วัยเด็กของใครหลายคน อาจเริ่มต้นจากความรู้สึกแย่เมื่อต้องกินผัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งผักใบเขียวหลาย ๆ ชนิดที่ขึ้นชื่อเรื่องของความขม คิดถึงเมื่อไหร่ก็รู้สึกเหนื่อยใจเมื่อนั้น
แต่ในวันนี้ ลองมาเปลี่ยนภาพจำผักใบเขียวแสนเหม็นด้วยผักหน้าตาประหลาดอย่าง ‘ผักเคล’ ที่นอกจากจะอุดมไปด้วยประโยชน์มากมายแล้ว แต่ยังมาพร้อมกับความกลมกล่อมที่หลายคนยังถึงไม่ถึง ว่าแต่ผักเคลจะมีประโยชน์อย่างไร นำมาปรุงเป็นเมนูไหนได้บ้าง บทความนี้มีคำตอบ!
ประโยชน์ผักเคล สุดยอดผักสำหรับสุขภาพที่ดี
เห็นใบเขียว ๆ หยิก ๆ แบบนี้ ผักเคล (Kale) เป็นผักใบเขียวที่ขึ้นชื่อเรื่องคุณค่าทางโภชนาการสูงมาก เพราะอุดมไปด้วยวิตามินมากมาย รวมถึงแร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระอีก ทำให้ผักเคลมีสรรพคุณทั้งช่วยบำรุงสายตา ลดความดันโลหิต และช่วยบำรุงกระดูก
วิตามินที่มีประโยชน์ในผักเคล
- วิตามิน A บำรุงสายตา ป้องกันจอประสาทตาเสื่อม และลดความเสี่ยงของต้อกระจก
- วิตามิน C เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ต้านอนุมูลอิสระ และช่วยบำรุงผิว
- วิตามิน K บำรุงกระดูกให้แข็งแรง ลดความเสี่ยงของโรคกระดูกพรุน
- วิตามิน B6 ช่วยให้ระบบประสาททำงานได้ดีขึ้น
- วิตามิน B1 ช่วยเรื่องระบบการเผาผลาญของร่างกาย
- วิตามิน B2 บำรุงผิวพรรณ เส้นผมและเล็บ
- วิตามิน B3 ลดระดับคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์
แร่ธาตุที่พบได้ในผักเคล
- แคลเซียม ตัวช่วยบำรุงกระดูกและฟัน
- โพแทสเซียม ลดความดันโลหิต ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจได้
- แมกนีเซียม ช่วยบำรุงระบบประสาทและกล้ามเนื้อ
- ธาตุเหล็ก ช่วยป้องกันภาวะโลหิตจางได้
- สังกะสี ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
ผักเคลต้องกินยังไงให้ได้คุณค่าทางอาหารสูงสุด
ถึงแม้ว่าผักเคลจะมีประโยชน์มากมาย แต่ถ้านำมาปรุงอาหารไม่ถูกวิธี หรือเลือกผักไม่ถูกต้อง ก็อาจจะสูญเสียคุณค่าสารอาหารเหล่านั้นไปได้ ลองมาดูวิธีการเลือกซื้อ การเก็บ และการปรุงผักเคลให้ได้ประโยชน์และคุณค่าทางอาหารสูงสุดกัน
วิธีเลือกซื้อผักเคล
แนะนำให้เลือกผักเคลที่มีใบสีเขียวเข้ม ไม่มีรอยซ้ำ ก้านต้องมีความอวบน้ำ ไม่ดูเหี่ยว ถ้าเลือกซื้อแบบนี้มาได้ รับรองว่าปรุงเมนูไหนก็กรอบอร่อย
เวลาทำความสะอาดผักเคล แนะนำให้ล้างผักก่อน 1 ครั้งด้วยการเปิดน้ำไหลผ่าน แล้วแช่ในน้ำเกลือประมาณ 10-15 นาที ก่อนจะล้างน้ำออกอีกครั้ง เท่านี้ผักก็สะอาดง่าย ๆ แถมไม่ช้ำอีกด้วย
กินดิบหรือปรุงสุกก็อร่อยไม่แพ้กัน
หลาย ๆ คนอาจจะสงสัยว่าผักเคลกินดิบได้ไหม หรือผักเคลกินสดได้ไหม คำตอบ คือ กินได้ทั้งแบบสดและแบบดิบ โดยการกินแบบดิบ ๆ จะทำให้ได้รับวิตามินซีสูงกว่าแบบปรุงสุก แต่ผักเคลอาจจะรสชาติที่ติดขมกว่านิดหน่อย หากใครกำลังฝึกกินผักอยู่ แนะนำให้นำไปทำเมนูอื่น ๆ จะทำให้กินผักเคลได้ง่ายขึ้น
