หน้าหลัก รู้ทันประกันสุขภาพ ซื้อประกันสุขภาพครั้งแรกต้องดูอะไรบ้าง วางแผนอย่างไรดี?

ซื้อประกันสุขภาพครั้งแรกต้องดูอะไรบ้าง วางแผนอย่างไรดี?

ซื้อประกันสุขภาพครั้งแรกต้องดูอะไรบ้าง วางแผนอย่างไรดี

การซื้อประกันสุขภาพ ถือเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยบริหารความเสี่ยงด้านค่าใช้จ่ายที่มาพร้อมกับการรักษาโรคภัยไข้เจ็บ อย่างไรก็ดี ประกันสุขภาพในปัจจุบันกลับมีให้เลือกหลายกรมธรรม์จากบริษัทประกันมากมาย จนทำให้ใครหลายคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งมือใหม่หัดซื้อประกันสุขภาพหลายคนสงสัยอยู่ไม่น้อยว่า หากต้องการซื้อประกันสุขภาพให้ตอบโจทย์ จะต้องดูอะไรบ้าง

สำหรับใครที่ยังไม่มีประสบการณ์การซื้อประกันสุขภาพด้วยตัวเองมาก่อน ลองมาดู 3 เรื่องสำคัญที่นำมาฝากในบทความนี้ เพื่อเป็น พื้นฐานช่วยเลือกประกันสุขภาพที่ตอบโจทย์ตัวเองมากที่สุดกัน

ซื้อประกันสุขภาพต้องดูอะไรบ้าง

รู้จักประกันสุขภาพให้มากขึ้น

การซื้อประกันสุขภาพไม่เคยใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับมือใหม่ที่ยังไม่เคยมีประสบการณ์ด้านการซื้อประกันสุขภาพมาก่อน แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นก็ไม่ได้หมายความว่า มือใหม่หัดซื้อประกันจะไม่สามารถเลือกทำประกันสุขภาพที่ตอบโจทย์กับตัวเองมากที่สุดได้

โดยพื้นฐานการเลือกซื้อประกันสุขภาพที่เหมาะสมไม่ได้เริ่มต้นจากการพิจารณาเบี้ยประกันเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังต้องมีความรู้และความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับประกันสุขภาพที่ถูกต้องด้วยเช่นกัน


ดังนั้น ก่อนจะไปดูว่าการซื้อประกันสุขภาพจำเป็นต้องดูอะไรบ้าง ในส่วนนี้ลองมาปูพื้นฐานความรู้ด้านประกันสุขภาพที่ถูกต้องกันก่อนดีกว่า!

ประกันสุขภาพคืออะไร?

การเจ็บป่วยทุกรูปแบบมีต้นทุนที่ต้องแบกรับ ไม่ว่าจะเป็นต้นทุนทางเวลาที่เสียไปในระหว่างรักษาตัว ต้นทุนที่ต้องเสียจากการขาดรายได้ ไปจนถึงต้นทุนทางค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้ในการรักษาพยาบาล แน่นอนว่าต้นทุนดังกล่าวนี้ถือเป็นความเสี่ยงชิ้นใหญ่ที่ผู้ป่วยต้องแบกรับเช่นเดียวกัน

ประกันสุขภาพเป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินประเภทประกันภัยที่สามารถช่วยผู้เอาประกันบริหารความเสี่ยงทาง ‘ต้นทุน’ ที่เกิดขึ้นจากการเจ็บป่วย ขึ้นอยู่กับประเภทของประกันสุขภาพที่เลือกทำ 

เช่น ประกันสุขภาพทั่วไปสามารถให้ความคุ้มครองค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลได้อย่างครอบคลุม ในขณะที่ประกันสุขภาพบางประเภทสามารถชดเชยรายได้ที่เสียไปจากการเจ็บป่วย นอกจากนี้ ประกันสุขภาพบางประเภทยังมีการกำหนดความคุ้มครองเฉพาะโรค โรคเฉพาะทาง หรือ คุ้มครองเพียง 1 โรคเท่านั้น

ประกันสุขภาพมีกี่แบบ?

ประกันสุขภาพเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลาย ทั้งในเรื่องของกรมธรรม์ บริษัทประกัน ไปจนถึงความคุ้มครอง ด้วยเหตุนี้ ใครหลายคนคงสงสัยอยู่ไม่น้อยว่า ประกันสุขภาพมีกี่แบบกันแน่ 

โดยทั่วไปแล้ว การแบ่งประเภทประกันสุขภาพสามารถทำได้ 2 วิธีหลัก ดังนี้

1. การแบ่งประเภทตามความคุ้มครอง ประกอบไปด้วย

  • ประกันสุขภาพโรคร้ายแรง ให้ความคุ้มครองด้านค่าใช้จ่ายในการรักษาโรคร้ายแรงที่ต้องใช้เทคโนโลยีการรักษา แพทย์ รวมไปถึงยารักษาเฉพาะทาง ส่งผลให้มีค่าใช้จ่ายในการรักษาที่ค่อนข้างสูง  
  • ประกันสุขภาพแบบชดเชยรายได้ ให้ความคุ้มครองด้านค่ารักษาพยาบาล ทั้งยังมีการจ่ายสินไหมทดแทนในกรณีที่ป่วย บาดเจ็บ หรือจำเป็นต้องรักษาตัวเป็นเวลานาน จนส่งผลกระทบต่อการทำงานและการสร้างรายได้
  • ประกันสุขภาพผู้ป่วยใน (IPD) ให้ความคุ้มครองในกรณีที่ต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลไม่น้อยกว่า 6 ชั่วโมง ครอบคลุมไปถึงค่ารักษาพยาบาล ค่าห้องและอาหาร ไปจนถึงค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ตามที่กำหนดเอาไว้ในกรมธรรม์
  • ประกันสุขภาพผู้ป่วยนอก (OPD) ให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลเฉพาะกรณีที่ไม่ต้องรักษาตัวในสถานพยาบาล 
  • ประกันอุบัติเหตุ ให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลในกรณีที่บาดเจ็บ หรือ จำเป็นต้องรักษาตัวจากเกิดอุบัติเหตุ เงื่อนไขความคุ้มครองจะแตกต่างกันไปตามกรมธรรม์ เช่น ประกันอุบัติเหตุบางตัวอาจคุ้มครองครอบคลุมกรณีทุพพลภาพ ในขณะที่ประกันอุบัติเหตุอีกตัวอาจไม่ได้คุ้มครอง

2. การแบ่งประเภทตามจำนวนผู้เอาประกัน ประกอบไปด้วย

  • ประกันสุขภาพส่วนบุคคล ให้ความคุ้มครองผู้เอาประกันเพียงรายเดียว
  • ประกันสุขภาพแบบกลุ่ม ให้ความคุ้มครองหลายคนภายใต้กรมธรรม์เดียว เช่น ประกันสุขภาพสำหรับธุรกิจ บริษัท หรือ องค์กร ที่ให้ความคุ้มครองพนักงานภายใต้กรมธรรม์เดียวกัน

ประกันสุขภาพต่างจากประกันชีวิตอย่างไร?

แม้จะเป็นผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่ช่วยบริหารความเสี่ยงในชีวิตเหมือนกัน แต่ประกันสุขภาพและประกันชีวิตนั้นเป็นผลิตภัณฑ์ที่ให้ความคุ้มครองที่แตกต่างกัน 

ประกันสุขภาพจะให้ความคุ้มครองในกรณีที่เกิดการเจ็บป่วย ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาล ค่ายารักษา ไปจนถึงค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่กำหนดเอาไว้ในกรมธรรม์ นอกจากนี้ ประกันสุขภาพบางตัวยังมีการชดเชยค่าใช้จ่ายในกรณีที่เสียชีวิตอีกด้วย

ในทางตรงกันข้าม ประกันชีวิตจะให้ความคุ้มครองในกรณีที่เสียชีวิตเท่านั้น อย่างไรก็ดี การซื้อประกันชีวิตยังสามารถเลือกกรมธรรม์ที่สามารถสะสมทรัพย์ สร้างผลตอบแทน หรือ เลือกผู้รับผลประโยชน์ได้ตามต้องการ

ประกันสุขภาพมีกี่แบบ

ประกันสุขภาพไม่คุ้มครองอะไรบ้าง?

เมื่อพูดถึงการทำประกันสุขภาพ คนส่วนใหญ่อาจเคยได้ยินถึง 9 โรคที่ประกันไม่คุ้มครอง ซึ่งโดยส่วนใหญ่มักจะเป็นโรคร้ายแรงที่จำเป็นจะต้องทำประกันโรคร้ายแรงแยกต่างหาก แต่โดยพื้นฐานแล้ว ประกันสุขภาพจะไม่ให้ความคุ้มครองตามกรณีต่อไปนี้

