หน้าหลัก เรื่องราวรอบตัว 7 เช็กลิสต์เตรียมตัวขับรถเที่ยวต่างประเทศ ทำใบขับขี่สากลแล้วมาดู!

7 เช็กลิสต์เตรียมตัวขับรถเที่ยวต่างประเทศ ทำใบขับขี่สากลแล้วมาดู!

ขับรถยนต์เที่ยวต่างประเทศ-เตรียมตัวอย่างไรให้พร้อม

เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงมีความฝันที่จะขับรถยนต์เที่ยวเมืองนอก หรือ ออก Road Trip ต่างประเทศให้ได้สักครั้ง แต่การจะสานฝันขับเที่ยวต่างประเทศให้เป็นจริงได้จำเป็นที่จะต้องเตรียมตัวให้พร้อมอย่างรอบด้านเช่นกัน

ไม่เพียงแต่จะต้องทำใบขับขี่สากลเพื่อรองรับการเปิดทริปเที่ยวยังประเทศต่าง ๆ เท่านั้น แต่ยังมีอีก 7 เช็กลิสต์สำคัญที่ต้องเตรียมตัวให้พร้อมก่อนสตาร์ท Road Trip ในฝันด้วย แต่จะมีอะไรบ้าง ต้องเตรียมความพร้อมในด้านไหนบ้าง มาหาคำตอบได้ในบทความนี้กัน!


1. ศึกษากฎหมายการขับขี่รถยนต์ในแต่ละประเทศก่อน

แม้การทำใบขับขี่สากลจะเป็นเรื่องสำคัญ แต่การศึกษากฎหมายการขับรถยนต์ในแต่ละประเทศก่อนเปิด Road Trip ถือเป็นเรื่องสำคัญยิ่งกว่า เนื่องจากการทำผิดกฎหมายในต่างประเทศ แม้จะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็อาจเสี่ยงโดนปรับ โดนดำเนินคดี หรือซ้ำร้ายอาจเสี่ยงโดนแบนเข้าประเทศได้เลยทีเดียว

ดังนั้น ก่อนจะจองคิวทำใบขับขี่สากล อย่าลืมศึกษาถึงกฎหมายการขับขี่รถยนต์ในประเทศต่าง ๆ ให้ดี ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งพวงมาลัยการขับรถยนต์ การจอดรถยนต์ในสถานที่ต่าง ๆ กฎจราจร อัตราความเร็วตามกฎหมายกำหนด ลักษณะเลนรถยนต์ การใช้ทางด่วน ไปจนถึงมารยาทในการขับรถยนต์ของแต่ละประเทศ

นอกจากนี้ อย่าลืมศึกษาระบบคะแนนใบขับขี่และบทลงโทษของแต่ละประเทศให้เรียบร้อย โดยทั่วไปแล้ว ใบขับขี่ทุกใบจะมีคะแนนรวมอยู่ที่ 12 คะแนน และหากมีการทำผิดกฎหมายเกิดขึ้นก็จะมีการตัดคะแนนออกไปตามที่กฎหมายกำหนด โดยหากทำผิดกฎจนคะแนนใบขับขี่เหลือ 0 คะแนนเมื่อไหร่ก็จะถูกสั่งพักใบขับขี่เป็นเวลา 90 วันทันที

โดยแต่ละประเทศจะมีระบบการตัดคะแนนใบขับขี่ที่แตกต่างกัน เช่น การขับรถยนต์ฝ่าไฟแดงในสิงคโปร์จะโดนตัดคะแนนใบขับขี่ 12 คะแนนและมีโทษปรับสูงสุดประมาณ 14,000 บาท ในขณะที่ประเทศญี่ปุ่นจะตัดคะแนนแค่ 2 คะแนนและมีโทษปรับสูงสุดประมาณ 2,300 บาท

รู้แบบนี้แล้ว หากไม่อยากถูกสั่งพักใบขับขี่ ได้รับโทษปรับ ถูกดำเนินคดีในต่างประเทศแบบรู้เท่าไม่ถึงการ หรือ มีปัญหาทางด้านกฎหมายตามมา อย่าลืมศึกษากฎหมาย กฎจราจร และมารยาทในการขับรถยนต์ในประเทศที่สนใจให้ดี

