Work Life Balance คืออะไร? แล้วเราจะสร้างมันได้อย่างไร?
คนวัยทำงานคงคุ้นหูกันดีกับคำว่า Work Life Balance (เวิร์คไลฟ์บาลานซ์) ที่ถูกพูดถึงกันเป็นวงกว้าง โดยส่วนมากคนมักจะมุ่งเน้นไปที่การจัดสรรเวลาชีวิตให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ เพื่อให้เรามีเวลาสนุกกับสิ่งต่าง ๆ ไปพร้อม ๆ กับการทำงานได้อย่างลงตัว แต่รู้หรือไม่ว่าจริง ๆ แล้วโซเชียลมีเดียและสื่อต่าง ๆ ก็มีส่วนทำให้เราสร้าง Work Life Balance ได้ยากขึ้น? ซันเดย์จะพาทุกคนไปดูกันว่า Work Life Balance คืออะไร แล้วการจัดการกับสื่อออนไลน์ จะช่วยทำให้เราสร้าง Work Life Balance ในแบบที่เราต้องการได้อย่างไรบ้าง!
Work Life Balance แปลว่าอะไร?
Work Life Balance แปลว่าการใช้ชีวิตที่สมดุลกันระหว่างการทำงานและด้านอื่น ๆ ซึ่งส่งผลทำให้เรามีความสุขทั้งกับการทำงานและการใช้ชีวิตในทุก ๆ วัน เพราะไม่ได้ทำงานหนักจนไม่มีเวลาพัก และยังมีเวลาในการสิ่งอื่น ๆ ที่ชื่นชอบอีกด้วย ใครที่รู้สึกว่าชีวิตทำงานหนักจนเกินไป ไม่มีเวลาได้พักผ่อน หรืออาจจะรู้สึกหมดพลังในการทำงาน ก็อาจจะต้องลองหาว่าจะวิธีเริ่ม Work Life Balance มีอะไรบ้าง จะได้ไปต่อกันไปยาว ๆ
โลกออนไลน์ส่งผลอย่างไรกับ Work Life Balance?
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทุกวันนี้โซเชียลมีเดียและสื่อออนไลน์กลายมาเป็นส่วนสำคัญที่ใหญ่พอตัวในการใช้ชีวิตของคนเรา โดยเฉพาะกับวัยทำงานที่จะต้องติดตามข่าวสารอยู่เสมอ รวมถึงมีการใช้เครื่องมือออนไลน์ในการทำงานด้วย จึงทำให้เกิดแนวคิดที่ว่า หากเราสามารถจำกัดการใช้สื่อออนไลน์ได้ ก็จะช่วยทำให้เราสร้างสมดุลในการใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้นด้วย ไม่ว่าจะเป็น จำกัดการใช้เวลาบนโซเชียลมีเดีย การอ่านข่าวออนไลน์ การตอบอีเมลงานและอื่น ๆ อีกมากมาย
5 วิธีปรับชีวิตออนไลน์ ให้เกิด Work Life Balance
ถ้ารู้ตัวกันแล้วว่าเราเป็นหนึ่งในคนที่ใช้สื่อออนไลน์เยอะมาก ๆ ในแต่ละวัน ทั้งความบันเทิงส่วนตัวตลอดจนไปถึงการทำงาน ซันเดย์มี 5 วิธีปรับการใช้ชีวิตให้เกิด Work Life Balance ด้วยการเริ่มต้นจากสื่อออนไลน์มาฝากกันด้วยนะ
1. จำกัดเวลาในการใช้สื่อออนไลน์
เชื่อไหมว่าการใช้สื่อออนไลน์ทำให้เราเกิดความเครียดมากมายโดยที่ไม่รู้ตัว ไม่ว่าจะเป็นจากการอ่านข่าว หรือแม้กระทั่งการเห็นภาพสวย ๆ ที่คนอื่นโพสต์ก็เช่นกัน เพราะในจิตใจลึก ๆ ของคนเราแล้ว พอเห็นข่าวรอบ ๆ ตัวและได้รับข้อมูลมากเกินไป ก็จะเกิดความเครียดสะสม ทำให้เกิดอาการอื่น ๆ ตามมา เช่น นอนหลับไม่สนิท เป็นต้น
ในขณะเดียวกัน เมื่อเห็นคนอื่น ๆ ไปเที่ยว มีความสุข บางครั้งเราจะมีอาการ FOMO หรือ Fear of Missing Out เกิดขึ้นอยู่ในใจ จะเป็นอาการที่รู้สึกว่า เรากลัวว่าจะตามเทรนด์ไม่ทัน กลัวจะไม่ได้ไปถ่ายรูปที่คาเฟ่นั้น กลัวว่าจะไม่ได้ใส่ชุดของร้านนี้ เมื่อมองเผิน ๆ อาจจะมองว่าเรื่องนี้ไม่มีพิษภัย แต่หากผ่านเวลานาน ๆ ไป ก็สามารถก่อให้เกิดความเครียดได้เหมือนกัน
ดังนั้น เริ่มต้นจัดการตัวเองด้วยการจำกัดเวลาในการใช้สื่อออนไลน์ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี หรือเมื่อไหร่ที่รู้สึกว่าเครียดกับการเสพย์ข่าวต่าง ๆ ก็ควรหยุดพัก ไปอากิจกรรมอย่างอื่นทำจะดีกว่า
