hero-image

รวมทุกเรื่องที่ต้องรู้ก่อนแต่งห้องด้วยต้นไม้ฟอกอากาศ

มีหลากหลายงานอดิเรกเกิดขึ้นมากมายในช่วงเวลาที่ผ่านมา ที่ได้มีการระบาดของ COVID-19 หนึ่งในนั้น คือ การแต่งบ้านด้วยต้นไม้ฟอกอากาศที่หลายคนเชื่อว่า ไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มคุณภาพอากาศในบริเวณบ้านเท่านั้น แต่บรรดาต้นไม้ฟอกอากาศเหล่านี้ยังช่วยทำให้บรรยากาศภายในบ้านร่มรื่น ทั้งยังช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวที่เป็นจุดพักสายตาในระหว่างการทำงานช่วง Work From Home ได้เช่นกัน

สำหรับใครที่ยังคงหลงใหล หรือ เริ่มชื่นชอบการตกแต่งบ้านด้วยต้นไม้แม้จะกลับมาทำงานตามปกติแล้ว นอกจากจะเลือกต้นไม้ฟอกอากาศที่มีชื่อมงคลแล้ว ลองมาดู 3 เรื่องสำคัญเกี่ยวกับต้นไม้ฟอกอากาศที่เจ้าของบ้านต้องทำความเข้าใจให้ดีก่อนนำเข้ามาสู่ภายในบ้าน ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของสุขภาพคนในครอบครัว สุขอนามัยของพื้นที่ในบ้าน และความอยู่รอดของต้นไม้แต่ละต้นเอง

เลือกต้นไม้ฟอกอากาศในบ้านอย่างไร

เข้าใจการฟอกอากาศของต้นไม้ก่อน

จริงอยู่ว่า ต้นไม้ฟอกอากาศมีส่วนช่วยลดอาการภูมิแพ้ ทั้งยังสามารถช่วยดูดสารพิษที่เป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจในระยะยาว อย่างไรก็ดี แม้จะเป็นต้นไม้ฟอกอากาศเหมือนกัน แต่ต้นไม้แต่ละต้นก็มีการฟอกอากาศที่แตกต่างกัน ทำให้มีวิธีการดูแลและเหมาะสมกับพื้นที่บ้านที่แตกต่างกันด้วย

ดังนั้น เพื่อช่วยให้เจ้าของบ้านแต่งบ้านด้วยต้นไม้ฟอกอากาศได้เหมาะกับบ้านมากที่สุด ในส่วนนี้ลองมาทำความเข้าใจถึงกลไกการฟอกอากาศของต้นไม้ ไปจนถึงสารพิษภายในบ้านที่ต้นไม้สามารถช่วยขจัดออกไปได้กัน

ซื้อประกันสุขภาพเหมาจ่าย

ต้นไม้ฟอกอากาศได้อย่างไร?

คนส่วนใหญ่มักเข้าใจว่า ต้นไม้สามารถฟอกอากาศได้ที่บริเวณใบเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว กลไกการฟอกอากาศของต้นไม้สามารถเกิดขึ้นได้หลายบริเวณ

เริ่มตั้งแต่การใช้เซลล์ปากใบดูดสารพิษในอากาศเข้ามา ทั้งในช่วงเวลาปกติและช่วงเวลาการคายน้ำของพืช จากนั้นต้นไม้จึงส่งสารพิษเหล่านี้ไปที่บริเวณรากและพื้นดินโดยรอบ เพื่อให้จุลินทรีย์ที่ดินย่อยสลายสารพิษและนำมาเป็นอาหารของต้นไม้อีกที

นอกจากการดูดอากาศเข้ามาทางเซลล์ปากใบแล้ว ต้นไม้ยังสามารถฟอกอากาศได้ด้วยการดูดน้ำจากรากด้วยเช่นกัน โดยในขณะที่ต้นไม้กำลังดูดน้ำไปใช้ยังส่วนต่าง ๆ รากต้นไม้จะทำหน้าที่ดึงสารพิษที่อยู่บริเวณโดยรอบมาเปลี่ยนให้เป็นอาหารของต้นไม้