ขับรถยนต์เที่ยว ทำใบขับขี่สากลแล้วต้องทำอะไรเพิ่มไหม

2. เตรียมตัวทำใบขับขี่สากล

ไม่เพียงแต่จะต้องศึกษากฎหมายการขับรถยนต์ของแต่ละประเทศเท่านั้น แต่การเปิดทริปขับรถเที่ยวในต่างประเทศยังต้องใช้ใบเบิกทางอย่าง ‘ใบขับขี่สากล’ ด้วยเช่นกัน 


ใบขับขี่สากลใช้ประเทศไหนได้บ้าง?

ใบขับขี่สากลที่ออกโดยกรมการขนส่งทางบกของประเทศไทยจะมีด้วยกัน 2 ประเภท ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามอายุใบขับขี่และประเทศที่ต้องการจะเดินทางไปตามอนุสัญญาว่าด้วยการจราจรทางถนน ณ นครเจนีวา โดยใบขับขี่สากลแต่ละประเภทจะมีรายละเอียดต่างกัน ดังนี้

  1. ใบขับขี่สากลอายุ 1 ปี ใช้ได้ 102 ประเทศทั่วโลก 
  2. ใบขับขี่สากลอายุ 3 ปี ใช้ได้ 86 ประเทศทั่วโลก

อย่างไรก็ดี หลังจากที่ทำใบขับขี่สากลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อย่าลืมนำใบขับขี่ของประเทศไทยติดตัวไปด้วย โดยตามกฎหมายแล้ว อายุการใช้งานใบขับขี่สากลจะขึ้นอยู่กับอายุของใบขับขี่ไทย หมายความว่า หากใบขับขี่ไทยหมดอายุแล้ว ใบขับขี่สากลก็จะหมดอายุด้วย แม้ตัวเลขในบัตรจะมีอายุ 1 หรือ 3 ปีก็ตาม

ซื้อประกันสุขภาพเหมาจ่าย

ทำใบขับขี่สากลได้ที่ไหน เตรียมตัวอย่างไรบ้าง?

นักท่องเที่ยวสามารถติดต่อทำใบขับขี่สากลได้ที่สำนักงานขนส่งทุกแห่งทั่วประเทศ โดยในพื้นที่กรุงเทพมหานครสามารถทำใบขับขี่สากลได้ที่สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 – 5

ผู้ที่สนใจสามารถจองคิวทำใบขับขี่สากลได้ผ่านทางแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue เมื่อดาวน์โหลดแอปพลิเคชันแล้ว ให้เลือกจอง “บริการใบอนุญาตส่วนบุคคล: ใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศ” พร้อมเตรียมเอกสารและค่าใช้จ่ายใบขับขี่สากลให้เรียบร้อย ดังนี้

