รู้จักกับประวัติชาเขียว เครื่องดื่มสุดฮิตที่หลายคนหลงรัก
ชาเขียวหรือ Ryokucha ( 緑茶 ) เป็นเครื่องดื่มที่มีประวัติยาวนานมากกว่าสี่พันปีเลยทีเดียว โดยมีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีน ไม่ใช่ประเทศญี่ปุ่นตามที่หลาย ๆ คนเข้าใจกัน จนในช่วงที่ชาเขียวได้รับความนิยมเป็นอย่างมากสมัยราชวงศ์ถัง (ค.ศ. 618 – 906) ก็ทำให้มีการนำดอกไม้และสมุนไพรอื่น ๆ มาทำเป็นชาที่หลากหลายมากขึ้น ทำให้มีการดื่มชากันเป็นวงกว้างมากกว่าเดิม
ในช่วงต้นของยุคเฮอังในญี่ปุ่น ก็มีการนำชาเขียวเข้ามาในประเทศญี่ปุ่น ทำให้เริ่มมีการปลูกชาเขียวและบริโภคชาเขียวมากขึ้นหลังจากนั้นมา มีการใช้ชาเขียวในพิธีสำคัญต่าง ๆ มากมาย จนกลายมาเป็นหนึ่งในเครื่องดื่มที่ใครไปญี่ปุ่นก็ต้องขอลองชิมชาเขียวญี่ปุ่นกันสักหน่อย โดยเฉพาะมัทฉะ ที่ดังไปทั่วโลก
สำหรับในไทยเอง ก็ต้องบอกว่าเครื่องดื่มชาเขียวหลากหลายรูปแบบได้รับความนิยมสูงไม่แพ้จีนและญี่ปุ่นเลยทีเดียว สังเกตได้จากเครื่องดื่มแบบบรจุขวดหลากหลายยี่ห้อ รวมไปถึงคาเฟ่ที่ขายชาเขียวโดยเฉพาะก็มีให้เห็นมากมาย
ชาเขียวมีกี่ประเภท?
สำหรับคนที่ไม่ได้ดื่มชาเขียวเป็นประจำ ก็อาจจะมีภาพจำว่าชาเขียวคือชาใส ๆ ที่มีน้ำสีเหลืองทองหรือน้ำตาลอ่อน ๆ มีรสฝาดนิด ๆ แต่อาจจะไม่รู้ว่าชาเขียวมีกี่ประเภทและมีแบบไหนบ้างที่อาจจะกลายมาเป็นเครื่องดื่มยืนหนึ่งในใจได้ ซันเดย์จะพาไปรู้จักกับประเภทของชาเขียวกัน
- เกียวคุโระ (Gyokuro) ชาเขียวที่ดีที่สุดในโลก ถูกปลูกภายใต้ร่มเงาแทนการปลูกลางแจ้งแบบเต็ม ๆ โดยเฉพาะในช่วงก่อนเก็บเกี่ยว จะมีการลดแสงลงมากถึง 90% เพื่อทำให้ใบชาผลิตคลอรอฟิลด์มากยิ่งขึ้น เพิ่มความหอม สีสวย และรสชาติที่เข้มข้น
- มัทฉะ (Matcha) เป็นใบชาเขียวคุณภาพดีที่ถูกบดเป็นผงละเอียด มักจะนำมาชงเป็นเครื่องดื่มหรือใช้ในการทำของหวานประเภทต่าง ๆ รสชาติอาจจะมีความขมเล็กน้อย แต่กลมกล่อมและหอมสุด ๆ เลยทีเดียว
- เซนฉะ (Sencha) เป็นชาเขียวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศญี่ปุ่น โดดเด่นด้วยรสชาติที่ติดขมเล็ก ๆ และกลิ่นหอมสดชื่นที่คนส่วนมากให้การยอมรับว่ากำลังพอดี ไม่มากไม่น้อยจนเกินไป แถมยังมีหลากหลายสายพันธุ์ให้ลองดื่มอีกด้วย
- เก็นไมฉะ (Genmaicha) หรือชาเขียวข้าวคั่ว หนึ่งในชาที่ร้านอาหารญี่ปุ่นในไทยก็เสิร์ฟคู่กับอาหารบ่อย ๆ ชาประเภทนี้จะเป็นการผสมผสานกันระหว่างใบชาหอม ๆ และข้าวคั่วญี่ปุ่น ทำให้ได้น้ำชากลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ พร้อมความขมเล็ก ๆ และกลิ่นคั่วหอม ๆ จากข้าวคั่วด้วยเช่นกัน
- โฮจิฉะ (Houjicha) เป็นชาสีน้ำตาล เกิดจากการนำใบชาไปคั่วด้วยความร้อนสูง แล้วนำมาบดให้ละเอียด รสชาติจะขมน้อยกว่ามัทฉะ และมีคาเฟอีนน้อยกว่าชาเขียวประเภทอื่น ๆ ทำให้สามารถดื่มได้ทุกเพศทุกวัย
ประโยชน์ของชาเขียว ที่มีมากกว่าแค่ความอร่อย
นอกจากกลิ่นหอม ๆ และความสดชื่นที่ได้จากการดื่มชาเขียวแล้ว ข้อดีของชาเขียวก็ยังมีอีกเยอะมาก จนทำให้เป็นหนึ่งในเครื่องดื่มทางเลือกสำหรับคนรักสุขภาพเลยนะ ไม่ว่าจะเป็น