วิธีปรุงผักเคลให้ได้คุณค่าเต็ม ๆ คำ
การปรุงผักเคลที่เหมาะสม คือ ปรุงด้วยความร้อนต่ำ เพราะจะช่วยทำให้คงวิตามินไว้ได้มากกว่า โดยอาจจะนำไปนึ่ง ต้ม หรือ อบ แทนการนำไปผัดไฟแรง ๆ เหมือนผัดผักทั่วไป
จับคู่กับอาหารไขมันดี เพิ่มประโยชน์ได้มากขึ้น
วิตามินที่มีอยู่ในผักเคลหลาย ๆ ตัว เช่น วิตามินเอ วิตามินอี วิตามินอีและวิตามินเค เป็นวิตามินที่สามารถละลายตัวได้ดีในไขมัน ดังนั้น การกินผักเคลให้ได้ประโยชน์สูงสุด คือ กินคู่กับอาหารอื่น ๆ ที่มีไขมันดีอยู่ด้วย เช่น อะโวคาโด เนื้อปลา ถั่ว หรือเลือกใช้น้ำมันมะกอกในการปรุงก็ได้เช่นกัน
ผักเคลกับหลากเมนูอร่อย ๆ ทำเองได้ที่บ้าน
รู้จักกับประโยชน์และวิธีปรุงผักเคลที่ถูกต้องไปแล้ว มาดูกันดีกว่าว่าผักเคลทําอะไรได้บ้าง โดยเมนูผักเคลที่ทำเองได้ง่าย ๆ ที่บ้านที่นำมาฝากนี้ บอกเลยว่าใคร ๆ ก็ทำได้
- สลัดผักเคล: เลือกใช้ผักสลัดตามชอบได้เลย ตัดผักเคลให้เป็นชิ้นพอดีคำตามที่ชอบ ใส่แตงกวา แครอท อะโวคาโด ผลไม้หรือเนื้อสัตว์อื่น ๆ เข้าไปด้วยก็ได้เพื่อเพิ่มโปรตีน ทำง่าย สิบนาทีก็พร้อมกิน!
- ผัดผักเคล: แนะนำให้ใช้น้ำมันมะกอกในการผัด และผัดด้วยไฟอ่อน ๆ ใครที่ต้องการเพิ่มเนื้อสัตว์เข้าไป แนะนำให้ผักเนื้อสัตว์ก่อนแล้วจึงใส่ผักเคลไปทีหลัง จะได้ผักเคลกรอบ ๆ ปรุงรสได้ตามใจชอบเลย
- แกงจืดผักเคล: ใครที่ชอบซดน้ำซุปร้อน ๆ กับผักลวดนิ่ม ๆ ต้องลองใส่ผักเคลลงไปในแกงจืดบ้างแล้ว เพราะช่วยทำให้รสชาติของผักเคลอ่อนลง กินง่ายมากขึ้น แถมยังได้ประโยชน์เต็ม ๆ
- แกงเลียงผักเคล: ใครชอบกินอาหารเมนูบ้าน ๆ ต้องลองเมนูนี้เลย เพียงแค่ใส่ผักเคลเพิ่มเข้าไป ก็จะได้คุณค่าทางสารอาหารเพิ่มขึ้นกับเมนูแกงถ้วยโปรด
- ข้าวผัดผักเคล: แทนที่จะใส่คะน้าที่หลาย ๆ คนไม่ชอบ อาจจะลองเปลี่ยนมาเป็นใส่ผักเคลแทน เพิ่มความกรุบกรอบ ได้สารอาหารทุกคำ
ดูแลสุขภาพ ต้องดูแลให้รอบด้าน
การดูแลสุขภาพ ไม่ได้หมายถึงแค่การเลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเท่านั้น แต่ยังหมายถึงการเลือกกินอาหารให้ตรงกับความต้องการของร่างกายตามหลักโภชนาการ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและตรวจเช็กสุขภาพเป็นประจำทุกปี
เมื่ออายุมากขึ้น อีกสิ่งหนึ่งที่มองข้ามไม่ได้คือการมองหาประกันสุขภาพดี ๆ เอาไว้ เพราะนอกจากจะช่วยลดความกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายเวลาเจ็บป่วยแล้ว ก็ยังสามารถช่วยให้มั่นใจว่าจะสามารถเข้าถึงการรักษาพยาบาลที่มีประสิทธิภาพในโรงพยาบาลชั้นนำได้
ใครมองหาประกันสุขภาพที่ใช่อยู่ ลองเข้ามาเลือกประกันสุขภาพออนไลน์กับ Sunday พร้อมรับความคุ้มครองที่เมคเซนส์ในเบี้ยประกันที่เหมาะสม เข้ารับการรักษาพยาบาลที่มีประสิทธิภาพได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย เช็กเบี้ยประกันสุขภาพออนไลน์ กรอกแค่ ‘วันเดือนปีเกิด’ ไม่ต้องกรอกข้อมูลส่วนตัวอื่น ๆ ให้วุ่นวาย