  1. สำเนาหนังสือเดินทางที่ยังไม่หมดอายุ หน้าประวัติส่วนตัวและหน้าที่มีการแก้ไขรายการ พร้อมฉบับจริง 
  2. สำเนาบัตรประชาชน พร้อมฉบับจริง
  3. สำเนาใบขับขี่รถส่วนบุคคล พร้อมฉบับจริง
  4. รูปถ่ายหน้าตรงขนาด 2 นิ้ว ไม่นานเกิน 6 เดือน จำนวน 2 รูป
  5. สำเนาหลักฐานการเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล ทะเบียนสมรส หรือ ใบหย่า
  6. หนังสือมอบอำนาจ ในกรณีที่ไม่สามารถมาทำใบขับขี่ได้ด้วยตนเอง โดยให้แนบบัตรประชาชนของผู้รับมอบอำนาจที่ยังไม่หมดอายุ ทั้งสำเนาและฉบับจริง พร้อมหลักฐานทั้งหมดและมีการมีเซ็นรับรองสำเนาถูกต้องให้เรียบร้อย
  7. สำหรับชาวต่างชาติที่ต้องการทำใบขับขี่สากลในเมืองไทย ให้เตรียมเอกสารให้ครบดังนี้
  • หนังสือเดินทาง ฉบับจริงและสำเนา
  • เอกสารวีซ่า ฉบับจริงและสำเนา
  • ใบอนุญาตทำงาน ใบสำคัญที่อยู่ หรือ หลักฐานแสดง Smart Visa ฉบับจริงและสำเนา พร้อมผ่านการรับรองโดยสถานฑูต สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง หน่วยงานภาครัฐ หรือ องค์กรระหว่างประเทศ
  • ใบขับขี่ไทยที่ยังไม่หมดอายุ ฉบับจริงและสำเนา
  • รูปถ่ายหน้าตรงขนาด 2 นิ้ว ไม่นานเกิน 6 เดือน จำนวน 2 รูป
  1. เตรียมเงินค่าคำขอทำใบขับขี่สากล 5 บาท และ ค่าใช้จ่ายใบขับขี่สากล 500 บาท รวมเป็นเงิน 505 บาท
Sunday Tips:

ใบขับขี่ไทยใช้ได้กี่ประเทศ ไม่ทำใบขับขี่สากลได้หรือไม่?

ใบขับขี่ไทยสามารถใช้สำหรับการขับรถเที่ยว หรือ เช่ารถยนต์ใน 9 ประเทศอาเซียนโดยไม่จำเป็นต้องทำใบขับขี่สากลใหม่ 
ทั้ง 9 ประเทศที่ไม่ต้องใช้ใบขับขี่สากลจะประกอบไปด้วย พม่า กัมพูชา ลาว เวียดนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย บรูไน สิงคโปร์ และ ฟิลิปปินส์ 
ทำใบขับขี่สากลต้องใช้อะไรบ้าง

3. เตรียมเอกสารสำหรับการขับรถยนต์ในต่างประเทศให้ครบ

ลำพังแค่ทำใบขับขี่สากลอย่างเดียวยังไม่พอ แต่การขับรถยนต์เที่ยวในต่างประเทศยังจำเป็นต้องใช้เอกสารยืนยันอื่น ๆ เพิ่มเติมอีกด้วย โดยเอกสารที่ต้องเตรียมสำหรับการออก Road Trip นั้นจะแตกต่างกันไปตามลักษณะการใช้งานรถยนต์ ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะหลัก ดังนี้


1. เอกสารสำหรับการเช่ารถยนต์ในต่างประเทศ

สำหรับใครที่ต้องการเช่ารถยนต์ขับเที่ยวด้วยตัวเอง นอกจากจะตรวจสอบกฎหมายในการขับรถยนต์ท่องเที่ยวภายในและข้ามประเทศ รวมไปถึงเงื่อนไขประกันรถยนต์แล้ว อย่าลืมเตรียมเอกสารการเช่ารถยนต์ให้พร้อม ดังนี้ 

  • พาสปอร์ต
  • บัตรเครดิต
  • ใบขับขี่สากล
  • ตั๋วเครื่องบินขาไปและขากลับ
  • ผู้ที่สามารถติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน

อย่างไรก็ดี บริษัทเช่ารถยนต์แต่ละแห่งจากประเทศที่แตกต่างกันจะมีเงื่อนไขในการใช้บริการ ประกันรถยนต์ ตลอดจนเอกสารที่ต้องใช้ที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้น หลังจากที่ทำใบขับขี่สากลแล้ว อย่าลืมสอบถามรายละเอียดด้านเอกสารกับทางผู้ให้บริการรถเช่าด้วย


2. เอกสารสำหรับผู้ที่ขับรถยนต์ไปเที่ยวต่างประเทศเอง

สำหรับใครที่อยากเที่ยวต่างประเทศด้วยรถยนต์ของตัวเอง หลังจากศึกษากฎหมายการขับรถยนต์ข้ามประเทศต่าง ๆ พร้อมวางแผนการเดินทางเรียบร้อยแล้ว อย่าลืมมาเตรียมเอกสารสำคัญให้ครบ ดังนี้

