หน้าหลัก เรื่องราวรอบตัว เบิกเงินค่าชดเชยรายวันจากประกันสังคมอย่างไร?

เบิกเงินค่าชดเชยรายวันจากประกันสังคมอย่างไร?

เบิกเงินประกันสังคมอย่างไร?

ในวันที่รายได้สะดุดเพราะเจ็บป่วยหรือประสบอุบัติเหตุ ผู้ประกันตนของประกันสังคมสามารถใช้สิทธิเบิกเงินประกันสังคมเพื่อชดเชยรายได้ที่หายไปได้ โดยจะต้องเบิกในส่วนที่เรียกว่า “เงินทดแทนการขาดรายได้”

แล้วเงินทดแทนการขาดรายได้คืออะไร ผู้ประกันตนมาตราไหนสามารถรับสิทธินี้ได้บ้าง และจะต้องดำเนินการในการเบิกประกันสังคมตามสิทธินี้อย่างไร มาทำความเข้าใจไปพร้อมกันเลย

เงินทดแทนการขาดรายได้คืออะไร?

เงินทดแทนการขาดรายได้คืออะไร?

เงินทดแทนการขาดรายได้ (Daily Compensation Benefit) คือ สิทธิที่ผู้ประกันตนจะได้รับจากสำนักงานประกันสังคม (Social Security Office หรือ SSO) ในกรณีที่ต้องหยุดงานชั่วคราว เพราะเจ็บป่วย อุบัติเหตุ หรือกรณีคลอดบุตร โดยสำนักงานประกันสังคมจะชดเชยรายได้ให้เป็นรายวันตามอัตราที่กำหนดไว้ในกฎหมาย

สิทธิประโยชน์ในส่วนนี้ สามารถช่วยลดภาระทางการเงินของผู้ประกันตนระหว่างที่ไม่สามารถทำงานได้ โดยเงื่อนไขและจำนวนเงินที่ได้รับจะแตกต่างกันตามมาตราที่ผู้ประกันตนเลือกเข้าสู่ระบบ

เจ็บป่วยแบบไหน เบิกเงินประกันสังคมกรณีนี้ได้?

หากเข้ารับการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลตามสิทธิประกันสังคม ผู้ประกันตนก็จะต้องไม่สำรองจ่ายค่ารักษาพยาบาลไป แต่หากเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลนอกสิทธิในกรณีฉุกเฉิน หรือ กรณีอื่นๆ ผู้ประกันตนสามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลที่เข้าเงื่อนไขกับประกันสังคมได้

แต่สำหรับในกรณีเบิกเงินประกันสังคมเพื่อชดเชยรายได้ที่หายไปจากการเจ็บป่วย ประกันสังคมจะชดเชยรายได้ให้ในกรณีที่เจ็บป่วยแบบต้องนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล หรือ ต้องมีใบรับรองแพทย์ยืนยันว่า ผู้ป่วยไม่สามารถทำงานได้ตามช่วงเวลาที่กำหนด

โดยผู้ประกันตนสามารถหยุดพักได้ ครั้งละไม่เกิน 90 วัน และ ไม่เกิน 180 วันต่อปี เว้นแต่ป่วยด้วยโรคเรื้อรัง 6 โรค ดังนี้

  1. อัมพาตที่มีที่มาจากอาการบาดเจ็บของสมอง เส้นเลือดสมองหรือกระดูกสันหลัง
  2. โรคมะเร็ง
  3. โรคไตวายเรื้อรัง
  4. ความผิดปกติของกระดูกหักที่มีภาวะแทรกซ้อน
  5. โรคเอดส์
  6. โรคหรือการเจ็บป่วยอื่นๆ ที่ต้องรักษาตัวนานติดต่อกันเกิน 180 วัน โดยจะต้องมีใบรับรองแพทย์ยืนยันว่าไม่สามารถทำงานได้

ผู้ประกันตนแต่ละมาตรา เบิกเงินประกันสังคมชดเชยรายได้เหมือนกันหรือไม่?

ผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมจะมีด้วยกัน 3 แบบ โดยแต่ละแบบจะมีสิทธิและเงื่อนไขในการเบิกเงินประกันสังคมเพื่อชดเชยรายได้ที่แตกต่างกัน ดังนี้

ผู้ประกันตนมาตรา 33

ผู้ประกันตนมาตรา 33 คือ ลูกจ้างในระบบ หรือ พนักงานประจำของบริษัท ซึ่งตามสิทธิกฎหมายแรงงานแล้วจะสามารถลาป่วยได้ 30 วัน โดยยังได้รับค่าจ้างจากนายจ้างอยู่ 

ผู้ประกันตนตามมาตรา 33 จะไม่มีสิทธิรับเงินทดแทนการขาดรายได้ จนกว่าสิทธิที่ได้รับเงินค่าจ้างนั้นจะสิ้นสุด จึงจะสามารถรับเงินทดแทนการขาดรายได้ดังกล่าวได้ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของบริษัท หรือ ที่ทำงานแต่ละแห่งด้วย ดังนั้น อย่าลืมสอบถามรายละเอียดในกรณีที่มีการเจ็บป่วยมากกว่า 30 วันให้ดี

อธิบายให้เข้าใจง่ายๆ คือ ผู้ประกันตนมาตรา 33 จะสามารถเบิกเงินประกันสังคมในกรณีขาดรายได้ตั้งแต่วันที่ 31 ของการลาป่วยนั่นเอง

สำหรับสิทธิในการเบิกเงินประกันสังคมแล้ว หากผู้ประกันตนมาตรา 33 ส่งเงินสมทบอย่างน้อย 3 เดือน ภายใน 15 เดือนก่อนเจ็บป่วย จะมีสิทธิได้รับ “เงินทดแทนการขาดรายได้” คิดเป็น 50% ของค่าจ้าง แต่ไม่เกิน 15,000 บาท 

โดยการเจ็บป่วยใช้เวลาครั้งละไม่เกิน 90 วัน ซึ่งประกันสังคมจะจ่ายให้ไม่เกินปีละ 180 วัน เว้นแต่ป่วยด้วย 6 โรคเรื้อรังข้างต้น ที่จะจ่ายให้ปีละไม่เกิน 365 วัน

ผู้ประกันตนมาตรา 39

ผู้ประกันตนมาตรา 39 คือ ลูกจ้างที่ลาออกแล้ว แต่ยังคงส่งเงินสมทบประกันสังคมอยู่ โดยผู้ประกันตนมาตรานี้จะไม่ได้มีสิทธิการลาป่วยที่ได้รับเงินค่าจ้างเหมือนกับผู้ประกันตนมาตรา 33 

หากผู้ประกันตนมาตรา 39 เจ็บป่วย และ ส่งเงินสมทบมาอย่างน้อย 3 เดือน ภายใน 15 เดือนก่อนเจ็บป่วย ก็จะสามารถเบิกเงินประกันสังคมในส่วนของเงินทดแทนการขาดรายได้ จำนวน 50% คิดจากฐานการคำนวณเงินสมทบ 4,800 บาท

เช่นเดียวกับผู้ประกันตนมาตรา 33 ที่การเจ็บป่วยจะใช้เวลาครั้งละไม่เกิน 90 วัน และประกันสังคมจะจ่ายให้ไม่เกินปีละ 180 วัน 

ผู้ประกันตนมาตรา 40

ผู้ประกันตนมาตรา 40 คือ ผู้ทำอาชีพอิสระ หรือ ฟรีแลนซ์ ที่สามารถเลือกได้ว่าจะรับสิทธิความคุ้มครองของประกันสังคมหรือไม่

โดยหากเลือกรับสิทธิประกันสังคม ผู้ประกันตนมาตรา 40 จะต้องเลือกส่งเงินสมทบ ซึ่งสามารถเลือกได้ 3 ทาง

