หน้าหลัก เรื่องราวรอบตัว สอนเช็กรถมือสองก่อนซื้อ! ดูเอกสารซื้อรถมือสองยังไงให้ไม่โดนหลอก

สอนเช็กรถมือสองก่อนซื้อ! ดูเอกสารซื้อรถมือสองยังไงให้ไม่โดนหลอก

เคล็ดลับเช็กเอกสารซื้อรถยนต์มือสอง

การซื้อรถยนต์มือสอง ไม่เพียงแต่จะช่วยบริหารสภาพคล่องทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพเท่านั้น แต่ยังเป็นอีกหนึ่งทางเลือกดี ๆ สำหรับมือใหม่หัดขับรถยนต์ที่ต้องการฝึกความเชี่ยวชาญในการขับขี่ก่อนตัดสินใจซื้อรถยนต์คันใหม่

อย่างไรก็ดี หลังจากที่ตรวจสอบสมรรถนะ สภาพของตัวรถยนต์ ไปจนถึงประสิทธิภาพในการขับขี่แล้ว การตรวจสอบเอกสารซื้อรถมือสองให้ละเอียดถือเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามเช่นกัน ว่าแต่จะมีเอกสารใดที่ต้องพิจารณาเป็นพิเศษ ต้องเริ่มดูรายละเอียดจุดไหนบ้าง มาดูเอกสารและการเช็กรถมือสองก่อนซื้อที่ซันเดย์นำมาฝากในบทความนี้กัน

7-เรื่องที่ต้องเช็ก-ก่อนซื้อรถยนต์มือสอง

ทำไมต้องตรวจเอกสารซื้อรถมือสองก่อนซื้อ?

การเช็กรถมือสองก่อนซื้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเอกสารและหลักฐานในการซื้อขายรถยนต์ ถือเป็นเรื่องสำคัญที่คนอยากซื้อรถยนต์มือสองไม่ควรมองข้าม เนื่องจากการตรวจเช็กเอกสารซื้อรถมือสองให้รอบคอบสามารถช่วยลดความเสี่ยงจากการซื้อรถยนต์มือสองได้อย่างรอบด้าน

เริ่มตั้งแต่การตรวจเช็กเอกสารด้านประวัติการซ่อมแซม การเคลมประกันรถยนต์ ไฟแนนซ์และการขอสินเชื่อ ตลอดจนดูแลรักษารถยนต์ที่ผ่านมาทั้งหมด เพื่อวางแผนการซ่อมบำรุง การเลือกทำประกันรถยนต์ที่เหมาะสม ทั้งยังช่วยคำนวณค่าใช้จ่ายที่ตามมาจากการซื้อรถยนต์มือสองทั้งหมด

นอกจากนี้ การตรวจสอบเอกสารซื้อรถมือสองอย่างละเอียดยังช่วยลดความเสี่ยงที่จะเข้าไปพัวพันกับเรื่องผิดกฎหมายอย่างรู้เท่าไม่ถึงการ เพราะการตรวจเช็กเอกสารรถยนต์มือสองจะช่วยให้ทราบถึงประวัติการครอบครองรถยนต์ทั้งหมด คดีความที่มากับตัวรถยนต์ ทั้งยังเป็นการเช็กให้ชัวร์ด้วยว่า รถยนต์มือสองคันที่สนใจนี้เป็นรถยนต์ที่ไม่ได้ผ่านการโจรกรรมมา

เอกสารซื้อรถมือสองที่ต้องเช็ก

7 เอกสารซื้อรถมือสองที่ต้องเช็กให้ชัวร์ ลดเรื่องปวดหัวที่จะตามมา!

หากยังไม่มั่นใจว่าจะเริ่มดูเอกสารรถยนต์มือสองจากจุดไหนดี มาดู 7 เอกสารสำคัญที่ต้องตรวจสอบให้ชัวร์ก่อนซื้อรถยนต์มือสองที่ซันเดย์นำมาฝาก ดังนี้

1. ตรวจสอบเอกสารที่มากับรถยนต์

สำหรับใครที่กำลังสนใจรถยนต์มือสองคันไหนอยู่ ก่อนที่จะดำเนินการทำธุรกรรมใด ขอแนะนำให้ตรวจสอบเอกสารดั้งเดิมที่มากับรถยนต์ให้เรียบร้อยก่อน ทั้งนี้เพื่อเป็นการตรวจสอบเบื้องต้นว่า รถยนต์คันที่สนใจนี้มีประวัติเป็นอย่างไรบ้าง

เริ่มตั้งแต่การตรวจสอบ ‘ใบคู่มือจดทะเบียนรถยนต์’ หรือ ‘เล่มสีฟ้า’ ที่เป็นเอกสารรวบรวมรายละเอียดและประวัติที่ผ่านมาของรถยนต์ทั้งหมด ตั้งแต่ชื่อผู้ครอบครองรถยนต์ ยี่ห้อ รุ่น เลขตัวถังของรถยนต์ ประวัติการเสียภาษี ไปจนถึงประวัติการโอนรถยนต์ที่ผ่านมาทั้งหมด 

ตามกฎหมายพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 แล้ว หากรถยนต์คันไหนไม่มี ‘ใบคู่มือจดทะเบียนรถยนต์’ ไม่ว่าจะในรูปแบบของเล่มจริงหรือสำเนา ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเมื่อถูกร้องขอ จะต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท

แต่ไม่ว่าจะอย่างไร หากผู้ขายรถยนต์มือสองไม่มี ‘ใบคู่มือจดทะเบียนรถยนต์’ ตัวจริงให้ตรวจสอบ หรือ พบว่ารายละเอียดในใบคู่มือไม่ตรงกับตัวรถยนต์เมื่อไหร่ ขอแนะนำให้หลีกเลี่ยงเอาไว้จะดีที่สุด เพราะอาจเสี่ยงเจอเข้ากับรถยนต์เถื่อน หรือ รถยนต์มีคดีความก็เป็นได้

ซื้อประกันสุขภาพเหมาจ่าย

2. ดูเอกสารการเงินให้ครบ

แม้การซื้อรถยนต์มือสองจะมีค่าใช้จ่ายที่น้อยกว่าการซื้อรถยนต์คันใหม่จากศูนย์ แต่หากไม่ตรวจสอบเอกสารซื้อรถมือสองให้ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเอกสารไฟแนนซ์ หรือ เอกสารการกู้ยืมเงินเพื่อซื้อรถยนต์จากเจ้าของคนก่อน การซื้อรถยนต์มือสองก็อาจมีค่าใช้จ่ายในระยะยาวมากกว่าการซื้อรถยนต์คันใหม่ ทั้งยังเสี่ยงผิดกฎหมายอีกด้วย

ในส่วนนี้ ขอแนะนำให้เริ่มต้นพิจารณาจากสถานะไฟแนนซ์ก่อนเป็นอันดับแรก เนื่องจากการซื้อขายรถยนต์ติดไฟแนนซ์โดยพลการ ถือว่าเข้าข่ายความเสี่ยงการยักยอกทรัพย์ เพราะรถยนต์ติดไฟแนนซ์ถือว่าเป็นรถยนต์ที่อยู่ในการครอบครองของไฟแนนซ์

อย่างไรก็ดี หากสนใจจะซื้อรถยนต์คันดังกล่าว ว่าที่เจ้าของรถยนต์จะต้องไปดำเนินการปิดไฟแนนซ์ให้เรียบร้อยก่อน หรือ หากมีเงินไม่เพียงพอที่จะไปปิดไฟแนนซ์ก็สามารถเลือกรถยนต์มือสองที่ทำการขายดาวน์แบบปิดไฟแนนซ์ หรือ ขายดาวน์แบบเปลี่ยนมือผู้ถือสัญญา โดยให้บริษัทไฟแนนซ์เป็นผู้ประเมินความสามารถในการผ่อนรถยนต์ของผู้ซื้อคนใหม่แทน

อย่างไรก็ดี หากไม่อยากมีข้อพิพาทในส่วนนี้ตามมาไม่ว่าจะกรณีใด ๆ ขอแนะนำให้ติดต่อกับไฟแนนซ์ของรถยนต์คันที่สนใจ พร้อมดำเนินการร่วมกับเจ้าของรถยนต์คนก่อน เต็นท์รถมือสอง หรือ แหล่งในการซื้อขายรถยนต์มือสอง เพื่อหาทางออกและตกลงรายละเอียดทั้งหมดให้เรียบร้อย 

เช็กรถมือสองก่อนซื้อด้วยตัวเอง

3. เช็กลักษณะการขายรถยนต์มือสอง

รู้หรือไม่? การซื้อขายรถยนต์มือสองไม่ได้มีแค่ในนามบุคคลเท่านั้น แต่ยังมีในรูปแบบของนามบริษัท หรือ นามนิติบุคคลด้วย โดยการซื้อขายรถยนต์ในลักษณะที่แตกต่างกันนี้ ไม่เพียงแต่จะใช้เอกสารในการซื้อขายที่แตกต่างกันเท่านั้น แต่ยังมีจุดประสงค์ในการใช้งานที่แตกต่างกันด้วย

โดยรถยนต์มือสองในนามบุคคลจะเป็นรถยนต์ที่จดทะเบียนเพื่อใช้งานส่วนบุคคล ทำให้มีการเสียภาษีและใช้ทะเบียนสำหรับการใช้งานส่วนบุคคล ในขณะที่รถยนต์มือสองในนามบริษัท หรือ นิติบุคคล จะเป็นรถยนต์ที่เสียภาษีและจดทะเบียนสำหรับการใช้งานในเชิงพาณิชย์เท่านั้น