  1. พาสปอร์ตรถยนต์ 
  2. เอกสารสำหรับรถยนต์ 
  3. เครื่องหมายแสดงประเทศ
  4. แผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ภาษาอังกฤษ
  5. หนังสือรับรองการตรวจสภาพรถยนต์สำหรับใช้งานนอกราชอาณาจักร
  6. หนังสือรับรองการจดทะเบียนรถยนต์ภาษาอังกฤษ (สำหรับการขับรถยนต์เที่ยวเวียดนาม)
  7. เอกสารยื่นออกจากชายแดนไทย ประกอบไปด้วย ต.ม. 2 ต.ม. 3 และ หนังสืออนุญาตรถยนต์ระหว่างประเทศ
  8. เอกสารเข้าชายแดนประเทศปลายทาง ประกอบไปด้วยประกันภัยบุคคลที่ 3 ซื้อได้ที่ด่านตรวจชายแดน และ หนังสือขออนุญาตใช้รถในพื้นที่ของแต่ละประเทศ

เอกสารทั้งหมดข้างต้นนี้ เจ้าของรถยนต์สามารถดำเนินการและสอบถามรายละเอียดได้ที่สำนักงานขนส่งทุกจังหวัดทั่วไทย พร้อมยื่นเอกสารสำเนารับรองหนังสือจดทะเบียนรถยนต์ สำเนาบัตรประชาชนของเจ้าของรถยนต์ หรือ สำเนาการจดทะเบียนนิติบุคคลในกรณีรถยนต์ติดไฟแนนซ์ หากไม่สะดวกมาดำเนินการด้วยตัวเองให้ยื่นหนังสือมอบอำนาจ พร้อมแนบสำเนาบัตรประชาชนของผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ


4. เช็กรถยนต์ให้พร้อมก่อนออกเดินทาง

การเตรียมรถยนต์ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ไม่เพียงแต่จะช่วยทำให้การเดินทางราบรื่นตลอดทั้งทริปเท่านั้น แต่ยังช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุในระหว่างท่องเที่ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุบัติเหตุในพื้นที่ห่างไกลที่ติดต่อขอความช่วยเหลือได้ยาก

สำหรับใครที่ขับรถยนต์ตัวเองท่องเที่ยว อย่าลืมนำรถยนต์ไปตรวจเช็กสภาพให้เรียบร้อยก่อนออกเดินทาง พร้อมซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอและเสียหายทั้งหมด เพื่อช่วยให้ออกทริปได้อย่างปลอดภัยและราบรื่นมากยิ่งขึ้น

สำหรับใครที่เช่ารถยนต์ขับเที่ยว อย่าลืมตรวจสอบสภาพรถยนต์ทั้งหมดให้เรียบร้อย ทั้งนี้เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุจากรถยนต์ที่ไม่ได้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ตลอดจนช่วยป้องกันกลโกงของผู้ให้บริการรถเช่า โดยเริ่มจากการเช็กรอยขีดข่วนรอบคัน ระบบเครื่องยนต์ เครื่องปรับอากาศ ระดับและการปรับกระจก ระบบไฟ น้ำมันเครื่อง ระบบเบรก รวมไปถึงเงื่อนไขของประกันรถยนต์จากผู้ให้บริการรถยนต์เช่า

ขับรถเที่ยวต่างประเทศ-เตรียมตัวอย่างไร

5. วางแผนการเดินทางให้รอบคอบ

ความสนุกของการขับรถยนต์เที่ยวเริ่มต้นจากการวางแผนการเดินทางให้รอบคอบ ไม่เพียงแต่จะต้องปักหมุดสถานที่ท่องเที่ยว ปั๊มน้ำมัน/แท่นชาร์จรถยนต์ และห้องน้ำระหว่างการเดินทางเท่านั้น แต่เจ้าของรถยนต์และผู้ร่วมทริปยังต้องร่วมศึกษาเส้นทางการเดินทาง อัตราการเกิดอุบัติเหตุในพื้นที่ สถานที่พักฉุกเฉิน การป้องกันตัวจากเหตุฉุกเฉินเบื้องต้น ไปจนถึงวิธีติดต่อขอความช่วยเหลือในประเทศที่ต้องการเดินทาง พร้อมเตรียมอุปกรณ์ขอความช่วยเหลือเอาไว้ให้เรียบร้อย