เงื่อนไขผู้ประกันตนทางเลือกที่ 1ผู้ประกันตนทางเลือกที่ 2ผู้ประกันตนทางเลือกที่ 3เงื่อนไขรับความคุ้มครอง
จำนวนเงินสมทบส่งเงินสมทบ70 บาท/เดือนส่งเงินสมทบ100 บาท/เดือนส่งเงินสมทบ300 บาท/เดือนส่งเงินสมทบมาแล้วอย่างน้อย 3 เดือน 
ภายในระยะเวลา 4 เดือนก่อนวันที่เจ็บป่วย
ป่วยแบบ IPDนอนพักรักษาตัว 1 วันขึ้นไปชดเชย 300 บาท/วัน
ป่วย OPDแต่มีใบรับรองแพทย์ให้หยุดพักรักษาตัวตั้งแต่ 3 วันขึ้นไปชดเชย 200 บาท/วัน
ป่วย OPDมีใบรับรองแพทย์ชดเชย 50 บาท/วันไม่เกิน 3 ครั้ง/ปีไม่คุ้มครอง
ระยะเวลารับเงินสูงสุด30 วัน30 วัน90 วัน

สรุปสิทธิการเบิกเงินประกันสังคมเพื่อชดเชยรายได้

รายละเอียดผู้ประกันตนมาตรา 33ผู้ประกันตนมาตรา 39ผู้ประกันตนมาตรา 40
คือใครลูกจ้างในระบบลูกจ้างที่ลาออกแล้วแต่ยังส่งเงินต่ออาชีพอิสระฟรีแลนซ์ที่ส่งเงินสมทบ
ความคุ้มครองตามกฎหมายแรงงาน ลาป่วยได้ 30 วันแบบมีรายได้
วันที่ 31 ที่ป่วย เบิกเงินประกันสังคมได้
คิดเป็น 50% ของค่าจ้าง แต่ไม่เกิน 15,000 บาท
50% คิดจากฐานการคำนวณเงินสมทบ 4,800 บาทตามทางที่เลือกส่งเงินสมทบ
เงื่อนไขส่งเงินสมทบอย่างน้อย 3 เดือน ภายใน 15 เดือนก่อนเจ็บป่วยส่งเงินสมทบมาแล้วอย่างน้อย 3 เดือน 
ภายในระยะเวลา 4 เดือนก่อนวันที่เจ็บป่วย
ป่วยครั้งละไม่เกิน 90 วันปีละไม่เกิน 180 วัน ยกเว้น 6 โรคเรื้อรังไม่เกิน 365 วันคุ้มครองตามการเจ็บป่วย ตามทางที่เลือกส่งเงินสมทบ
เบิกเงินประกันสังคมชดเชยรายได้ ใช้เอกสารอะไรบ้าง?

เบิกเงินประกันสังคมเพื่อชดเชยรายได้ ใช้เอกสารอะไรบ้าง?

ผู้ประกันตนแต่ละมาตราจะใช้เอกสารในการเบิกเงินประกันสังคมในกรณีชดเชยรายได้ที่แตกต่างกัน ดังนี้

เอกสารที่ต้องใช้ผู้ประกันตนมาตรา 33ผู้ประกันตนมาตรา 39ผู้ประกันตนมาตรา 40
แบบคำขอประโยชน์ทดแทนสปส.2-01สปส.2-01สปส. 2-01/ม.40
บัตรประจำตัวประชาชน✔️✔️✔️
สำเนาบัตรประกันสังคม เฉพาะต่างชาติ/ต่างด้าวเฉพาะต่างชาติ/ต่างด้าวเฉพาะต่างชาติ/ต่างด้าว
สำเนาหนังสือเดินทาง (Passport) หรือสำเนาหนังสือเดินทางชั่วคราว หรือเอกสารรับรองบุคคลที่ทางราชการออกให้เฉพาะต่างชาติ/ต่างด้าวเฉพาะต่างชาติ/ต่างด้าวเฉพาะต่างชาติ/ต่างด้าว
ใบรับรองแพทย์ตัวจริงที่ระบุวันหยุดงาน✔️✔️
ใบรับรองแพทย์ตัวจริง หรือ สำเนาเวชระเบียน เซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง พร้อมประทับตราสถานพยาบาล✔️
หนังสือรับรองของนายจ้าง✔️
สถิติวันลาป่วยที่เกี่ยวข้อง✔️
กรณีเปลี่ยนชื่อ ชื่อสกุลให้แนบสำเนาเอกสารใบเปลี่ยนชื่อ ชื่อสกุล✔️✔️✔️
สำเนาสมุดบัญชีธนาคาร ประเภทออมทรัพย์หน้าแรก  ที่มีชื่อและและเลขที่บัญชี✔️✔️✔️

