ซื้อประกันสุขภาพออนไลน์ซันเดย์ เลือกแผนความคุ้มครองอย่างไร?
อยากซื้อประกันสุขภาพออนไลน์กับซันเดย์ แต่ไม่รู้ว่าควรเลือกประกันสุขภาพแผนไหนดีให้ตอบโจทย์ทั้งความคุ้มครองและงบประมาณที่ตั้งไว้
หากคุณเป็นอีกคนที่ยังไม่เคยมีประสบการณ์ซื้อประกันสุขภาพออนไลน์มาก่อน หรือ ตอนนี้กำลังพิจารณาซื้อประกันสุขภาพอยู่ หรือ ยังไม่ชัวร์ว่าควรจะเลือกซื้อประกันสุขภาพแผนไหนดี มาปูพื้นฐานความเข้าใจ พร้อมวางแผนซื้อประกันสุขภาพซันเดย์ให้ตอบโจทย์ตัวเองง่ายๆ ในบทความนี้กัน
4 พื้นฐานที่ต้องเข้าใจ เพื่อประกันสุขภาพที่ตอบโจทย์!
สืบเนื่องจาก “ประกันสุขภาพแผนไหนดี” และ “ประกันสุขภาพที่ไหนดี” เป็นคำถามสำคัญที่ใครหลายคนสงสัยเป็นประจำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาต้องซื้อประกันสุขภาพใหม่ให้กับตัวเอง หรือ ใครก็ตาม
อย่างไรก็ดี การจะตอบทั้ง 2 คำถามข้างต้นได้ จำเป็นที่จะต้องเข้าใจ 4 พื้นฐานการซื้อประกันสุขภาพที่เหมาะสมกันก่อน โดยทั้ง 4 พื้นฐานความเข้าใจเกี่ยวกับการซื้อประกันสุขภาพนี้จะมีรายละเอียดที่แตกต่างกัน ดังนี้
1. เข้าใจประกันสุขภาพก่อน
ประกันสุขภาพ คือ ผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่ช่วยบริหารความเสี่ยงที่มาจากการเจ็บป่วย ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในการรักษาพยาบาล ค่าชดเชย ไปจนถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆ ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์
โดยพื้นฐานแล้ว ประกันสุขภาพสามารถแบ่งออกได้ 5 ประเภท ตามความคุ้มครองที่แตกต่างกัน ดังนี้
- ประกันสุขภาพผู้ป่วยใน (IPD) คุ้มครองในกรณีที่ต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลไม่น้อยกว่า 6 ชั่วโมง
- ประกันสุขภาพผู้ป่วยนอก (OPD) คุ้มครองในการรักษาพยาบาลในกรณีที่ไม่ต้องรักษาตัวในโรงพยาบาล
- ประกันสุขภาพโรคร้ายแรง (Critical Illness Insurance) คุ้มครองการรักษาพยาบาลโรคร้ายแรงที่มีค่าใช้จ่ายสูง
- ประกันอุบัติเหตุ (Personal Accident Insurance) คุ้มครองการรักษาพยาบาลจากการเกิดอุบัติเหตุ (อ่านบทความ “เปรียบเทียบประกันอุบัติเหตุ” คลิก)
- ประกันสุขภาพแบบชดเชยรายได้ คุ้มครองการรักษาพยาบาล พร้อมจ่ายค่าสินไหมทดแทนในกรณีที่ต้องรักษาพยาบาลจนส่งผลกระทบต่อการทำงานและสร้างรายได้
2. ดูงบประมาณที่เหมาะกับตัวเอง
“ประกันสุขภาพที่ดี” คือ ประกันสุขภาพที่ให้ความคุ้มครองที่ใช่ แต่ต้องไม่ส่งผลกระทบกับการเงินในด้านอื่นๆ ลองคิดดูว่า หากการซื้อประกันสุขภาพส่งผลให้มีภาระทางการเงินเพิ่มขึ้น หรือ จำเป็นต้องเอาเงินสำหรับเป้าหมายอื่นมาใช้ แม้จะช่วยบริหารความเสี่ยงด้านค่าใช้จ่ายที่มาจากการเจ็บป่วยได้ แต่ก็อาจทำให้สภาพการเงินในด้านอื่น รวมถึงสภาพคล่องมีปัญหาได้
