เตรียมตัวอย่างไรในวันที่เกิด “ภัยพิบัติสงคราม”?
การเตรียมตัวรับมือภัยพิบัติสงคราม คือ การวางแผนล่วงหน้าเพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น เหตุปะทะชายแดน การโจมตีทางทหาร หรือ การเกิดสงครามในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งการเตรยีมพร้อมที่ดี ไม่เพียงแต่จะช่วยปกป้องความเสียหายแก่ทรัพย์สินเท่านั้น แต่ยังเพิ่มโอกาสรอดชีวิต ตลอดจนลดความเสียหายทางร่างกายและจิตใจได้เช่นกัน
แม้ประเทศไทยจะไม่ใช่พื้นที่เสี่ยงในการเกิดสงคราม หรือ เหตุก่อการร้าย แต่เหตุการณ์ความตึงเครียดที่แนวชายแดน โดยเฉพาะชายแดนไทยและกัมพูชาในช่วงเวลาที่ผ่านมา ทำให้ประชาชนทั่วทุกจังหวัดในประเทศไทยรู้สึกเป็นกังวลและกำลังมองหาแผนรับมือภัยพิบัติที่มีประสิทธิภาพ
หากคุณเป็นอีกคนที่กำลังมองหาวิธีเตรียมตัวรับมือภัยพิบัติสงคราม หรือ ภัยพิบัติต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นในประเทศไทย ลองมาดูเช็กลิสต์การเตรียมตัว รวมถึงการจัดกระเป๋าฉุกเฉิน เพื่อเตรียมรับมือกับเหตุการณ์เสี่ยงกัน

ภัยพิบัติสงครามคืออะไร?
ภัยพิบัติสงคราม (War Disaster) คือ สถานการณ์ที่เกิดจากการปฏิบัติการทางทหารระหว่างรัฐหรือ กลุ่มติดอาวุธ อาจรวมถึงการใช้ระเบิด การยิงปะทะ การปิดกั้นเส้นทางขนส่ง และการทำลายโครงสร้างพื้นฐานในประเทศ
เหตุการณ์เหล่านี้ ไม่เพียงแต่จะสร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงของประเทศด้วยเช่นกัน
ภัยพิบัติสงครามต่างจากภัยพิบัติอื่นๆ อย่างไร?
ภัยพิบัติสงครามจัดเป็นภัยพิบัติที่เกิดขึ้นจากการกระทำของมนุษย์ มีปัจจัยทางการเมือง เศรษฐกิจ และความมั่นคงเข้ามาเกี่ยวข้อง ในขณะที่ภัยธรรมชาติ เช่น น้ำท่วม แผ่นดินไหว หรือพายุ จะเป็นภัยพิบัติที่เกิดขึ้นจากกระบวนการทางธรรมชาติและไม่สามารถควบคุมได้
ด้วยเหตุนี้ การรับมือกับภัยพิบัติสงครามจึงต้องคำนึงถึงทั้งความปลอดภัยทางกายภาพ ประชาชน และความมั่นคงในประเทศ ตลอดจนต้องมีการจัดการข้อมูลข่าวสารเพื่อหลีกเลี่ยงความตื่นตระหนก รวมถึงปัญหาภัยความมั่นคงอื่นๆ ที่อาจตามมาได้
ประชาชนเตรียมรับมือภัยพิบัติสงครามอย่างไร?