มีประกันสังคมแล้ว อย่ามองข้ามประกันสุขภาพเพิ่มเติม

แม้ประกันสังคมจะให้ความคุ้มครองพื้นฐานในกรณีเจ็บป่วยและชดเชยรายได้ แต่ “ค่ารักษาพยาบาล” ในปัจจุบันกลับสูงเกินกว่าที่ประกันสังคมจะรองรับได้ทั้งหมด หลายคนจึงต้องใช้เงินเก็บที่ตั้งใจไว้สำหรับเป้าหมายอื่นมาใช้จ่ายเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน

วัยทำงานไม่มีประกันสุขภาพควรรู้

เพื่อให้แผนสุขภาพของคุณครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ลองอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ สิทธิประกันสังคมที่คนวัยทำงานควรรู้ แล้วเสริมด้วยประกันสุขภาพส่วนตัวที่เลือกได้ตามงบและไลฟ์สไตล์ประกันสุขภาพซันเดย์ พร้อมดูแลคุณด้วยความคุ้มครองแบบเหมาจ่าย ทั้ง IPD และ OPD ด้วยเบี้ยเริ่มต้นไม่ถึง 20,000 บาท* ครอบคลุมค่าห้องสูง และโรงพยาบาลชั้นนำทั่วไทย เช็กเบี้ยประกันสุขภาพได้ง่าย ๆ ใช้แค่ “วันเดือนปีเกิด” ไม่ต้องกรอกข้อมูลติดต่อใด ๆ ให้ยุ่งยาก

ประกัน opd ราคา
Share this article
Shareable URL
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง

สรุปสิทธิประกันสังคม วัยทำงานไม่มีประกันสุขภาพควรรู้

เมื่อเริ่มงานใหม่ หลายบริษัทมักมีข้อกำหนดให้พนักงานต้องผ่านช่วงทดลองงานก่อนถึงจะได้รับสวัสดิการประกันสุขภาพ หรือ…
วัยทำงานไม่มีประกันสุขภาพควรรู้

รู้จักกับ Vacation Guilt ลางานแล้วรู้สึกผิด พร้อมวิธีปรับตัวแบบมือโปร

ลางานแล้วรู้สึกผิดเกิดจากอะไร ต้องปรับตัวอย่างไรดี? มีใครเป็นแบบนี้บ้าง? ทำงานหนักมาตลอดทั้งปี…

รวมไอเดียของขวัญคริสต์มาสเพื่อสุขภาพโดนใจคนให้ ถูกใจคนรับ

รวมของขวัญคริสต์มาสเพื่อสุขภาพ จะให้เพื่อนหรือแฟนก็เลิศ! เริ่มมีอากาศเย็น ๆ มาให้สัมผัสกันในช่วงปลายปี…
health-focused-christmas-gift-ideas-for-everyone

อาการแพ้แอลกอฮอล์เป็นอย่างไร อันตรายแค่ไหน พร้อมวิธีแก้

คนแพ้แอลกอฮอล์มีอาการเป็นอย่างไรบ้าง?  อาการแพ้แอลกอฮอล์หรือแพ้เหล้าเป็นอาการที่พบได้ไม่มาก…
alcohol-allergy-symptoms-risks-and-solutions
0
Share