียหายส่วนแรกจะแตกต่างกันไป ดังนี้

กรณีไหนเสีย “ค่า Excess”

ค่าเสียหายส่วนแรกภาคบังคับ (Excess) เป็นข้อกำหนดของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย หรือ สำนักงานคปภ. กำหนดขึ้นเพื่อป้องกันการแจ้งเคลมโดยที่ไม่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นจริง รวมไปถึงกรณีการขับรถยนต์ประมาทในกรณีต่างๆ 

โดยผู้เอาประกันจะต้องเสียค่าความเสียหายส่วนแรกภาคบังคับ หรือ ค่า Excess ให้กับบริษัทประกันรถยนต์ ตามกรณีต่างๆ ดังนี้

ลักษณะเหตุที่เกิดขึ้นค่าใช้จ่ายที่ต้องเสีย
กรณีเกิดอุบัติเหตุแล้วระบุคู่กรณีไม่ได้ เช่น
เกิดอุบัติเหตุแบบชนแล้วหนี ทำให้ไม่สามารถระบุทะเบียนรถยนต์ของคู่กรณีได้เกิดอุบัติเหตุแบบมุ่งร้าย เช่น รถถูกบุคคลอื่นทุบ ขูดขีด หรือ ขีดข่วนให้ได้รับความเสียหาย แต่ระบุคู่กรณีไม่ได้เกิดอุบัติเหตุแล้ว แต่ไม่สามารถระบุรายละเอียดเหตุการณ์ได้ชัดเจน เกิดความเสียหายจากการกระทบกับวัตถุ สิ่งของ ทำให้รถยนต์ได้รับความเสียหายเฉพาะพื้นผิวของสีรถ โดยไม่ทำให้ส่วนหนึ่งส่วนใดของตัวรถ และ/หรือ อุปกรณ์ของรถได้รับความเสียหายถึงขนาด บุบ แตก ร้าว
1,000 บาท
กรณีทำประกันรถยนต์แบบระบุผู้ขับขี่ 
เช่น ประกันรถยนต์ไฟฟ้า หรือ ประกันรถยนต์น้ำมันแบบระบุผู้ขับขี่
หากผู้ขับขี่ไม่ได้มีชื่ออยู่ในกรมธรรม์ และนำรถยนต์ไปขับขี่จนเกิดอุบัติเหตุ
6,000 บาท สำหรับซ่อมรถยนต์เอาประกัน
2,000 บาทสำหรับซ่อมรถยนต์คู่กรณี
กรณีทำประกันรถยนต์ส่วนบุคคล แต่นำรถยนต์ไปใช้ผิดจุดประสงค์ 2,000 บาทสำหรับซ่อมรถยนต์คู่กรณี

กรณีไหนเสีย “ค่า Deductible”

ค่าความเสียหายส่วนแรกภาคสมัครใจ หรือ ค่า Deductible เป็นค่าใช้จ่ายที่ผู้เอาประกันสมัครใจที่จะ “ร่วมจ่าย” กับบริษัทประกัน หากเกิดอุบัติเหตุที่เป็นฝ่ายผิดและต้องการเคลมประกัน โดยผู้เอาประกันจะต้องรับผิดชอบค่าเสียหายตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ 

ผู้เอาประกันสามารถเลือกกำหนดค่า Deductible กับบริษัทประกันรถยนต์ได้ โดยส่วนใหญ่แล้ว กรมธรรม์ที่มีการกำหนดค่าเสียหายส่วนแรกแบบสมัครใจไว้ จะมีค่าเบี้ยประกันรถยนต์ที่ถูกกว่า แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของบริษัทประกันภัยแต่ละแห่งด้วยเช่นกัน

ค่าเสียหายส่วนแรกคือค่าอะไร

ค่าเสียหายส่วนแรก จ่ายตอนไหน?

ผู้เอาประกันจะต้องชำระค่าเสียหายส่วนแรก ทั้งภาคบังคับ (Excess) และภาคสมัครใจ (Deductible) เมื่อตอนไปรับรถยนต์หลังจากนำเข้าซ่อมกับศูนย์บริการ อู่ซ่อมรถยนต์ในเครือ อู่ซ่อมรถยนต์นอกเครือข่ายของบริษัทประกันที่ หรือ ชำระตามเงื่อนไขที่บริษัทประกันแต่ละแห่งกำหนด