6. ศึกษาการซ่อมแซมรถยนต์เบื้องต้น พร้อมเตรียมอุปกรณ์ให้ครบ

อุบัติเหตุสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ไม่ว่าจะเดินทางไปที่ไหน ดังนั้น ไม่เพียงแต่จะต้องวางแผนการเดินทางให้รอบคอบ เพื่อเตรียมตัวรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินเท่านั้น แต่เจ้าของรถยนต์และผู้ร่วมทริปยังควรเตรียมอุปกรณ์ซ่อมแซมรถยนต์ พร้อมศึกษาการซ่อมแซมรถยนต์เบื้องต้นเอาไว้ ทั้งนี้เพื่อช่วยเพิ่มความอุ่นใจในระหว่างการเดินทาง เพราะอย่างน้อยก็สามารถซ่อมรถยนต์ให้ขับไปถึงพื้นที่ปลอดภัยของประเทศต่าง ๆ ได้


7. ตรวจสอบเงื่อนไขประกันรถยนต์ กรณีการขับรถยนต์เที่ยวในต่างประเทศ

ในกรณีที่เช่ารถยนต์ขับในต่างประเทศ โดยส่วนใหญ่แล้ว รถยนต์เช่าจะได้รับความคุ้มครองจากประกันรถยนต์ขั้นพื้นฐาน ซึ่งมักจะเป็นประกันภัยที่มีค่าเสียหายส่วนแรกและคุ้มครองในกรณีที่รถยนต์หาย แต่หากผู้เช่ารถยนต์มองหาประกันภัยดังกล่าวยังคุ้มครองไม่ครอบคลุมความต้องการก็สามารถซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติมได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการรถเช่าแต่ละพื้นที่ด้วย


สำหรับผู้ที่มีแผนจะขับรถยนต์ส่วนตัวไปเที่ยวต่างประเทศ ขอแนะนำให้สอบถามบริษัทประกันรถยนต์ส่วนบุคคลที่ให้ความคุ้มครองอยู่ในปัจจุบัน ทั้งนี้เพื่อเป็นการตรวจสอบความคุ้มครอง การซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติม ไปจนถึงเงื่อนไขการเคลมในกรณีเกิดอุบัติเหตุในต่างประเทศ

เพียงเท่านี้ก็สามารถขับรถยนต์เที่ยวในต่างประเทศได้อย่างอุ่นใจแล้ว หวังว่าทั้ง 7 เช็กลิสต์ที่นำมาฝากนี้จะช่วยให้ทุกคนเตรียมตัวและวางแผนเที่ยวในต่างประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น สำหรับใครที่กำลังวางแผนเที่ยวต่างประเทศอยู่ หากต้องการความช่วยเหลือด้านประกันรถยนต์ หรือ ประกันภัยรูปแบบใด สามารถติดต่อสอบถามมายัง Sunday ได้ทันที!

ซื้อประกันสุขภาพเหมาจ่าย

Share this article
Shareable URL
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง

ลดหย่อนภาษีด้วย “เที่ยวดี มีคืน 2568” สรุปครบในที่เดียว!

รู้ไว้ไม่พลาด! เที่ยวดี มีคืน สิทธิลดหย่อนภาษีส่งท้ายปี 2568 มาตรการ “เที่ยวดี มีคืน” คือ…
เที่ยวดีมีคืน

รู้ไว้ดีกว่า! รวมวิธีเตรียมตัวรับมือภัยพิบัติสงคราม

เตรียมตัวอย่างไรในวันที่เกิด “ภัยพิบัติสงคราม”? การเตรียมตัวรับมือภัยพิบัติสงคราม คือ…
ภัยพิบัติสงคราม
0
Share