เปิด 7 เคล็ดลับสู่การเป็นฟรีแลนซ์มืออาชีพ
ต้องบอกว่าในยุคนี้การจะมีอาชีพและรายได้ที่มั่นคงแตกต่างจากเมื่อก่อนอย่างมาก เพราะเราไม่จำเป็นต้องเข้าออฟฟิศและมีงานประจำอีกต่อไป แค่มีแล็ปท็อปสักเครื่องและอินเทอร์เน็ต ก็สามารถทำงานจากที่ไหนก็ได้แล้ว ซึ่งอาชีพที่กำลังพูดถึงนี้ก็คือการเป็นฟรีแลนซ์ (Freelancer) ที่คุณสามารถเลือกทำงานจากที่ไหนก็ได้ แถมยังสามารถรับงานได้จากหลายบริษัทอีกด้วย แต่การจะเป็นฟรีแลนซ์ที่ประสบความสำเร็จได้นั้น แน่นอนว่าจะต้องมีทักษะอาชีพฟรีแลนซ์ด้วยเช่นกัน ในบทความนี้เราเลยอยากจะมาแนะนำ 7 เคล็ดลับ สู่การเป็นฟรีแลนซ์มืออาชีพกัน
1. สร้าง Personal Branding
การจะเป็นฟรีแลนซ์ที่น่าเชื่อถือนั้น เราก็ควรจะสร้าง Personal Branding หรือที่เรียกว่าการสร้างแบรนด์บุคคล ซึ่งเป็นการนำเอาตัวบุคคลมาเป็นตัวแทนภาพลักษณ์ และบ่งบอกตัวตนของคุณให้ลูกค้ารับรู้ โดยคุณสามารถนำเอกลักษณ์เฉพาะตัวของคุณออกมาแสดงผ่านเว็บไซต์ของคุณก็ได้ หรือจะเป็นการทำคอนเทนต์ Linkedin ก็ดี รวมถึงการทำแฟ้มสะสมผลงานและลงโปรโมตบนเว็บไซต์ก็น่าสนใจเช่นกัน
2. ทำโปรแกรม Referral
หากถามว่าเป็นฟรีแลนซ์หางานจากที่ไหนกัน? ก็ต้องบอกว่านอกจากจะลงประกาศในเว็บไซต์หางานของฟรีแลนซ์หรือยิงโฆษณาแล้ว การทำโปรแกรม Referral ก็เป็นหนึ่งในวิธีการทำการตลาดที่ได้รับความนิยมและทำให้คุณสามารถดึงดูดลูกค้ามาได้แบบไม่ยาก เพราะการทำ Referral โปรแกรมนั้น ก็เปรียบเสมือนการบอกปากต่อปาก และเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าว่าบริการของคุณนั้นดีจริง แถมยังเป็นการสร้างความน่าเชื่อถืออีกด้วย
3. ส่งงานตาม Deadline
หนึ่งในทักษะอาชีพฟรีแลนซ์ที่สำคัญอย่างมากเลยก็คือการจัดการเวลา โดยเฉพาะหากคุณรับหลายงานหรืออาจจะไม่ได้ทำงานตามเวลาแบบทำงานออฟฟิศ ก็ต้องยิ่งจัดการเวลาให้ดี และมอบหมายงานให้กับลูกค้าตามที่ตกลงไว้
4. ทำเอกสารใบแจ้งหนี้และใบเสร็จให้เรียบร้อย
อีกหนึ่งเคล็ดลับของการเป็นฟรีแลนซ์มืออาชีพก็คือการทำเอกสารใบแจ้งหนี้หรือใบเสร็จให้ดูเป็นมืออาชีพ เพราะแน่นอนว่าเราไม่ได้เป็นพนักงานบริษัทที่จะมีทีมที่สามารถจัดการดูแลเรื่องการออกบิลต่างๆ ให้เราได้ แนะนำว่าให้ลองใช้โปรแกรมทำเอกสารใบแจ้งหนี้และใบเสร็จ เช่น Peak Account, Flow Account, Thaiware ฯลฯ เพียงเท่านี้คุณก็สามารถจัดการกับเอกสารต่างๆ ได้อย่างมืออาชีพในเวลาอันรวดเร็ว
5. ค่าแรงต้องสมเหตุสมผลกับบริการ
การเป็นฟรีแลนซ์มืออาชีพนั้นใช่ว่าจะตั้งค่าแรงเท่าไรก็ได้ แต่ควรจะต้องตั้งค่าแรงอย่างสมเหตุสมผล ซึ่งหนึ่งในวิธีหาลูกค้าออนไลน์ให้ได้เยอะๆ ก็คือราคาที่ไม่สูงจนเกินไป ทั้งนี้ทั้งนั้น หากเรามีทักษะที่สูง การจะตั้งค่าแรงที่สูงก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร แต่หากอยากได้ค่าตอบแทนที่สูง แต่เรายังไม่ได้มีทักษะที่สูงมากนัก ก็ควรจะหันมาพัฒนาสกิลล์ของตัวเองก่อน รับรองว่ารายได้ตามมาอย่างแน่นอน
6. พัฒนาเรื่องการสื่อสาร
การสื่อสารนั้นเป็นทักษะสำคัญที่ไม่น้อยไปกว่าทักษะอื่นเลย เพราะการสื่อสารเป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้ลูกค้าและฟรีแลนซ์เองเกิดความเข้าใจกัน ซึ่งหาก Freelancer มีการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากจะเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือแล้ว ก็ยังเป็นการโน้มน้าวใจให้ลูกค้าตัดสินใจเลือกใช้บริการกับเราอีกด้วย ซึ่งการพัฒนาการสื่อสารนั้นสามารถพัฒนาได้ด้วยตัวเอง โดยการฝึกสื่อสารให้ตรงประเด็น พยามทำความเข้าใจลูกค้า และสื่อสารออกไปว่าเราจะช่วยแก้ไขปัญหาของลูกค้าได้อย่างไร หรือการลงคอร์สพัฒนาการสื่อสารก็เป็นอีกวิธีที่น่าสนใจเช่นกัน
7. เปิดการรีวิวบนเว็บไซต์
จากข้อมูลของ Zendesk หรือบริษัทให้คำปรึกษาด้านการบริการลูกค้าเปิดเผยข้อมูลว่า 95% ของผู้บริโภคหรือลูกค้าจะทำการอ่านรีวิวก่อนตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการ ดังนั้นการเปิดรีวิวบนเว็บไซต์หรือช่องทางอื่นๆ ของเราก็จะช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจเลือกใช้บริการได้ง่ายขึ้น แถมยังเป็นวิธีการที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายมากมายอีกด้วย
ใครที่กำลังลังเลอยู่ว่าจะออกมาทำงานฟรีแลนซ์แบบเต็มตัวดีไหม ก็อาจเริ่มจากการรับงานทีละน้อยและพัฒนาทักษะไปเรื่อยๆ เพราะวิธีการหาลูกค้าออนไลน์สำหรับชาวฟรีแลนซ์นั้นไม่ยากเลย เพียงแค่ต้องพัฒนาทักษะของตัวเองและทำ Personal Branding ร่วมด้วย เพราะหากเรามีความเชี่ยวชาญในสิ่งที่เราทำ แน่นอนว่าใครๆ ก็ต้องอยากมาใช้บริการ ซึ่งจะทำให้เราสร้างรายได้ได้ไม่น้อยไปกว่าการทำงานประจำเลย