ดังนั้น ก่อนจะดูว่าประกันสุขภาพแผนไหนดี ขอแนะนำให้กำหนดงบประมาณที่เหมาะสมกับสภาพการเงินของตัวเองดูก่อน โดยสามารถคำนวณค่าใช้จ่ายออกมาเป็นรายปี จากนั้นให้ดูว่า หากเพิ่มค่าใช้จ่ายด้านเบี้ยประกันสุขภาพเข้าไปแล้วส่งผลกับการเงินของตัวเองมากแค่ไหน มีปัญหากับภาระหนี้สิน เป้าหมายการเงิน หรือ ค่าใช้จ่ายจำเป็นอื่นๆ หรือไม่
หรือ หากบริษัทประกันภัยแห่งไหนสามารถผ่อนชำระค่าเบี้ยประกันได้ มีโปรโมชันผ่อน 0% นาน 10 เดือน หรือ สามารถผ่อนชำระผ่านช่องทางอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอย่าง SPayLater หรือ Pay Next Extra ได้ ก็สามารถคำนวณค่าใช้จ่ายเทียบแบบรายเดือนดูได้เช่นกัน
3. ดูสุขภาพตัวเราด้วย
หลังจากที่ทำความเข้าใจผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพ รวมทั้งกำหนดเบี้ยประกันสุขภาพที่เหมาะสมกับตัวเองได้แล้ว ทีนี้ลองมาพิจารณาถึงความเสี่ยงด้านสุขภาพของตัวเราด้วย
โดยความเสี่ยงด้านสุขภาพนี้ นอกจากอายุ อาชีพ รวมถึงเพศกำเนิดแล้ว อย่าลืมพิจารณาถึงประวัติการเจ็บป่วยและการรักษาพยาบาลในอดีตที่ผ่านมา เช่น หากใครป่วยไม่บ่อย แต่ป่วยแล้วเป็นหนักจนต้องเข้าโรงพยาบาล การทำประกันสุขภาพที่เน้นความคุ้มครองด้าน IPD ก็สามารถช่วยตอบโจทย์ได้ตรงจุดมากขึ้น
4. ดูความน่าเชื่อถือและบริการของบริษัทประกันภัยด้วย
“บริษัทประกันภัย” ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณาให้ดีก่อนซื้อประกันสุขภาพด้วยเช่นกัน โดยบริษัทประกันภัย ไม่เพียงแต่จะต้องมีความน่าเชื่อถือเท่านั้น แต่ยังต้องสามารถสร้างประสบการณ์ประกันภัยที่ดีได้ ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลในเครือข่ายที่เพียงพอและครอบคลุม ทำให้ไม่ต้องสำรองจ่ายเพื่อเข้ารับการรักษาพยาบาล หรือ หากมีการเบิกเคลมขึ้นก็สามารถส่งเอกสารและติดตามสถานะการเคลมได้อย่างสะดวก ไปจนถึงมีช่องทางการติดต่อสื่อสารที่เพียงพอต่อความต้องการ
เข้าใจ “ประกันสุขภาพซันเดย์” ให้มากขึ้น
ซันเดย์ คือ บริษัทประกันภัยที่บุคคลทั่วไปสามารถซื้อประกันสุขภาพออนไลน์ได้ด้วยตัวเอง โดยสามารถเช็กเบี้ยประกันสุขภาพได้ง่ายๆ เพียงใช้แค่ “วันเดือนปีเกิด” เท่านั้น
สำหรับใครที่เป็นมือใหม่ในการซื้อประกันสุขภาพด้วยตัวเอง แต่เข้ามาเว็บไซต์ของซันเดย์แล้วยังไม่แน่ใจว่าจะซื้อประกันสุขภาพแผนไหนดี โดยเบื้องต้นแล้ว ขอแนะนำให้ทำความเข้าใจ 2 เรื่องสำคัญ ดังนี้
1. “แผนตัวเลข” กับ “แผนตัวหนังสือ” ของประกันสุขภาพซันเดย์ ต่างกันอย่างไร?
