หน้าหลัก เรื่องราวรอบตัว ย้อนวัยยุค 90s กับ NOKIA ! พร้อมประวัติจากอดีตถึงปัจจุบัน

ย้อนวัยยุค 90s กับ NOKIA ! พร้อมประวัติจากอดีตถึงปัจจุบัน

หากพูดถึง NOKIA คุณนึกถึงอะไร? วันนี้ NOKIA ได้เริ่มทำการงานจำหน่ายฟีเจอร์โฟน 3 รุ่นเป็นวันแรก ทั้ง 3 รุ่นนั้นได้แรงบันดาลใจและพัฒนาจากรุ่นคลาสสิกต่างๆ ได้แก่ Nokia 8210 4G , Nokia 5710 XpressAudio และ Nokia 2660 Flip ซึ่งแต่ละรุ่นนั้นมีความแตกต่างและน่าสนใจ ตอบโจทย์คนหลากหลายกลุ่ม หวังปลุกกระแสมือถือคลาสสิกให้กลับมา และเอาใจฐานลูกค้าที่ยังใช้แบบใช้ปุ่มมาดูกันว่าแต่ละรุ่นมีฟีเจอร์อะไรน่าสนใจบ้าง 

NOKIA 5710 XPRESSAUDIO วางขายอยู่ที่ราคา 2,690 บาท

ออกแบบมาเพื่อเอาใจคนที่ชื่นชอบการฟังเพลง มีที่เก็บหูฟังไร้สายอยู่ใต้ฝาเลื่อน ตัวหูฟัง earbuds เป็นระบบเชื่อมต่อ Bluetooth 5.0 (สามารถใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟนอื่นๆ ได้อีกด้วย) หน้าจอขนาด 2.4 นิ้ว กล้องหลังความละเอียด 0.3MP คุณภาพวีดีโอ qVGA ตัวเครื่องให้ชิป Unisoc T107​ มาพร้อมหน่วยความจำภายใน 128MB และยังสามารถใส่การ์ด MicroSD เพิ่มได้สูงสุดถึง 32GB

NOKIA 8210 4G วางขายอยู่ที่ราคา 2,290 บาท

พัฒนามาจากรุ่น Nokia 8210 รุ่นปี 1999 หรือปีพ.ศ. 2542 ซึ่งทุกคนน่าจะคุ้นเคยเป็นอย่างดี หน้าจอ 2.8 นิ้ว ทำให้ใช้งานง่าย มีระบบเสียงคมชัด ฟังเพลง MP3 จัดเก็บในเครื่องและ วิทยุ FM ที่สามารถค้นหาคลื่นผ่านตัวเครื่องได้เอง พร้อมแบตเตอรี่ที่อยู่ได้นานเป็นสัปดาห์และแน่นอนเกมงูสุดคลาสสิคที่เคียงคู่มาให้เล่นในตัวเครื่องเช่นเคย

NOKIA 2660 Flip วางขายอยู่ที่ราคา 2,490 บาท

หากพูดถึงคลาสสิคและยุค 90s แน่นอนจะไม่มีมือถือแบบฝาพับก็ไม่ได้ รุ่นนี้มาพร้อมหน้าจอขนาดใหญ่ และอายุการใช้งานแบตเตอรี่สุดอึด และที่สำคัญรุ่นนี้มีฟังก์ชันช่วยฟัง (Hearing Aid Compatibility) เหมาะสำหรับผู้สูงวัยหรือผู้มีความต้องการเป็นพิเศษทางด้านการฟัง

NOKIA จุดเริ่มต้นของผู้นำ ที่กลายเป็นผู้ตาม

ประวัติศาสตร์บริษัท NOKIA ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

NOKIA ก่อตั้งขึ้นปีพ.ศ. 2408 โดย Fredrik Idestam ซึ่งตัวโรงงานนั้นตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำที่มีชื่อว่า Nokianvirta ในประเทศฟินแลนด์ ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจในการตั้งชื่อบริษัท เริ่มต้นจากการเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับโรงงานผลิตเยื่อกระดาษ และก่อนจะเริ่มขยายธุรกิจมาด้านพลังงานไฟฟ้าในปีพ.ศ. 2445 ต่อมาเมื่อปีพ.ศ. 2503 ทางบริษัทเริ่มขยายธุรกิจด้วยการก่อตั้งแผนกอิเล็กทรอนิกส์ และก้าวเข้าสู่วงการธุรกิจสื่อสารในปีพ.ศ. 2522 ภายใต้ชื่อบริษัท Mobira ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่าง NOKIA และ Salora บริษัทผลิตโทรทัศน์ชั้นนำ 