จะเห็นได้ว่า ต้นไม้ส่วนใหญ่จะมีการดูดสารพิษที่ใบลงไปยังรากอีกที ดังนั้น หากต้องการนำต้นไม้ฟอกอากาศเข้ามาปลูกในบ้าน อย่าลืมดูแลคุณภาพของดิน เพื่อรักษาจุลินทรีย์ที่ช่วยสร้างอาหารให้กับต้นไม้ พร้อมวางต้นไม้ยังบริเวณที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก เพื่อป้องกันไม่ให้ดินอับชื้นและเกิดเป็นเชื้อรา ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพคนในบ้าน ทั้งยังเสี่ยงทำให้ต้นไม้รากเน่าตายอีกด้วย

ต้นไม้ฟอกสารพิษอะไรได้บ้าง?

ไม่เพียงแต่จะช่วยเปลี่ยนแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์เป็นออกซิเจนเพื่อเพิ่มอากาศบริสุทธิ์ในบริเวณโดยรอบเท่านั้น แต่ต้นไม้ฟอกอากาศยังมีส่วนช่วยในการจำกัดสารพิษที่ปะปนอยู่ในอากาศได้เช่นกัน

ไม่ว่าจะเป็นแก๊สคาร์บอนมอนนอกไซด์จากควันรถยนต์รอบบริเวณบ้าน ไปจนถึงสารเคมีที่ระเหยออกมาจากของแต่งบ้านและวัสดุก่อสร้างอย่าง ‘ฟอร์มัลดีไฮด์’ ‘ไซลีน’ และ ‘โทลูอีน’ ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งที่เป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจและสุขภาพในระยะยาว

นอกจากนี้ ต้นไม้ฟอกอากาศยังมีส่วนช่วยในการขจัดสารระเหยอันตรายจากน้ำยาทำความสะอาด กระดาษทิชชู่ และของใช้ภายในบ้านอย่าง ‘แอมโมเนีย’ และ ‘ฟอร์มาดีไฮต์’ ซึ่งเป็นสารเคมีที่สามารถสร้างความเสียหายให้กับระบบทางเดินหายใจได้ในระยะยาว หากสูดดมอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งได้เช่นกัน

ที่สำคัญ ต้นไม้ฟอกอากาศยังสามารถช่วยลดภูมิแพ้อากาศได้ เนื่องจากใบและลำต้นของต้นไม้มีลักษณะทางกายภาพที่ซับซ้อน ทำให้สามารถดักจับฝุ่นละอองภายในอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้สามารถช่วยลดความรุนแรงของโรคภูมิแพ้บางประเภทได้

แต่งบ้านด้วยต้นไม้ฟอกอากาศดีไหม

เลือกต้นไม้ฟอกอากาศอย่างไรให้เหมาะสมกับบริเวณบ้าน

ต้นไม้ฟอกอากาศแต่ละชนิดเหมาะกับสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน ดังนั้น ไม่เพียงแต่จะพิจารณาถึงความสวยงามและชื่อที่เป็นมงคลเท่านั้น แต่การตกแต่งบ้านด้วยต้นไม้ฟอกอากาศให้เหมาะสมและดีต่อสุขภาพยังต้องพิจารณาถึงธรรมชาติของต้นไม้ที่สอดคล้องกับบริเวณบ้านด้วยเช่นกัน

โดยทั่วไป ต้นไม้ส่วนใหญ่มักจะปล่อยแก๊สออกซิเจนในเวลากลางวัน แต่จะปล่อยแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาในตอนกลางคืน ดังนั้น หากนำต้นไม้ที่มีลักษณะการปล่อยแก๊สเช่นนี้มาไว้ในห้องนอน หรือ บริเวณที่ต้องใช้งานในเวลากลางคืนเป็นประจำ ในระยะยาวอาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมาได้

อย่างไรก็ดี บนโลกนี้ก็มีต้นไม้ที่ปล่อยออกซิเจนออกมาในตอนกลางคืนที่สามารถนำมาไว้ในห้องนอนและบริเวณต่าง ๆ ในบ้านได้อย่างปลอดภัยเช่นกัน อาทิ ต้นลิ้นมังกร ยางอินเดีย เดหลี ไทรใบสัก และว่านหางจระเข้ ซึ่งไม่เพียงแต่จะมีส่วนช่วยในการฟอกอากาศเท่านั้น แต่ต้นไม้เหล่านี้ยังทนต่อสภาพอากาศปิด ทำให้เลี้ยงภายในบ้านได้อย่างสะดวกอีกด้วย

Sunday’s Tips!