เมื่อเข้ามาเช็กเบี้ยประกันสุขภาพซันเดย์ เชื่อว่าใครหลายคนคงสับสนไม่น้อยว่า แผนประกันสุขภาพที่เป็น “แบบตัวเลข” และ “แบบตัวหนังสือ” มีความแตกต่างกันอย่างไร โดยเบื้องต้นแล้ว แผนประกันทั้ง 2 แบบจะมีความแตกต่างกัน ดังนี้
- แผนประกันสุขภาพแบบตัวเลข เช่น แผน 1, 2, 3 หรือ 4 จะเป็น “แผนประกันสุขภาพเหมาจ่าย” ที่ให้ความคุ้มครองแบบผู้ป่วยใน (IPD) ครอบคลุมตามวงเงินที่กำหนดต่อปี หมายความว่า ผู้เอาประกันจะมีวงเงินกำหนดเป็นรายปีมาให้ หากมีค่ารักษาพยาบาลเกิดขึ้นก็จะหักจากวงเงินไปเรื่อยๆ
- แผนประกันสุขภาพแบบตัวหนังสือ เช่น แผน S, M, หรือ L จะเป็น “แผนประกันสุขภาพแบบแยกค่าใช้จ่าย” ที่จะให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลแบบรายครั้ง ซึ่งแม้บางครั้งจะมีส่วนต่างในค่ารักษาพยาบาลที่ต้องจ่ายเพิ่มอยู่บ้าง แต่ผู้เอาประกันสามารถเข้ารับการรักษากี่ครั้งก็ได้ เพราะไม่มีการจำกัดจำนวนครั้งที่เข้ารับการรักษา
2. วงเงิน OPD ของซันเดย์ทำอะไรได้บ้าง?
อย่างไรก็ดี แผนประกันสุขภาพซันเดย์ทั้ง 2 แบบยังไม่ได้รวมวงเงิน OPD หรือ วงเงินสำหรับการรักษาพยาบาลแบบผู้ป่วยนอก แต่ผู้เอาประกันสามารถเลือกซื้อแผนประกันสุขภาพที่มีวงเงิน OPD เพิ่มได้ โดยวงเงิน OPD จะให้ความคุ้มครองแบบรายครั้ง ซึ่งผู้เอาประกันสามารถเลือกแผนที่มีวงเงิน OPD ได้หลากหลายให้เหมาะสมกับความต้องการของตนเอง
โดยความพิเศษของวงเงิน OPD ของประกันสุขภาพซันเดย์นั้น จะอยู่ที่การให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล 3 แบบ ดังนี้
- คุ้มครองการรักษาพยาบาลแบบผู้ป่วยนอก หรือ การรักษาพยาบาลแบบไม่ต้องเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล หรือ รักษาตัวที่โรงพยาบาลน้อยกว่า 6 ชั่วโมง
- คุ้มครองการใช้บริการ Telemedicine หรือ บริการปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรผ่านผู้ให้บริการในเครือของซันเดย์ได้ โดยไม่ต้องสำรองจ่าย โดยจะตัดค่ารักษาพยาบาลจากวงเงิน OPD ตามจำนวนครั้งที่ใช้ได้ ซึ่งผู้เอาประกันสามารถใช้บริการ Telemedicine ผ่านซูเปอร์แอปฯ Jolly by Sunday ได้
- คุ้มครองการใช้บริการ Walk-in Pharmacy หรือ บริการรับยากับเภสัชกรจากร้านขายยาในเครือข่ายได้ โดยไม่ต้องสำรองจ่าย ซึ่งจะตัดค่ารักษาพยาบาลจากวงเงิน OPD ตามจำนวนครั้งที่ใช้ได้เช่นกัน
รู้หรือไม่? ซันเดย์ เป็นบริษัทอินชัวร์เทคอันดับ 1 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่นำเทคโนโลยี AI และ Machine Learning มาปรับใช้ในกระบวนการรับประกันทั้งหมด พร้อมมีการนำปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องมาร่วมคำนวณในการพิจารณารับประกันภัย ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้การใช้แค่ “วันเดือนปีเกิด” ก็เพียงพอแล้วที่จะคำนวณเบี้ยประกันสุขภาพและคัดเลือกแผนประกันที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคลได้ |
ซื้อประกันซันเดย์ เลือกประกันสุขภาพแผนไหนดี?