- มีคาเทชินที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องเซลล์ในร่างกายจากความเสียหาย
- ช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญให้กับร่างกาย
- ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดี
- ช่วยลดคอเลสเตอรอล ลดความดันโลหิต และลดการอุดตันของหลอดเลือด
นอกจากนี้ก็ยังข้อดีของชาเขียวก็ยังมีอีกมากมาย สำหรับคนที่ดื่มชาเขียวเป็นประจำและพอเหมาะ ก็ถือว่ามีตัวช่วยในการดูแลสุขภาพได้ดีเลยทีเดียว
ข้อเสียของชาเขียว
หากเราดื่มชาเขียวมากหรือน้อยจนเกินไป รวมถึงดื่มด้วยวิธีผิด ๆ ก็จะทำให้ร่างกายได้รับประโยชน์ที่ไม่มากพอ และอาจจะส่งผลเสียต่อร่างกายได้ด้วยเช่นกัน
- หากดื่มชาเขียวเป็นจำนวนมาก อาจจะทำให้ใจสั่นและนอนไม่หลับได้
- หากดื่มตอนท้องว่าง อาจจะทำให้แสบร้อนกลางอก และเกิดการระคายเคืองในระบบทางเดินอาหารได้
- อาจส่งผลโดยตรงกับความดันโลหิต ทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้นได้
ทางที่ดีคือการดื่มชาเขียวในปริมาณที่พอเหมาะ หากมีโรคประจำตัว ก็ควรศึกษาความเหมาะสมเกี่ยวกับการดื่มชาเขียวก่อน เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง
ประกันโรคร้ายแรงออนไลน์ของซันเดย์ดีไหม แผนไหนดี?
ดื่มชาเขียวยังไงให้ได้ประโยชน์สูงสุด
สุดท้ายนี้ ซันเดย์มีข้อสรุปดี ๆ เกี่ยวกับการดื่มชาเขียวให้ได้ประโยชน์สูงสุดมาให้ด้วยนะ ไม่ว่าจะเป็น
- เลือกดื่มชาเขียวที่ไม่มีสารปรุงแต่ง ไม่เติมน้ำตาล
- เลือกดื่มชาเขียวที่ไม่เติมนม เพราะนมจะทำให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารจากชาเขียวได้น้อยลง
- ดื่มชาเขียวระหว่างมื้ออาหาร ทำให้อิ่มเร็วขึ้น
- ดื่มชาเขียวหลังจากชงเสร็จใหม่ ๆ เพราะความร้อนจะทำลายสารต้านอนุมูลอิสระในชาเขียว
ใครที่เพิ่งเริ่มเข้าสู่โลกของชาเขียว วันนี้ก็น่าจะได้รู้จักกับชาเขียว มัทฉะและสรรพคุณต่าง ๆ กันไปแล้ว รวมถึงวิธีดื่มชาเขียวให่ได้ประโยชน์สูงสุดด้วย ต่อไปนี้ซันเดย์แนะนำให้ออกไปตะลุยร้านชาเขียว เพื่อลิ้มรสชาหลากหลายประเภท แล้วหาชาที่ชอบกันเลย!
ซันเดย์ มาพร้อมกับประกันสุขภาพหลากหลายแผนให้คุณได้เลือก คุ้มครองครบตั้งแต่การรักษาตัวที่ต้องนอนโรงพยาบาล การพบแพทย์เพื่อนำยากลับมารักษาตัวต่อ หรือ แม้แต่การปรึกษาแพทย์และเภสัชกรออนไลน์ หรือ การรับยาที่ร้านขายยาในเครือข่าย ก็รับความคุ้มครองได้ โดยไม่ต้องสำรองจ่าย เช็กเบี้ยประกันสุขภาพที่เหมาะกับตัวเองได้ง่ายๆ ใช้แค่ “วันเดือนปีเกิดของคุณ” เท่านั้น
อยากใช้ซูเปอร์แอปฯ Jolly by Sunday ต้องทำอย่างไร?
หากคุณเป็นอีกคนที่อยากใช้ซูเปอร์แอปฯ Jolly by Sunday แอปประกันที่ตอบโจทย์ความต้องการทุกอย่างได้ครอบคลุมแบบนี้ สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันมาใช้งานได้ในทันที ผ่าน App Store หรือ Google Play Store แล้วอย่าลืมติดตามข่าวสารและโปรโมชันดีๆ จากซันเดย์ในทุกๆ วันของคุณ