อุบัติเหตุแบบไหนไม่เสียค่าเสียหายส่วนแรก

เมื่ออ่านมาถึงจุดนี้ เชื่อว่าหลายๆ คนก็คงสงสัยว่า แล้วประกันรถยนต์จะไม่เรียกเก็บค่าเสียหายส่วนแรกในกรณีไหนบ้าง

คำตอบ คือ เมื่อเกิดอุบัติเหตุที่พิสูจน์แล้วว่าเป็นฝ่ายถูก เป็นอุบัติเหตุที่ผู้เอาประกันสามารถระบุคู่กรณีและเหตุการณ์ได้อย่างชัดเจน รวมถึงเป็นเหตุการณ์ที่สามารถพิสูจน์สาเหตุความเสียหายได้

จะเห็นได้ว่า ค่าความเสียหายส่วนแรกเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับกรณีเกิดอุบัติเหตุที่เป็นฝ่ายผิด ไม่ชัดเจน และไม่สามารถระบุคู่กรณีได้ รู้แบบนี้แล้ว อย่าลืมขับขี่ด้วยความระมัดระวังอยู่เสมอด้วยนะ

สำหรับใครที่กำลังจะซื้อรถคันแรก การเลือกประกันรถยนต์ที่เหมาะสมตั้งแต่แรกเป็นสิ่งสำคัญ ซันเดย์ขอแนะนำบทความ ซื้อประกันรถยนต์ให้ตอบโจทย์ตั้งแต่ครั้งแรก ต้องรู้อะไรบ้าง? ที่จะช่วยให้คุณเข้าใจทุกเรื่องที่จำเป็น ตั้งแต่ประเภทของประกัน เงื่อนไขความคุ้มครอง รวมถึงการเลือกประกันที่คุ้มค่า

ซื้อประกันรถยนต์

อยากซื้อประกันรถยนต์ให้ตอบโจทย์ เลือกประกันรถยนต์ซันเดย์ที่คุณปรับแต่งความคุ้มครองและทุนประกัน พร้อมเลือกรับส่วนลดเบี้ยประกันรถยนต์ได้มากขึ้น 4 จุด* เช็กเบี้ยสุดง่าย ใช้แค่วันเดือนปีเกิดและรหัสไปรษณีย์ที่อยู่ปัจจุบันเท่านั้น

ซื้อประกันรถ

Snap & Claim ใช้งานง่าย มอบประสบการณ์ประกันภัยที่ง่ายที่สุดสำหรับผู้ถือกรมธรรม์ซันเดย์

ฟีเจอร์ Snap & Claim มาพร้อมกับระบบประมวลผลผ่าน Learning Machine (AI) ที่จะช่วยวิเคราะห์และประเมินความเสียหายผ่านรูปถ่ายได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว โดยคุณสามารถถ่ายรูปความเสียหายของรถยนต์ตามเงื่อนไขที่กำหนดเพื่อรับการประเมินความเสียหายอย่างถูกต้อง

โดยลูกค้าซันเดย์สามารถใช้ฟีเจอร์ Snap & Claim ได้ง่ายๆ ผ่านซูเปอร์แอปฯ Jolly by Sunday ได้ใน 3 ขั้นตอน

  1. ไปที่หน้ากรมธรรม์บนซูเปอร์แอปฯ Jolly by Sunday จากนั้นกดยื่นเคลม
  2. เลือกฟีเจอร์ Snap & Claim เพื่อยื่นเคลมด้วยตนเอง
  3. ถ่ายรูปความเสียหายและกรอกข้อมูลให้ครบ พร้อมรับใบเคลมออนไลน์ใน 30 นาทีหลังยื่นเคลมสำเร็จ (หากยื่นเคลมในวันและเวลาทำการ) ซึ่งผู้เอาประกันสามารถนำใบเคลมออนไลน์ที่ได้รับนี้ไปยื่นให้กับศูนย์ หรือ อู่ซ่อมรถยนต์ในเครือ เพื่อดำเนินการซ่อมต่อไป

นอกจากนี้ ผู้เอาประกันยังสามารถติดตามสถานะการเคลมและการซ่อมรถยนต์ได้ผ่านซูเปอร์แอปฯ Jolly by Sunday ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

Share this article
Shareable URL
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง

สรุปให้! ตารางเบี้ยประกันรถยนต์ไฟฟ้า ครบทุกแบรนด์ฮิต

ซื้อ EV เช็กก่อน! ตารางเบี้ยประกันรถยนต์ไฟฟ้า รวมทุกค่ายฮิต อยากซื้อรถยนต์ไฟฟ้าให้ตอบโจทย์…
ค่าเบี้ยประกันรถ EV
0
Share