อ่านมาถึงจุดนี้แล้ว เชื่อว่าหลายคนคงสงสัยไม่น้อยว่า หากอยากซื้อประกันสุขภาพออนไลน์กับซันเดย์ ควรเลือกทำประกันสุขภาพแผนไหนดีถึงจะตอบโจทย์ความต้องการมากที่สุด
โดยเบื้องต้นแล้ว ประกันสุขภาพซันเดย์ ทั้งแบบทั่วไปและเหมาจ่าย จะแบ่งออกเป็น 4 แผนหลักให้พิจารณา ดังนี้
1. แผนประกันสุขภาพ IPD เหมาจ่าย
เหมาะสำหรับ:
- ผู้ที่มองหาประกันสุขภาพค่าห้องสูง และ ประกันสุขภาพไม่เกิน 20,000 บาท
ความคุ้มครองเด่น:
- มีให้เลือก 4 แผน เบี้ยเริ่มต้นเพียง 9,900 บาท
- คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลแบบผู้ป่วยในแบบเหมาจ่าย ตามวงเงินที่กำหนดแบบรายปี
- ผลประโยชน์สูงสุด 300,000 – 1,000,000 บาทต่อรอบปีกรมธรรม์
- คุ้มครองค่าห้องสูงสุด 10,000 บาท เข้ารักษาตัวได้นานสูงสุด 365 วัน จ่ายค่าห้องผู้ป่วยวิกฤตตามจริง นานสูงสุด 15 วัน
ค่าเบี้ยประกันสุขภาพ IPD เหมาจ่ายของซันเดย์
2. แผนประกันสุขภาพ IPD เหมาจ่ายราคาประหยัด
เหมาะสำหรับ:
- ผู้ที่มองหาประกันสุขภาพไม่เกิน 20,000 บาท
ความคุ้มครองเด่น:
- มีให้เลือก 4 แผน เบี้ยเริ่มต้น 5,620 บาท
- คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลแบบผู้ป่วยในแบบเหมาจ่าย ตามวงเงินที่กำหนดแบบรายปี
- ผลประโยชน์สูงสุด 45,000 – 105,000 บาทต่อปีกรมธรรม์
- คุ้มครองค่าห้องสูงสุด 1,800 บาท เข้ารับการรักษาได้นาน 30 วัน จ่ายค่าห้องผู้ป่วยวิกฤตสูงสุด 4,000 บาท นานสูงสุด 15 วัน
ค่าเบี้ยประกันสุขภาพ IPD เหมาจ่ายราคาประหยัดของซันเดย์:
3. แผนประกันสุขภาพ IPD เหมาจ่าย + OPD
เหมาะสำหรับ:
- ผู้ที่มองหาประกันสุขภาพผู้ป่วยนอก และ ประกันสุขภาพค่าห้องสูง
ความคุ้มครองเด่น:
- เลือกแผนประกันสุขภาพผู้ป่วยนอก (OPD) ได้ตั้งแต่ 1,500 – 5,000 บาท
- คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลแบบผู้ป่วยในแบบเหมาจ่าย ตามวงเงินที่กำหนดแบบรายปี พร้อมรับความคุ้มครองการรักษาพยาบาลแบบผู้ป่วยนอกเป็นรายครั้ง สูงสุด 30 ครั้งต่อปี ครอบคลุมถึงบริการ Telemedicine และ บริการ Walk-in Pharmacy
- ผลประโยชน์สูงสุด 300,000 – 1,000,000 บาทต่อรอบปีกรมธรรม์