  1. โรคที่เป็นมาก่อนทำประกันสุขภาพ
  2. โรคที่อยู่ในระหว่างการรักษา
  3. โรคและความผิดปกติตั้งแต่กำเนิด
  4. การตั้งครรภ์ คลอดบุตร แท้ง รวมไปถึงการรักษาภาวะมีบุตรยาก
  5. โรคที่เกิดจากสภาวะจิตเวช และ สภาวะจิตใจ
  6. โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
  7. การเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นจากการพยายามฆ่าตัวตาย หรือ ทำร้ายตัวเอง
  8. การเจ็บป่วยที่เกิดจากการก่ออาชญากรรม เช่น การจับกุม การหลบหนีการจับกุม
  9. การเจ็บป่วยที่เกิดจากการใช้สารและยาเสพติด
  10. การเจ็บป่วยจากการนำสารพิษเข้าสู่ร่างกายในขณะที่รู้สึกผิดชอบและวิกลจริต

นอกจากนี้ ประกันสุขภาพบางกรมธรรม์ยังมีการกำหนดระยะรอคอยได้สูงสุด 180 วันเพื่อลดข้อพิพาทเรื่องโรคและข้อยกเว้นที่เกี่ยวข้องกับการทำประกันสุขภาพ ที่สำคัญ ประกันสุขภาพบางกรมธรรม์ยังมีการกำหนดข้อยกเว้นเฉพาะบุคคล (Personal Exclusion) เนื่องจากมีปัญหาสุขภาพเฉพาะ หรือ มีเงื่อนไขการรักษาโรคบางอย่าง 


อย่างไรก็ดี เงื่อนไขเฉพาะ ระยะรอคอย รวมถึงรายละเอียดเฉพาะอื่น ๆ จะแตกต่างกันไปตามข้อกำหนดของบริษัทประกันภัยแต่ละแห่ง ดังนั้น นอกจากจะเข้าใจว่า ประกันสุขภาพมีกี่ประเภท ตลอดจนรายละเอียดพื้นฐานของประกันสุขภาพแล้ว อย่าลืมตรวจสอบเงื่อนไขเฉพาะของประกันสุขภาพแต่ละแห่งด้วย

Q&A Sunday ตอบให้!

Q : ระยะรอคอยคืออะไร?
A : ระยะรอคอย (Waiting Period) คือ ระยะเวลาที่ทำประกันไปแล้ว แต่ผู้เอาประกันจะไม่สามารถเคลมค่ารักษาพยาบาลได้ ทั้งนี้เพื่อให้มั่นใจว่าผู้เอาประกันนั้นไม่ได้เป็นโรคร้ายแรงใด ๆ มาก่อนทำประกันสุขภาพ โดยระยะรอคอยจะเริ่มนับตั้งแต่วันที่บริษัทให้ความคุ้มครอง ส่วนใหญ่แล้วจะมีด้วยกัน 3 ช่วงเวลา ดังนี้
– 30 วัน สำหรับโรคทั่วไป
– 60 วัน สำหรับโรคร้ายแรง
– 120 วันหรือมากกว่า สำหรับโรคร้ายแรงตามเงื่อนไข
วางแผนซื้อประกันสุขภาพต้องดูอะไรบ้าง

เทคนิควางแผนซื้อประกันสุขภาพให้ตอบโจทย์

เทคนิควางแผนซื้อประกันสุขภาพให้ตอบโจทย์

หลังจากที่มีพื้นฐานความรู้ด้านประกันสุขภาพที่ครอบคลุมแล้ว สำหรับใครที่สงสัยอยู่ว่า ซื้อประกันสุขภาพต้องดูอะไรบ้าง มีเทคนิคใดที่จะช่วยให้ซื้อประกันสุขภาพได้ตอบโจทย์อย่างรอบด้านบ้าง ลองมาดู 3 เทคนิคง่าย ๆ ที่จะช่วยให้ทุกคนเลือกกรมธรรม์และประกันสุขภาพที่ลงตัวกับทุกความต้องการกัน

1. เข้าใจความเสี่ยงของสุขภาพตัวเอง

ก่อนจะตัดสินใจซื้อประกันสุขภาพสักฉบับ นอกจากจะพิจารณาถึงความคุ้มครองที่จะได้รับแล้ว อย่าลืมพิจารณาถึงความเสี่ยงของสุขภาพตัวเองร่วมด้วย

ไม่ว่าจะเป็นอาชีพการงาน โรคระบาดในพื้นที่ อาการเจ็บป่วยที่เป็นบ่อย ไปจนถึงโรงพยาบาลที่เข้าร่วมกับบริษัทประกันภัย ทั้งนี้เพื่อช่วยให้ตัดสินใจเลือกความคุ้มครองที่ตรงกับความต้องการและความเสี่ยงที่เกิดขึ้นในชีวิตของเรามากที่สุด

2. วางแผนการเงินให้รอบคอบ

ประกันสุขภาพแต่ละประเภทของแต่ละบุคคล นอกจากจะให้ความคุ้มครองที่แตกต่างกันแล้ว ยังมีเบี้ยประกันสุขภาพที่แตกต่างกันด้วย 

