hero-image

การกลับมา(อีกครั้ง)ของ COVID-19

นับตั้งแต่ปลายปีพ.ศ. 2562 วิถีชีวิตของประชากรโลกก็ได้เปลี่ยนไปเนื่องจากการระบาดของ โควิด-19 ( COVID-19 หรือเรียกเต็มๆ ว่า Coronavirus ที่เกิดจาก SARS-CoV-2 ) ซึ่งช่วงแรกหากยังจำกันได้นั้นมีทั้งยอดผู้เสียชีวิตและผู้ป่วยมากมาย เนื่องจากเป็นโรคที่แพร่กระจายได้ไว และมาแบบไม่ทันตั้งตัว หากแต่ทั่วโลกก็ได้ร่วมมือกันหาทางแก้จนทำให้โรคร้ายนี้ลดความร้ายแรงลงได้ในปัจจุบัน

ผ่านมาเกือบ 3 ปีเต็มนับตั้งแต่โควิด-19 ระบาดครั้งแรก มีทั้งช่วงที่แพร่กระจายมากขึ้นจากการรวมตัวของผู้คนและอากาศที่เปลี่ยนแปลง มีการกลายพันธุ์ของตัวไวรัสที่เพิ่มรุนแรง แต่ก็ยังมีช่วงที่ขาลงเช่นเดียวกัน ปัจจุบันในประเทศไทยได้ประกาศให้โรคนี้เป็น “โรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง” ไม่ใช่ “โรคติดต่ออันตราย” เหมือนช่วงแรก แต่ก็ยังไม่สามารถเป็นโรคประจำถิ่นได้ เนื่องจากยังมีความร้ายแรง นับจากยอดผู้ป่วยสะสมและยอดผู้เสียชีวิตที่ยังคงสูงอยู่ 

แต่ตั้งแต่ช่วงเดือนกันยายนปีพ.ศ. 2565 หลายท่านคงได้ยินข่าวว่าโควิด-19 นั้นได้กลับมาระบาดอีกครั้งหลังจากได้เงียบหายไปนาน ทั้งนี้การระบาดระลอกนี้นั้นเป็นไปตามที่แพทย์และทั่วโลกได้คาดการณ์ไว้แล้วว่าจะเกิดขึ้น เนื่องจากเป็นช่วงฤดูหนาวทำให้ไวรัสตัวนี้อยู่ในอากาศได้นานยิ่งขึ้น และทำให้แพร่กระจายได้ไวขึ้น บวกทั้งมาตรการผ่อนคลายของโควิด-19 ที่บางสถานที่ไม่ได้มีการบังคับให้ใส่หน้ากากอนามัย รวมทั้งหลายๆ ท่านได้รับวัคซีนอย่างน้อย 3 โดสจนคิดว่าไม่จำเป็นจะต้องรับวัคซีนอีก และสุดท้ายเนื่องจากอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยทำให้คนส่วนใหญ่ภูมิคุ้มกันลดลง เป็นหวัดได้ง่ายขึ้น หากแต่จริงๆ แล้วโควิด-19 นั้นไม่ได้หายไปไหนเพียงแค่เราไม่ได้ข่าวเท่านั้นเอง เพราะทุกวันยังมียอดผู้ป่วยและเสียชีวิตอยู่เช่นเคย เพียงแค่ช่วงนี้นั้นเพิ่มขึ้นมากกว่าเมื่อช่วงต้นปีเท่านั้นเอง 

ในช่วงกันยายนปีพ.ศ. 2565 นั้น การระบาดของโควิด-19 ก็ได้กลับมาอีก สืบเนื่องจากเป็นฤดูปลายฝนต้นหนาวทำให้ช่วงนี้ยอดผู้ป่วยสะสมแบะยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นกว่าต้นพี่และกลางปีอีกด้วย สถิติปัจจุบัน ( ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565 ) มียอดผู้ป่วยสะสมมากกว่า 4,707,244 ราย หายป่วยสะสม 2,483,809 ราย และเสียชีวิต 33,180 ราย ในส่วนของผู้ป่วยที่ต้องรักษาตัวในโรงพยาบาล ( รายสัปดาห์ ) มีประมาณ 4,914 ราย หรือเฉลี่ยรายวันอยู่ที่ 702 ราย/วัน ส่วนยอดผู้เสียชีวิต ( รายสัปดาห์ ) เฉลี่ยรายวันวันอยู่ที่ 10 ราย/วัน

หากเทียบสถิติปีนี้กับเมื่อปีพ.ศ. 2564 ที่มียอดผู้ป่วยสะสม 2,223,435 ราย และยอดผู้เสียชีวิต 21,698 ราย ซึ่งน้อยกว่าปีนี้ถึง 2 เท่า ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าตกใจอย่างมาก หากแต่เป็นเพราะไวรัสตัวใหม่นั้นถึงแม้จะแพร่กระจายเร็วแต่ก็หายเร็วเช่นกัน อีกทั้งยังไม่ออกอาการร้ายแรงอย่างเห็นได้ชัดเท่าเมื่อก่อน หรือมีอาการรุนแรงแทรกซ้อนเข้ามา

ในอนาคตทางการไทยเชื่อว่าการระบาดระลอกเล็กนี้จะยาวไปจนถึงช่วงกุมภาพันธ์ปีพ.ศ. 2566 หรือช่วงสิ้นสุดฤดูหนาวของไทย อย่างที่ทราบกันว่าไวรัสตัวนี้จะอยู่ในอากาศได้นานกว่าปกติในอากาศหนาว แน่นอนหลังเข้าฤดูฝนแพทย์ได้หวังว่าจะมียอดที่ลดลง และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอีกครั้งเมื่อเข้าฤดูฝนและฤดูหนาวปีหน้า หากแต่ยังคงเป็นระลอกเล็กและไม่รุนแรงมาก และอย่างที่ทราบกันว่าปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนใดที่สามารถหยุดโรคนี้ได้ มีเพียงวัคซีนเพื่อป้องกัน ลดความเสี่ยงแทรกซ้อนและลดความรุนแรงของไวรัส 

ท้ายนี้ซันเดย์อยากยังอยากให้ทุกท่านเฝ้าระวังและไม่ประหมาดต่อโรคโควิค-19 เพราะถึงแม้ว่าทางการจะไม่ประกาศเลขอย่างเป็นทางการประจำทุกวันอย่างเช่นก่อน แต่ว่าโรคนี้ก็จะยังคงอยู่กับเราอีกนาน ตราบใดที่เรายังไม่สามารถภายารักษาที่ทำให้หายขาดได้

ทั้งนี้คุณสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อรับคำปรึกษาเรื่องแผนประกันที่ครอบคลุมสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นโควิด-19 หรืออื่นๆ ได้ที่ 👉 ezsun.co/ROlrX0t

REF: [1] [2] [3] [4] [5]