หากต้องการให้ต้นไม้ฟอกอากาศได้เต็มประสิทธิภาพ แทนที่จะนำมาวางใกล้กับหัวนอน หรือ วางใกล้กับบริเวณโซฟาโดยตรง ขอแนะนำให้วางต้นไม้ห่างจากเตียง โซฟา หรือ บริเวณที่หายใจอย่างน้อย 50 เซนติเมตร ทั้งนี้เพื่อรับอากาศบริสุทธิ์ของต้นไม้ได้อย่างเต็มที่ แถมยังไม่ต้องสูดกลิ่นดิน หรือ กลิ่นความชื้นสะสมของต้นไม้เข้าไปด้วย
ดูแลต้นไม้ฟอกอากาศอย่างไรให้อยู่รอดปลอดภัย

ดูแลต้นไม้ฟอกอากาศอย่างไรให้อยู่รอดปลอดภัย?

สำหรับใครหลายคนแล้ว การเลือกต้นไม้ฟอกอากาศให้เหมาะกับบริเวณที่อยู่อาศัยว่ายากแล้ว การดูแลต้นไม้ให้อยู่รอดปลอดภัยกลับเป็นเรื่องที่ยากยิ่งกว่า ดังนั้น หลังจากที่เข้าใจวิธีเลือกต้นไม้ที่เหมาะสมแล้ว ลองมาดู 4 เคล็ดลับการดูแลต้นไม้ให้อยู่รอดปลอดภัยกัน

4-เคล็ดลับ-ดูแลต้นไม้ในห้องนอนให้ปลอดภัย

1. เลือกระดับความเข้มของแสงให้เหมาะสม

คนส่วนใหญ่มักเข้าใจว่า การปลูกต้นไม้ฟอกอากาศเป็นการปลูกต้นไม้ในร่มและไม่จำเป็นต้องใช้ต้นไม้โดนแสงแดดก็ได้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว แสงแดดถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ต้นไม้เจริญเติบโต ทั้งยังกระตุ้นกระบวนการฟอกอากาศด้วย

ดังนั้น หากเลือกตกแต่งบ้านด้วยต้นไม้ฟอกอากาศในบริเวณที่ไม่เหมาะสม ไม่เพียงแต่จะไม่ได้รับประโยชน์จากการฟอกอากาศเท่านั้น แต่ยังเสี่ยงที่ต้นไม้จะไม่เจริญเติบโตและตายได้เลยทีเดียว รู้แบบนี้แล้ว อย่าลืมเลือกวางต้นไม้ในบริเวณที่แสงแดดส่องถึง มีอากาศถ่ายเทสะดวก ตลอดจนเลือกบริเวณที่มีความเข้มของแสงที่เหมาะสมกับต้นไม้อีกด้วย

2. พิจารณาระดับความชื้นที่เหมาะสม

ไม่เพียงแต่จะเลือกตำแหน่งวางต้นไม้ที่มีระดับความเข้มของแสงที่เหมาะสมกับการเจริญเติบโตแล้ว ก่อนตกแต่งบ้านด้วยต้นไม้ฟอกอากาศเพื่อลดภูมิแพ้และสารเคมีในอากาศ อย่าลืมศึกษาถึงปริมาณน้ำที่เหมาะสมกับการเจริญเติบโตของต้นไม้ โดยพื้นฐานแล้ว หากเลือกต้นไม้ฟอกอากาศที่ไม่ชอบน้ำ หรือ เลี้ยงในที่ชื้นไม่ได้ ก็ไม่ควรนำไปไว้ในห้องน้ำ หรือ รองน้ำที่ใต้กระถางเอาไว้เป็นประจำ เพราะจะเสี่ยงทำให้รากต้นไม้เน่าและตายลงในที่สุดนั่นเอง