ดังนั้น หากไม่อยากให้ประกันสุขภาพส่งผลกระทบกับสภาพคล่องทางการเงินมากนัก อย่าลืมวางแผนการเงินของตัวเองให้รอบคอบ เนื่องจากหากมีการค้างชำระเบี้ยประกันบ่อยครั้ง หรือ ติดต่อกันหลายแห่ง อาจมีความเสี่ยงที่จะไม่ได้รับความคุ้มครอง หรือ โดนบอกเลิกประกันได้ โดยพื้นฐานแล้ว เบี้ยประกันสุขภาพที่ไม่ส่งผลต่อสภาพคล่องทางการเงินโดยรวมควรจะอยู่ไม่เกิน 20% ของรายได้ทั้งหมด

3. เลือกประเภทและแผนประกันสุขภาพที่ตอบโจทย์

ประกันสุขภาพแต่ละประเภทสามารถให้ความคุ้มครองและตอบโจทย์ความต้องการได้แตกต่างกัน เช่น ประกันสุขภาพโรคร้ายแรง แม้จะมีค่าเบี้ยประกันที่สูง แต่ก็ให้ความคุ้มครองโรคร้ายแรงที่มีค่าใช้จ่ายสูงเช่นกัน ในขณะที่ประกันสุขภาพทั่วไปสามารถให้ความคุ้มครองแค่การเจ็บป่วยทั่วไปเท่านั้น 

ดังนั้น นอกจากจะเลือกเบี้ยประกันสุขภาพที่สอดคล้องกับสภาพคล่องทางการเงินแล้ว ขอแนะนำให้เลือกความคุ้มครองที่เมคเซนส์กับชีวิต ให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมในเบี้ยประกันที่เหมาะสมด้วย


แม้จะเข้าใจเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่า การซื้อประกันสุขภาพต้องดูอะไรบ้าง แต่ในหลาย ๆ ครั้ง ผู้เอาประกันอย่างเรา ๆ เองก็ไม่สามารถเลือกความคุ้มครองเองได้ ทำให้ได้รับประกันสุขภาพที่ไม่ตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างตรงจุด ทั้งยังมีเบี้ยประกันที่สูงเกินกว่าความจำเป็นอีกด้วย


ซื้อประกันสุขภาพออนไลน์กับซันเดย์ ตอบโจทย์ด้วยการเช็กเบี้ยประกันและความคุ้มครองง่าย ๆ โดยใช้แค่ ‘วันเดือนปีเกิด’ พร้อมเลือกเปรียบเทียบความคุ้มครองที่เมคเซนส์กับตัวเองได้อย่างสะดวก สามารถเข้าใช้บริการกับโรงพยาบาลในเครือข่ายได้โดยไม่ต้องสำรองจ่าย แถมยังสามารถรับประสบการณ์ประกันภัยแบบครบจบในที่เดียวผ่านซูเปอร์แอปฯ Jolly by Sunday สะดวก ง่าย ทำชีวิตให้ง่ายในราคาที่ใช่ เลือกซื้อประกันออนไลน์กับซันเดย์

Share this article
Shareable URL
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง

ประกันอุบัติเหตุจำเป็นแค่ไหน ผู้หญิงเสี่ยงกว่าจริงไหม?

ผู้หญิงเสี่ยงอุบัติเหตุมากกว่าจริงหรือไม่ ทำไมต้องทำประกันอุบัติเหตุผู้หญิงโดยเฉพาะ? “อุบัติเหตุ”…
does-woman-face-more-accidents-than-men

โรคที่รักษาแบบผู้ป่วยนอก คุ้มครองด้วยประกันสุขภาพ OPD

การรักษาแบบ OPD คืออะไร ประกันสุขภาพผู้ป่วยนอกคุ้มครองโรคไหนบ้าง? จากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขพบว่า…
opd-diseases-and-opd-health-insurance

ทำประกันต้องรู้! ค่าห้องพิเศษโรงพยาบาล อัปเดตปี 2567

ซื้อประกันต้องเข้าใจ! ค่าห้องพิเศษโรงพยาบาลคืออะไร พร้อมอัปเดตค่าห้องปี 2567 นอกจากโรงพยาบาลในเครือข่ายแล้ว…
private-room-hospital-update-2024

อัปเดต! ค่าห้องโรงพยาบาลเอกชนปี 2567 งบไม่เกิน 10,000 บาท!

ค่าห้องโรงพยาบาลเอกชน ไม่เกิน 10,000 บาท อัปเดตล่าสุด เจ็บป่วยต้องนอนโรงพยาบาล เชื่อว่าหลายๆ…
hospital-room-costs-2024
0
Share