- คุ้มครองค่าห้องสูงสุด 10,000 บาท เข้ารักษาตัวได้นานสูงสุด 365 วัน จ่ายค่าห้องผู้ป่วยวิกฤตตามจริง นานสูงสุด 15 วัน
ตัวอย่าง ค่าเบี้ยแผนประกันสุขภาพ IPD เหมาจ่าย + OPD 1500
ตัวอย่าง ค่าเบี้ยแผนประกันสุขภาพ IPD เหมาจ่าย + OPD 3000
4. แผนประกันสุขภาพ Sunday Exclusive Program
เหมาะสำหรับ:
- ผู้ที่มองหาประกันสุขภาพผู้ป่วยนอก (OPD) ประกันสุขภาพค่าห้องสูง และประกันสุขภาพไม่เกิน 20,000 บาท
ความคุ้มครองเด่น:
- มีให้เลือก 3 แผน เบี้ยเริ่มต้น 11,030 บาท
- ให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลตามวงเงินที่กำหนดในรายการแบบรายครั้ง แต่ไม่จำกัดจำนวนครั้ง
- คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลแบบผู้ป่วยนอก (OPD) สูงสุด 2,000 บาทต่อครั้ง กำหนด 1 ครั้งต่อวัน สูงสุดไม่เกิน 30 ครั้งต่อปี
- คุ้มครองค่าห้องสูงสุด 5,000 บาท เข้ารักษาตัวได้นานสูงสุด 365 วัน จ่ายค่าห้องผู้ป่วยวิกฤตสูงสุด 10,000 นานสูงสุด 15 วัน
ค่าเบี้ยประกันสุขภาพ Sunday Exclusive Program
ตัดสินใจไม่ถูก ควรเลือกประกันสุขภาพแผนไหนดี มาดูแผนประกันสุขภาพขายดีจากซันเดย์กัน!
1. แผนประกันสุขภาพ IPD เหมาจ่าย + OPD 1,500 บาท
2. แผนประกันสุขภาพ IPD เหมาจ่าย แผน 3
3. แผนประกันสุขภาพ Sunday Exclusive Program แผน L
4. แผนประกันสุขภาพ IPD เหมาจ่าย + OPD 3,000 บาท
ง่ายๆ เพียงเท่านี้ก็ซื้อประกันสุขภาพออนไลน์กับซันเดย์ให้ตอบโจทย์ทั้งเบี้ยประกันและความคุ้มครองแล้ว แต่หากใครยังไม่มั่นใจว่าจะซื้อประกันสุขภาพแผนไหนดี ลองมาเช็กเบี้ยประกันและเลือกความคุ้มครองที่เหมาะสมกับตัวเองง่ายๆ ได้ด้วยตัวเอง ใช้แค่ “วันเดือนปีเกิด” เท่านั้น
อยากใช้ซูเปอร์แอปฯ Jolly by Sunday ต้องทำอย่างไร?
หากคุณเป็นอีกคนที่อยากใช้ซูเปอร์แอปฯ Jolly by Sunday แอปประกันที่ตอบโจทย์ความต้องการทุกอย่างได้ครอบคลุมแบบนี้ สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันมาใช้งานได้ในทันที ผ่าน App Store หรือ Google Play Store แล้วอย่าลืมติดตามข่าวสารและโปรโมชันดีๆ จากซันเดย์ในทุกๆ วันของคุณ