8 เทคนิค ขับรถเที่ยวไป ทำงานไป แบบ “ฟรีแลนซ์นักเดินทาง”

8-เทคนิค-ขับรถเที่ยวไป-ทำงานไป-แบบฟรีแลนซ์นักเดินทาง

สไตล์การทำงานแบบ “ฟรีแลนซ์” จัดเป็นไลฟ์สไตล์ที่คนรุ่นใหม่ส่วนใหญ่แอบฝันถึงเพราะมีอิสระด้านเวลา ทำงานได้จากทุกที่ เมื่อไม่ต้องเข้าออฟฟิศ ก็ออกไปใช้ชีวิต ท่องเที่ยวได้ตามใจในสไตล์ “ฟรีแลนซ์นักเดินทาง” เที่ยวไป ทำงานไป กำหนดชีวิตตัวเองได้ แต่ความเป็นจริงไม่สวยหรูเสมอไป เพราะบรรดางานจะคอยตามติดไปทุกที่ เหมือนมี Deadline พกใส่กระเป่าไปเที่ยวด้วย ดังนั้นการจะเป็นฟรีแลนซ์จึงต้องมีความรับผิดชอบสูง และบริหารเวลาเก่งๆ ไม่งั้นทั้งงานทั้งชีวิตส่วนตัว จะเสียได้ง่ายกว่า พนง.ประจำ ที่มีกรอบเวลาเข้างาน-เลิกงานชัดเจนเสียอีก

ข่าวดีคือ เรามีทิปเล็กๆน้อยๆ ให้คุณทำงานเสร็จได้เร็วอย่างมีประสิทธิภาพ และมีเวลาเหลือ ทำให้การทำงานแบบ เที่ยวไป ทำงานไป เป็นจริงได้ดังนี้

8-เทคนิค-ขับรถเที่ยวไป-ทำงานไป-แบบฟรีแลนซ์นักเดินทาง-2

1.จัดประเภทงานก่อน

ก่อนเริ่มงาน ต้องแบ่งงานให้ชัดเจน งานไหนต้องใช้อินเตอร์เน็ต งานไหนไม่ใช้จะได้หาที่ทำงานที่มีสัญญาณ Wifi ทำให้เรียบร้อย เช่น ตามคาเฟ่ร้านกาแฟ เมื่อเหลืองานที่สามารถใช้แค่สมองกับสองมือทำได้ ค่อยพกติดตัวไว้ทำที่อื่นก็ยังได้


2.ขับรถอยู่ ใช้ “หู” ทำงานไปก่อน

เมื่อออกเดินทาง เวลาส่วนมากมักหมดไปกับการขับรถ จะดีกว่ามั้ย ถ้าเราสามารถนำเวลาเดียวกันมาใช้ทำงานได้ โดยเฉพาะงานสร้างสรรค์หรืองานเขียน ส่วนมากมักมีขั้นตอนแรก คือการทำความเข้าใจกับโจทย์ ลองโหลดคลิป Youtube ในเรื่องที่เกี่ยวกับงานที่ต้องทำ ไว้ฟังขณะขับรถ เพื่อสะสมวัตถุดิบข้อมูล ให้สมองได้ตกผลึก เมื่อเปิดคอมอีกทีจะได้พร้อมลุยงานได้ทันที


3.วางแผน และ ท้าทายตัวเอง

อย่างที่เกริ่นไว้ว่า ฟรีแลนซ์ไม่ได้มีเวลาทำงานชัดเจน เพราะฉะนั้นต้องวางแผนงานให้ดี งานไหนยาก ให้เลือกทำเป็นอย่างแรกในตอนเช้าที่สมองยังมีพลังเต็มเปี่ยม และอาจท้าทายตัวเองด้วยการกำหนดกรอบเวลาให้ชัดเจนว่า กี่นาทีต้องได้งานแค่ไหน เช่น อาจใช้ Pomodoro Technique ที่ใช้ หลักการหั่นงานใหญ่ออกเป็นงานย่อยๆที่ต้องทำให้เสร็จในทุก 25 นาที เป็นต้น ค่อยๆทำจากเล็กไปใหญ่ ไม่นานงานก็เสร็จ

ซื้อประกันสุขภาพเหมาจ่าย

4.แอพพลิเคชั่นช่วยได้

จากข้อ 3 มีแอพพลิเคชั่นบางตัวที่สามารถช่วยได้ เช่น แอพประเภท Productive หรือ to do list ที่ช่วยให้เราวางแผน จัดเวลางานได้เป็นระบบมากขึ้น เช่น Anydo, Wunderlist หรือ Clear Focus ที่ช่วยจับเวลา ตั้งเตือนช่วงเวลาทำงานให้เรามีสมาธิตัดขาดจากสิ่งรบกวนชั่วคราว