2. จำกัดเวลาในการตอบข้อความที่เกี่ยวกับงาน
ซันเดย์เข้าใจว่างานก็เป็นเรื่องสำคัญ แต่จะดีกว่าไหมถ้าเราเลือกสร้างความสมดุลให้กับชีวิตได้ เช่น หลังเวลาเลิกงานแล้ว จะไม่ตอบอีเมลที่เกี่ยวกับงาน หากมีลูกค้าส่งข้อความมาและไม่ใช่เรื่องด่วน ก็ค่อยตอบในช่วงเวลาทำงานของวันถัดไปแทน เรื่องพวกนี้ทำไม่ง่ายเลย เพราะเวลาเราเห็นข้อความที่เกี่ยวกับงาน คนทั่วไปจะรู้สึกว่าต้องตอบ แต่ซันเดย์คิดว่าเรื่องแบบนี้ฝึกกันได้ ค่อยเป็นค่อยไป แล้วจะได้มีความสมดุลในการใช้ชีวิตที่มากขึ้น
3. ใช้เครื่องมือช่วยจัดการเวลา
ปัจจุบันนี้มีเครื่องมือมากมายให้ชาววัยทำงานได้ใช้กัน ทั้งแบบฟรีและแบบเสียเงิน เพื่อจัดการการทำงานให้เป็นระบบมากยิ่งขึ้น เชื่อหรือไม่ว่า ถ้าหากเรามีลิสต์งานที่ต้องทำ พร้อมกับไทม์ไลน์ต่าง ๆ จะช่วยทำให้เราลดอาการวิตกกังวลและความเครียดไปได้เยอะเลยทีเดียว เพราะเรารู้ว่าจะต้องทำอะไรให้เสร็จเมื่อไหร่นั่นเอง
การเลือกใช้เครื่องมือเหล่านี้ยังช่วยทำให้เราสามารถกำหนดเวลาการทำงานได้ชัดเจนมากขึ้น ไม่ต้องห่วงเรื่องตอบอีเมลหรือข้อความหลังเลิกงานอีกด้วย เพราะเรารู้ว่ายังมีเวลาเหลืออีกเท่าไหร่ในการทำงานแต่ละชิ้น
4. การทำดีท็อกซ์จากโซเชียลมีเดีย
การให้เลิกเล่นโซเชียลมีเดียไปเลยมันทำได้ยากกว่าที่คิด เพราะบางคนก็มีงานที่จะต้องเข้าไปทำในโลกออนไลน์มากมาย หากเราอยากจะเริ่มต้นสร้างเวิร์คไลฟ์บาลานซ์จากการเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้สื่อออนไลน์ ก็สามารถทำได้ด้วยการตั้งกฎว่าในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ เราจะออกไปหาอะไรที่เราชอบทำ เช่น เรียนทำขนม ไปคาเฟ่ ไปต่างจังหวัดหรือไปเรียนวาดรูป และจะไม่ใช้สื่อออนไลน์เลยเป็นเวลา 2 วัน เป็นต้น
นอกจากจะทำให้เราได้พักจากความวุ่นวายบนโลกออนไลน์และงานแล้ว ก็ยังทำให้เราได้ออกไปใช้ชีวิต ได้ลองทำสิ่งที่ตัวเองน่าจะชอบหรือสนใจ ค้นพบแรงบันดาลใจใหม่ ๆ และสามารถนำกลับมาใช้ในชีวิตการทำงานได้อีกด้วยนะ
5. แยกบัญชีสำหรับทำงานและส่วนตัว
วิธีสุดท้ายที่ซันเดย์การันตีว่าช่วยทำให้เราสามารถมีความสุขกับการใช้ชีวิตในช่วงเวลาว่างได้มากขึ้นก็คือ การแยกบัญชีทำงานและส่วนตัวออกจากกัน และไม่ล็อกอินบัญชีทำงานเอาไว้ในอุปกรณ์ส่วนตัว หลังเลิกงาน เราจะนั่งดูภาพยนตร์ ดูซีรีส์ หรือจะเล่นเกมก็ทำได้สบาย ๆ ไม่ต้องห่วงเรื่องตอบอีเมลอีกต่อไป
มีเวิร์คไลฟ์บาลานซ์ เพื่อสุขภาพที่ดี
หากเราสามารถทำเรื่องเหล่านี้ได้แล้ว การสร้างเวิร์คไลฟ์บาลานซ์ก็กลายเป็นเรื่องที่ไม่ไกลเกินเอื้อมแล้วล่ะ เมื่อสร้างความสมดุลให้กับการใช้ชีวิตได้ ก็มีเวลาดูแลตัวเองมากขึ้น สุขภาพกายและใจดีขึ้นอย่างแน่นอน มีความบาลานซ์ในการใช้ชีวิตแล้ว ก็อย่าลืมหาตัวช่วยดี ๆ อย่างประกันสุขภาพ เพื่อสร้างความบาลานซ์ด้านการเงินด้วยนะ ลองเลือกซื้อประกันสุขภาพราคาเลิศ ๆ ได้ที่ประกันซันเดย์
หากคุณกำลังมองหาประกันสุขภาพออนไลน์ คุ้มครองทันทีในยามเจ็บป่วย อย่าลืมมาเช็กเบี้ยประกันสุขภาพที่เหมาะกับคุณง่ายๆ ใช้เพียงแค่ “วันเดือนปีเกิดของคุณ” เท่านั้น