สำหรับใครที่ไม่มั่นใจว่าถึงรอบรดน้ำต้นไม้ภายในบ้านแล้วหรือไม่ ขอแนะนำให้สังเกตถึงความชื้นที่ดินเป็นหลัก โดยสังเกตได้ง่าย ๆ จากการนำแท่งตะเกียบไปปักในดินดู ถ้าหากดึงแท่งตะเกียบขึ้นมาแล้วยังมีเศษดินติดอยู่แปลว่าต้นไม้ยังมีปริมาณน้ำสะสมอยู่และไม่ควรรดน้ำเพิ่ม แต่หากดึงขึ้นมาแล้วพบว่าตะเกียบแห้งและไม่มีเศษดินอยู่เลย แปลว่าถึงมีความชื้นสะสมที่ดินอยู่น้อยและถึงเวลารดน้ำต้นไม้แล้ว

3. หมั่นสังเกตความผิดปกติของต้นไม้

หลังจากที่เลือกตำแหน่งการวางต้นไม้และมีการควบคุมปริมาณน้ำที่เหมาะสมแล้ว เจ้าของบ้านยังต้องหมั่นดูแลต้นไม้สม่ำเสมอ พร้อมสังเกตความผิดปกติของต้นไม้เป็นประจำ เพื่อเป็นการเลี้ยงดูต้นไม้ให้อยู่รอดปลอดภัยในระยะยาว 

หลังจากที่นำต้นไม้เข้ามาภายในบ้านสักระยะ ลองสังเกตถึงจุดสีต่าง ๆ บนใบไม้ ของเหลวที่ไหลออกมาตามจุดต่าง ๆ รอยบนลำต้น ไปจนถึงความเหี่ยวเฉาของต้นไม้ รวมไปถึงศัตรูพืชที่แฝงตัวอยู่อย่างหอยทาก หนอน เพลี้ยสีขาวตามหลังใบและลำต้น รวมไปถึงแมลงตัวเล็กตามหน้าดิน จากนั้นจึงค่อย ๆ ศึกษาอาการและหาแนวทางการแก้ไขที่เหมาะสมต่อไป

4. กำหนดเวลาใส่ปุ๋ย เติมดิน และเปลี่ยนกระถางอย่างเหมาะสม

เช่นเดียวกับมนุษย์ทั่วไป ต้นไม้เองก็ต้องการอาหารที่เหมาะสมเพื่อการเจริญเติบโตเช่นกัน ดังนั้น ไม่เพียงแต่จะให้ความสำคัญกับการรดน้ำที่เหมาะสมเท่านั้น แต่เจ้าของบ้านยังควรกำหนดเวลาในการใส่ปุ๋ย เติมดิน และเปลี่ยนกระถางอย่างเหมาะสม เพื่อช่วยให้ต้นไม้ได้รับสารอาหารที่เพียงพอและมีพื้นที่ในการเจริญเติบโตต่อไป


พราะคุณภาพอากาศในบ้านเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างสุขภาพที่แข็งแรง เมื่ออ่านมาถึงจุดนี้แล้ว มั่นใจได้ว่า ทุกคนจะสามารถตกแต่งบ้านด้วยต้นไม้ฟอกอากาศได้อย่างเหมาะสม ปลอดภัยและส่งผลดีต่อสุขภาพ ทั้งยังเข้าใจถึงเคล็ดลับการดูแลต้นไม้ให้อยู่รอดปลอดภัยในระยะยาวอีกด้วย


แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ไม่เพียงแต่จะปลูกต้นไม้ฟอกอากาศเพื่อลดภูมิแพ้และช่วยดูแลสุขภาพเท่านั้น อย่าลืมมองหาประกันสุขภาพออนไลน์ที่สามารถช่วยบริหารความเสี่ยงด้านสุขภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างประกันสุขภาพจาก Sunday ด้วย!

ซื้อประกันสุขภาพเหมาจ่าย