จนขึ้นมาเมื่อปีพ.ศ. 1981 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่แท้จริงของ NOKIA ด้วยการเปิดเครือข่ายโทรศัพท์ที่มีชื่อว่า Nordic Mobile Telephone (NMT) หรือจะเรียกว่าเป็นระบบโทรศัพท์ยุค 1G ก็ยังได้ (ปัจจุบันเราอาจจะคุ้นกับ 5G) และในปีถัดมาทาง NOKIA ก็ได้เปิดตัวโทรศัพท์เคลื่อนที่เครื่องแรกที่ใช้บนรถยนต์ในชื่อรุ่น Mobira Senator 

แม้ว่า NOKIA จะประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก แต่ก็ยังไม่หยุดอยู่เท่านั้นและพัฒนาโทรศัพท์อย่างต่อเนื่อง จนในปีพ.ศ. 2530 ก็ได้เปิดตัวโทรศัพท์มือถือรุ่น Mobira Cityman ที่มีขนาดเล็กลงกว่าเดิม จนสามารถถือได้เพียง “มือเดียว” และขายในราคา 3,400 ปอนด์หรือประมาณ 180,200 บาท

ในปีพ.ศ. 2534 เมื่อนายกรัฐมนตรีประเทศฟินแลนด์ ได้มีนโยบายให้สร้างมาตรฐานเทคโนโลยีโทรศัพท์มือถือขึ้น หรือระบบ GSM ที่ย่อมาจาก Global System for Mobile Communications ที่ถูกสร้างขึ้นด้วยอุปกรณ์ของบริษัท Nokia และได้เปิดตัวโทรศัพท์มือถือรุ่นแรกที่รองรับคลื่น GSM ในชื่อรุ่น Nokia 1011 หรือ Mobira Cityman 2000 ในปีพ.ศ. 2535 ซึ่งสามารถเก็บข้อมูลรายชื่อได้ถึง 99 รายชื่อ แต่แบตเตอรี่ก็มีความจุเพียง 900 mAh ซึ่งสามารถคุยโทรศัพท์ได้นานเพียงชั่วโมงครึ่งหรือสามารถเปิดทิ้งไว้ได้แค่ 15 ชั่วโมง 

เรียกได้ว่าตั้งแต่นั้นมา NOKIA ถือได้ว่าเป็นผู้นำด้านโทรศัพท์มือถือมายาวนานนับสิบปี จนกระทั่งปีพ.ศ. 2550 ฝันร้ายที่ไม่คาดคิดก็ได้เกิดขึ้นกับ NOKIA เมื่อ iPhone รุ่นแรกได้ออกสู่ตลาด พร้อมๆ กับที่ทาง NOKIA ต้องเรียกโทรศัพท์กว่า 46 ล้านเครื่องคืนเพราะพบว่าแบตเตอรี่อาจจะมีข้อผิดพลาด จึงเปิดโอกาสให้ Apple ได้เริ่มแทรกซึมเข้ามา และเริ่มแย่งส่วนแบ่งทางการตลาดไป ถึงขั้นที่ NOKIA ต้องตัดสินใจประกาศปลดพนักงานจำนวน 1,700 อัตราทั่วโลกในปีพ.ศ. 2552 เนื่องจากยอดขายที่ลดลงอย่างรวดเร็วแบบไม่ทันตั้งตัว 

สงครามการการตลาดของสมาร์ทโฟนนั้นเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ Apple และ Samsung แทบจะครอบงำตลาดสมาร์ทโฟนทั้งหมด จน NOKIA ต้องหาทางเอาตัวรอด สุดท้ายจึงจับมือกับ Google Android เพื่อหวังจะแย่งชิงส่วนแบ่งของตลาดคืนมา แต่ก็ยังไม่เป็นผลสำเร็จ จนสุดท้ายทางบริษัทก็ต้องปิดโรงงานผลิตที่ฟินแลนด์และปลดพนักงานออกอีก 4,000 อัตราในปีพ.ศ. 2555