ภัยพิบัติสงครามอาจดูเป็นเรื่องไกลตัว แต่หากรู้จักวิธีเตรียมรับมือที่ถูกต้องก็สามารถช่วยเพิ่มโอกาสการรอดชีวิต ตลอดจนสามารถปกป้องทรัพย์สิน ครอบครัว และคนที่รักได้เช่นกัน โดยเบื้องต้นแล้ว ประชาชนสามารถเตรียมรับมือกับภัยพิบัติสงคราม รวมถึงภัยพิบัติต่างๆ ได้ ดังนี้
1. เข้าร่วมและฝึกซ้อมการอพยพภัยพิบัติ
การฝึกซ้อมอพยพจากหน่วยงานรัฐเป็นประจำจะช่วยให้รู้ขั้นตอนหนีภัย เส้นทางปลอดภัย และจุดรวมพลในพื้นที่ นอกจากนี้ ประชาชนยังควรติดตามประกาศจากหน่วยงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อรับทราบถึงการซ้อมอพยพและรับมือกับภัยพิบัติต่างๆ ด้วย
2. หมั่นตรวจสอบจุดให้บริการจากภาครัฐ
นอกจากเข้าร่วมการซ้อมอพยพเป็นประจำแล้ว ประชาชนยังควรศึกษาตำแหน่งจุดให้บริการที่สำคัญ เช่น โรงพยาบาล จุดแจกจ่ายอาหารและน้ำ จุดพักพิงชั่วคราว และสถานที่ราชการที่เปิดให้ความช่วยเหลือเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน โดยการมีข้อมูลเหล่านี้ล่วงหน้าจะช่วยลดเวลาตัดสินใจ และสามารถรับมือกับสถานการณ์คับขันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3. เตรียมกระเป๋าฉุกเฉิน หรือ Survival Bag
นอกจากกระเป๋ายาฉุกเฉิน รวมถึงอุปกรณ์การเอาตัวรอด (Survival Kit) แล้ว ประชาชนยังควรจัดเตรียมกระเป๋าฉุกเฉิน หรือ Survival Bag เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการอพยพในสถานการณ์ฉุกเฉินด้วยเช่นกัน โดยควรจัดอุปกรณ์ให้ครบตามเช็กลิสต์ ดังนี้
Survival Bag Checklist | |
หมวดหมู่ | รายการสิ่งของ |
หมวดของใช้จำเป็น | ของใช้พื้นฐาน เช่น สบู่ ยาสีฟัน แปรงสีฟัน ยาสระผม น้ำยาซักผ้าขนาดเล็กผ้าอนามัยทิชชู่แห้ง ทิชชู่เปียกเสื้อผ้า อย่างน้อย 1 – 3 ชุดผ้าห่ม หรือ ถุงนอนร่ม หรือ เสื้อกันฝนหน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์รองเท้าแตะ หรือ รองเท้าที่แข็งแรง |
หมวดของยังชีพ | น้ำดื่มขนาดพกพา อาหารแห้ง อาหารกระป๋อง อาหารพกพาง่ายและพร้อมทานทันทีอาหารและอุปกรณ์ดูแลเด็กเล็ก |
หมวดยา | กระเป๋ายาฉุกเฉินยาประจำตัวชุดปฐมพยาบาลขนาดพกพายาสามัญ เช่น ยาแก้ปวด ยาลดไข้ ยาลดกรด/ช่วยย่อย |
หมวดของมีค่า / เอกสารสำคัญ | เงินสดเอกสารสำคัญ เช่น ทะเบียนบ้าน สมุดธนาคาร บัตรประชาชน พาสปอร์ต ใบขับขี่ เอกสารประกันภัย โดยเก็บไว้ในถุงกันน้ำกุญแจรถ กุญแจบ้าน กุญแจทรัพย์สินสำคัญโทรศัพท์มือถือ และ ที่ชาร์จ |
หมวดอุปกรณ์ฉุกเฉิน | ไฟฉาย พร้อมถ่านPower Bankไม้ขีด ไฟแช็กนกหวีดมีดพกเชือกถุงพลาสติกหลายๆ ขนาดกระจกพกพาปากกาที่เปิดกระป๋องวิทยุสื่อสาร (ถ้ามี) |
เมื่อจัดกระเป๋าฉุกเฉินเสร็จเรียบร้อยแล้ว อย่าลืมแจ้งให้สมาชิกในครอบครัวทุกคนทราบ พร้อมจัดเก็บกระเป๋าฉุกเฉินไว้บริเวณสำคัญ เช่น บ้าน ที่ทำงาน และในรถยนต์ เป็นต้น
ข้อควรรู้: ในสถานการณ์ฉุกเฉิน ควรหลีกเลี่ยงการพกเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน น้ำอัดลม และ แอลกอฮอล์ เนื่องจากเครื่องดื่มดังกล่าวจะทำให้ร่างกายขาดน้ำ และต้องการดื่มน้ำมากขึ้น ซึ่งอาจส่งผลต่อเสบียง น้ำ และอาหารอื่นๆ ที่จัดเตรียมสำหรับการอพยพภัยพิบัติ
4. ติดตามข่าวสารจากทางการ
เลือกติดตามข้อมูลจากแหล่งทางการ เช่น กรมประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และสถานีโทรทัศน์หรือวิทยุของรัฐ หลีกเลี่ยงการแชร์ข่าวลือ หรือ ข้อมูลที่ไม่ผ่านการยืนยัน ทั้งนี้เพื่อลดความตระหนก รวมถึงรักษาความปลอดภัยของตัวเองและคนในครอบครัวได้อย่างถูกต้อง
5. เฝ้าระวังสุขภาพกายและใจ
สถานการณ์สงคราม รวมถึงภัยพิบัติต่างๆ อาจสร้างความเครียดและความวิตกกังวลได้ ด้วยเหตุนี้ อย่าลืมพูดคุยกับครอบครัว รวมถึงคนใกล้ชิด เพื่อบรรเทาความตึงเครียด รวมถึงพยายามพักผ่อนให้เพียงพอ และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อป้องกันไม่ให้ตนเองเจ็บป่วยด้วย

ภัยพิบัติสงคราม ประกันรับผิดชอบอย่างไร?