5.ลิสต์เพลงกระตุ้นพลัง Productive

ช่วงที่เราสามารถทำงานเสร็จได้อย่างไหลลื่นที่สุด คือช่วงที่มีสมาธิ หรือช่วง Deep Work สภาพแวดล้อมในการทำงานจึงสำคัญมากโดยเฉพาะเรื่องเสียง เพราะถ้ามีแต่เสียงรบกวนจากภายนอกคงทำสมาธิได้ยาก เพราะฉะนั้น เตรียมหูฟังไว้ให้ดี พร้อมลิสต์เพลงที่ช่วยกระตุ้นพลัง Productive ให้ตัวเองทำงานได้มากขึ้น ถ้าเป็นงานเขียน แนะนำให้ฟังเพลงที่ไม่มีเนื้อร้องหรือเป็นดนตรีบรรเลง จะได้กวนความคิดจนเกินไป


6.เตรียมเสบียงอย่าให้พร่อง

งานที่ต้องใช้ความคิด จะใช้พลังงานสมองเยอะ ทำได้ไม่กี่ชม.ก็หิว พอท้องว่าง หัวย่อมไม่แล่น ความคิดและสปีดการทำงานก็จะพากันฝืดไปหมด เพราะฉะนั้นของกินเล่นต้องเตรียมไว้ให้พร้อม งานก็จะลื่นขึ้นมากแต่ระวังอย่าให้เป็นอาหาร Junk Food มากไปล่ะ


7.พักเบรก ยืดเส้นยืดสาย ทำสมาธิ

ถึงไม่ได้ทำงานในออฟฟิศ แต่ถ้านั่งหักโหมทำงานทั้งวันก็อาจเสี่ยงเป็น Office Syndrome ได้ เมื่อทำมาได้ตามแผนที่ตั้งใจไว้ ก็หาจังหวะพักเบรก ยืดเส้นยืดสายให้ร่างกายได้ผ่อนคลายบ้าง หรือ จูนสติให้เข้าที่ด้วยการนั่งหลับตาทำสมาธิสักพัก ก็ยิ่งช่วยเพิ่มพลังให้ทำงานต่อได้ดี


8.ที่สำคัญ! เตรียมแบตสำรองหรือที่ชาร์จแบตฯ ไว้ให้พร้อมทั้งคอมทั้งมือถือ

ถ้าแบตหมดระหว่างทาง แผนที่เตรียมไว้ข้ออื่นๆ ก็เป็นอันหมดกันโดยปริยาย


หวังว่าเทคนิคทั้ง 8 ข้อที่เราแนะนำ จะพอช่วยให้คุณทำงานได้เสร็จเร็วขึ้น จะได้มีเวลาไปท่องเที่ยวได้อย่างอิสระอย่างแท้จริง แต่อย่างไรก็ตาม อย่าลืมแบ่งเวลาให้คนรอบข้างด้วย เพราะอย่าลืมว่าชีวิตนี้ไม่ได้มีแต่งานและการเดินทางอย่างเดียว นอกจากนี้ก็อย่าลืมประกันรถยนต์จาก Sunday ที่จะดูแลคุณเวลาขับรถ เช็คเบี้ยง่ายๆ แค่ปลายนิ้ว

แนะนำแผนประกัน ทำไมประกันซันเดย์ถึงแตกต่าง

ราคาเบี้ยประกันที่ถูกลง

อันเป็นผลจากเทคโนโลยีประมวลผลและวิเคราะห์ข้อมูลความเสี่ยงด้วย Artificial Intelligence (AI) ทำให้เราประเมินความเสี่ยงของคุณได้ใกล้เคียงความเป็นจริงที่สุด คุณจึงไม่ต้องจ่ายประกันราคาแพงโดยไม่จำเป็น นอกจากนี้ คุณยังปรับเปลี่ยนความคุ้มครองเองได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่มีประกันเจ้าใดให้คุณทำมาก่อน

เคลมออนไลน์ เคลมเร็ว

เราผนวกแพล็ตฟอร์มดิจิทัลหลากหลาย จะเรียกเคลม แจ้งอุบัติเหตุ เช็คสถานะการเคลม จองคิวรับรถ เช็คสถานะการซ่อม ต่อกรมธรรม์ ทั้งหมดทำได้ง่ายๆ ผ่านมือถือด้วย ซูเปอร์แอปฯ Jolly by Sunday (ดาวน์โหลดได้ที่ Apple Store และ Google Play Store) หรือเคลมแบบ Live Streaming ผ่าน LINE @easysunday ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

บริการรับส่งรถถึงที่ ส่งฟรีถึงบ้าน การันตีซ่อมเสร็จใน 7 วัน

พร้อมรับประกันอะไหล่ซ่อม 1 ปี


ซื้อประกันสุขภาพเหมาจ่าย