ดังนั้น หากไม่อยากมีข้อพิพาทในส่วนนี้ตามมา อย่าลืมศึกษาเงื่อนไขการจดทะเบียนการใช้งานรถยนต์หลังจากการซื้อขาย อัตราภาษีที่ต้องชำระ ไปจนถึงเอกสารที่ต้องแสดงสำหรับการซื้อขายรถยนต์ที่มีการจดทะเบียนจุดประสงค์การใช้งานที่แตกต่างกัน โดยรายละเอียดในส่วนนี้สามารถติดต่อสอบถามไปยังกรมการขนส่งทางบกได้ทันที


4. ตรวจสอบสัญญาซื้อขายให้มั่นใจ

‘สัญญาซื้อขายรถยนต์มือสอง’ ถือเป็นหนึ่งในเอกสารซื้อรถมือสองที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก เนื่องจากสามารถใช้เป็นหลักฐานยืนยันทางกฎหมายว่ามีการซื้อขายรถยนต์มือสองเกิดขึ้นจริง ทั้งยังเป็นเอกสารสำคัญที่ต้องใช้ร่วมกับการโอนความเป็นเจ้าของรถยนต์ที่กรมการขนส่งทางบกอีกด้วย

นอกจากนี้ สัญญาซื้อขายรถยนต์ยังสามารถใช้เป็นหลักฐานสำคัญเพื่อยืนยันความเป็นเจ้าของรถยนต์และการซื้อขายในอนาคต โดยหากมีปัญหาตามมาภายหลังก็สามารถใช้เอกสารดังกล่าวนี้เป็นหลักฐานยืนยันได้

ซื้อประกันสุขภาพเหมาจ่าย

5. ดูเอกสารสำหรับการโอนรถยนต์ให้พร้อม

การโอนรถยนต์ คือ การโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์โดยการเปลี่ยนชื่อจากเจ้าของคนก่อนให้เป็นชื่อเจ้าของคนใหม่ โดยเอกสารที่ต้องใช้สำหรับการโอนรถยนต์จะประกอบไปด้วย

  1. สัญญาซื้อขายรถยนต์ ใบเสร็จรับเงินและใบกำกับภาษี 
  2. ใบคู่มือจดทะเบียนรถยนต์ตัวจริง
  3. สำเนาบัตรประชาชนผู้ซื้อ
  4. สำเนาบัตรประชาชนเจ้าของรถยนต์คนก่อน
  5. เอกสารแบบคำขอโอนและรับโอนตามกฎหมายของกรมการขนส่งทางบก

สำหรับฝั่งผู้ซื้อแล้ว แน่นอนว่าการโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ที่กรมการขนส่งทางบกอย่างถูกต้องจะทำให้ได้รับกรรมสิทธิ์ความเป็นเจ้าของรถยนต์เต็มตัว สำหรับฝั่งผู้ขายแล้ว การโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์อย่างถูกต้องก็สามารถช่วยให้มั่นใจได้ว่า หากเกิดเหตุไม่คาดฝัน หรือ มีการกระทำผิดกฎหมายกับตัวรถยนต์ขึ้นมา ตัวผู้ขายก็จะไม่ต้องรับผิดชอบในส่วนนี้เช่นกัน

ด้วยเหตุนี้ หากไม่ต้องการให้เกิดข้อพิพาทตามมาทั้งจากฝั่งผู้ซื้อและผู้ขาย ขอแนะนำให้หลีกเลี่ยงการซื้อขายรถยนต์มือสองแบบ ‘โอนลอย’ หรือ การซื้อขายรถยนต์ที่เจ้าของรถยนต์ หรือ ผู้ขายไม่ได้ไปโอนรถยนต์ด้วยตนเอง 

แต่สำหรับใครที่มีความจำเป็นต้องซื้อขายรถยนต์แบบโอนลอย นอกจากเอกสาร 5 ฉบับข้างต้นแล้ว อย่าลืมเตรียมหนังสือมอบอำนาจเกี่ยวกับทะเบียนรถยนต์ เขียนกำชับให้ละเอียดว่า “ใช้เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับรถยนต์เลขทะเบียน…..เท่านั้น” พร้อมแนบสำเนาภาพถ่ายบัตรประจำตัวประชาชน โดยหนังสือมอบอำนาจนี้่สามารถขอรับ หรือ ดาวน์โหลดได้ที่เว็บไซต์กรมการขนส่งทางบก