โดยทั่วไปแล้ว กรมธรรม์ประกันภัยจะไม่ให้ความคุ้มครองความเสียหาย การบาดเจ็บ และเหตุอื่นๆ ที่เกิดขึ้นในภัยพิบัติสงคราม หรือ เข้าข่าย ดังนี้
- สงคราม
- การรุกราน
- การกระทำที่มุ่งร้ายของศัตรูต่างชาติ
- สงครามกลางเมือง
- การกบฎ
- การจลาจล
- การนัดหยุดงาน
- การก่อความวุ่นวาย
- การปฏิวัติ
- รัฐประหาร
- การประกาศกฎอัยการศึก
- การบาดเจ็บขณะที่ผู้เอาประกันปฏิบัติหน้าที่เป็นทหาร ตำรวจ หรือ อาสาสมัครและเข้าปฏิบัติการในสงครามหรือการปราบปราม
อย่างไรก็ดี บริษัทประกันภัยแต่ละแห่งมีเงื่อนไขความคุ้มครองในส่วนนี้ที่แตกต่างกัน ผู้เอาประกันที่ได้รับผลกระทบ สามารถติดต่อสอบถามไปยังบริษัทประกันภัยที่ให้ความคุ้มครอง เพื่อรับทราบเงื่อนไขได้เช่นกัน
อัปเดตเพิ่มเติม! กรณีความเสียหายเหตุความตึงเครียดพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ปี 2568
จากรายงานของ Thai PBS และ กรุงเทพธุรกิจ สืบค้นเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 ระบุว่า สำนักงานคปภ. ได้กำหนดแนวทางพิจารณาการชดใช้ค่าสินไหมทดแทน จากเหตุความตึงเครียดพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยให้พิจารณาชดใช้ค่าสินไหมทดแทนในลักษณะ “ค่าสินไหมทดแทนกรุณา” ได้ โดยตีความเป็น “เหตุปะทะทางทหารทั้ง 2 ประเทศ” ไม่ใช่ภัยพิบัติสงคราม หรือ การรุกราน
โดย “ค่าสินไหมกรุณา” คือ เงินที่บริษัทประกันจ่ายให้ผู้เอาประกัน โดยจะเป็นเงินที่ไม่ใช่การจ่ายตามข้อผูกมัดทางกฎหมาย หรือ สัญญา แต่จะเป็นเงินที่บริษัทประกันจ่ายให้ในกรณีที่ความคุ้มครองในกรมธรรม์ไม่ครอบคลุมความเสียหายที่เกิดขึ้นโดยตรง
อย่างไรก็ดี สำนักงานคปภ. จะเข้าหารือ หาข้อสรุปร่วม ตลอดจนเร่งสำรวจความเสียหายกับสมาคมประกันชีวิตไทย สมาคมประกันวินาศภัยไทย ภาคธุรกิจประกันภัย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
ด้วยเหตุนี้ ผู้ถือกรมธรรม์ควรตรวจสอบเงื่อนไขการคุ้มครองอย่างรอบคอบ พร้อมติดตามประกาศจากสำนักงานคปภ. และบริษัทประกันภัย เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่อาจเข้าข่ายภัยสงคราม เนื่องจากมาตรการช่วยเหลืออาจเปลี่ยนแปลงตามสถานการณ์และนโยบายรัฐ
สำหรับผู้ถือกรมธรรม์ประกันซันเดย์ที่ได้รับผลกระทบ หรือ ต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อ Sunday Customer Service ได้ที่
- อีเมล: hello@easysunday.com
- เบอร์โทรศัพท์: 0 2026 3355
- Line: @easysunday
หากคุณกำลังหาข้อมูลก่อนเลือกประกันสุขภาพ บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจปัจจัยสำคัญที่ควรพิจารณาเมื่อเทียบแผนต่าง ๆ ในบทความนี้
6 ปัจจัยที่ส่งผลต่อเบี้ยประกันสุขภาพ