แล้วเหตุใดทำไม NOKIA บริษัทผู้นำยักษ์ใหญ่ถึงได้ร่วงหล่นลงอย่างรวดเร็วขาดนี้? คำตอบอาจจะมาจากหลายๆ ปัจจัยรวมกัน ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาเทคโนโลยีอันก้าวกระโดด สังเกตุได้จากบริษัทสตาร์ทอัพใหญ่ๆ ในปัจจุบันนั้นได้ก่อตั้งขึ้นในช่วงปีดังกล่าว หากแต่ NOKIA นั้นเป็นองค์กรใหญ่ ขั้นตอนต่างๆ จึงมากมายและอาจทำให้เกินความล่าช้า ไอเดียดีๆ ตกหล่นหรือถูกละเลย และการแข่งขันด้านการตลาดที่เข้มข้นเหนือความคาดหมาย ทำให้ตำนานต้องจบลง

แต่ถึงแม้ว่า NOKIA จะฝ่าวิกฤตมานับไม่ถ้วนนับร้อยปี มีทั้งช่วงที่รุ่งที่สุดไปจนถึงตกต่ำที่สุด แต่สุดท้ายก็ยังไม่สามารถทำให้ NOKIA หมดกำลังใจหรือปิดตัวลงได้อย่างสนิท เพราะถึงแม้จะไม่ใช่ผู้นำในตลาดอีกต่อไป ปัจจุบัน NOKIA ก็ได้กลับเข้ามาสู่ตลาดสมาร์ทโฟนอีกครั้งภายใต้การบริหารของ HMD Global และเจาะกลุ่มตลาดกลุ่มที่ต่างออกไป 

เรียกได้ว่าหากไม่มี NOKIA เป็นตัวเปิดทางหรือสร้างหลายๆ สิ่งในอดีต ปัจจุบันเทคโนโลยีสมัยนี้ยังอาจจะไม่มาถึงขั้นนี้ก็เป็นได้ ใครที่ชื่นชอบความเรียบง่ายความคลาสสิกสามารถไปซื้อได้แล้ววันนี้ผ่านร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ และ Nokia Mobile Official Store มีโทรศัพท์มือถือแล้วอย่างลืมซื้อประกัน Sunday Care+ เริ่มต้นเพียง 299 บาท มีไว้อุ่นใจกว่าเพราะไม่ว่าจะตก เปียก หรือพัง ก็ยังสบายใจได้เพราะซันเดย์ปกป้องครอบคลุมทุกปัญหา อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม 👉 คลิกเลย!

Ref : [1] [2] [3] [4]

Share this article
Shareable URL
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง

เปิด 5 ประเทศปลูกชามากที่สุดในโลก ใช่ประเทศที่คิดไหม?

เจาะลึกประเภทชาจากประเทศที่ปลูกชาได้มากที่สุดในโลก ชาร้อน ๆ สักแก้ว หรือจะเป็นชาเขียวเย็น ๆ สักขวดระหว่างวัน…
top-5-tea-producing-countries-in-the-world

ชอบชาเขียวต้องอ่าน! ประโยชน์ของชาเขียว และการดื่มที่ถูกต้อง

รู้จักกับประวัติชาเขียว เครื่องดื่มสุดฮิตที่หลายคนหลงรัก ชาเขียวหรือ Ryokucha ( 緑茶 )…
green-tea-benefits-and-how-to-drink-correctly

อัปเดต 2024! ซื้อประกันลดหย่อนภาษีได้ไหม ลดหย่อนได้เท่าไหร่?

ซื้อประกันลดหย่อนภาษีได้ไหม ประกันประเภทไหนลดหย่อนภาษีได้เท่าไหร่บ้าง? การซื้อประกันที่เหมาะสม…
insurance-and-tax-deduction

Soft Power แบบไทยด้วย 5Fs สร้างชื่อไกลไประดับโลก!

Soft Power คืออะไร ในไทยมีอะไรบ้าง? การขายของในยุคปัจจุบันนี้ จะมาขายกันโต้ง ๆ ก็ทำให้ลูกค้าหนีหายกันหมด…
Soft Power
0
Share