ซื้อรถยนต์มือสอง เลือกประกันรถยนต์ยังไง

6. เช็กเอกสารประกันรถยนต์ให้ละเอียด

หลังจากที่ตรวจสอบเอกสารซื้อรถมือสองแล้ว ว่าที่เจ้าของรถยนต์ทุกคนยังต้องตรวจสอบเอกสารประกันรถยนต์ให้เรียบร้อยด้วย โดยทั่วไปแล้ว ประกันรถยนต์ที่มากับรถยนต์มือสองจะมีด้วยกัน 2 แบบ ประกอบไปด้วย

  1. ประกันรถยนต์แบบไม่ระบุผู้ขับขี่ หากเป็นประกันรถยนต์ประเภทนี้ ผู้ซื้อสามารถดำเนินการเปลี่ยนแปลงข้อมูลกับบริษัทประกันภัยเพื่อรับความคุ้มครองได้ โดยสามารถสอบถามเอกสารที่ต้องใช้กับทางบริษัทประกันภัยได้ทันที
  2. ประกันรถยนต์แบบระบุผู้ขับขี่ ผู้ซื้อสามารถดำเนินการเพื่อเปลี่ยนแปลงข้อมูลกับบริษัทประกันภัยได้ทันที ซึ่งสามารถติดต่อสอบถามเอกสารที่ต้องใช้กับทางบริษัทประกันภัยได้ทันที 

หากไม่มีการเปลี่ยนชื่อในส่วนนี้ ถ้าเกิดอุบัติเหตุในอนาคต เจ้าของรถยนต์เดิมจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายและความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมด หรือ หากเจ้าของรถยนต์คันใหม่ไม่ต้องการระบุผู้ขับขี่ หรือ ต้องการเปลี่ยนบริษัทประกันภัย ก็สามารถแจ้งความต้องการและดำเนินการกับบริษัทประกันภัยเดิมได้เช่นกัน


7. เตรียมหลักฐานและเอกสารซื้อรถมือสองอื่น ๆ ให้ครบ

การซื้อขายรถยนต์มือสองในแต่ละบุคคลอาจมีรายละเอียดและเงื่อนไขที่แตกต่างกัน ทำให้ต้องใช้หลักฐาน ตลอดจนต้องมีการแสดงเอกสารอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น เอกสารทางการเงิน หนังสือรับรองเงินเดือน หนังสือยืนยันการทำงาน และเอกสารอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

ดังนั้น หากสนใจซื้อรถยนต์มือสองกับแพลตฟอร์ม เต็นท์รถยนต์ หรือกับบุคคลใด อย่าลืมสอบถามเอกสารที่ต้องเตรียมทั้งหมดให้เรียบร้อย ทั้งนี้เพื่อเป็นการซื้อรถยนต์มือสองอย่างรวดเร็ว สะดวก และได้รับเงื่อนไขที่เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด


แม้จะใช้เวลาในการตรวจสอบและเตรียมตัว แต่การเช็กเอกสารซื้อรถมือสองให้ชัวร์ร่วมกับการตรวจสอบสภาพรถยนต์ ถือเป็นเรื่องสำคัญที่จะช่วยลดความเสี่ยงด้านค่าใช้จ่ายที่บานปลายจากการซ่อมแซมรถยนต์ ค่าใช้จ่ายที่มองไม่เห็น ทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงที่จะเข้าไปพัวพันกับเรื่องผิดกฎหมายโดยไม่ตั้งใจ รู้แบบนี้แล้ว อย่าลืมนำรายละเอียดที่นำมาฝากนี้ไปพิจารณาและเตรียมตัวให้พร้อมด้วย


หลังจากที่เช็กรถมือสองก่อนซื้อครบทุกด้านแล้ว การเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อรับมือความเสี่ยงในอนาคตก็เป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้กัน สำหรับใครที่กำลังมองหาประกันรถยนต์เพื่อช่วยบริหารความเสี่ยงด้านค่าใช้จ่ายที่จะตามมาในอนาคต แต่ยังไม่มั่นใจจะเลือกกรมธรรม์ไหนให้ตอบโจทย์ มาทดลองสร้างแผนประกันรถยนต์ที่เมคเซนส์ในเบี้ยประกันที่เหมาะสมกับ Sunday ได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย!


ซื้อประกันสุขภาพเหมาจ่าย
Share this article
Shareable URL
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง

ลดหย่อนภาษีด้วย “เที่ยวดี มีคืน 2568” สรุปครบในที่เดียว!

รู้ไว้ไม่พลาด! เที่ยวดี มีคืน สิทธิลดหย่อนภาษีส่งท้ายปี 2568 มาตรการ “เที่ยวดี มีคืน” คือ…
เที่ยวดีมีคืน

รู้ไว้ดีกว่า! รวมวิธีเตรียมตัวรับมือภัยพิบัติสงคราม

เตรียมตัวอย่างไรในวันที่เกิด “ภัยพิบัติสงคราม”? การเตรียมตัวรับมือภัยพิบัติสงคราม คือ…
ภัยพิบัติสงคราม
0
Share