หน้าหลัก เรื่องราวรอบตัว ทำไมควรให้ความสำคัญกับการทดสอบรถด้วย Crash Test?

ทำไมควรให้ความสำคัญกับการทดสอบรถด้วย Crash Test?

Crash Test

รถยนต์ทุกประเภทที่นำออกมาจำหน่ายให้กับผู้บริโภค จะต้องผ่านการทดสอบรถหลากหลายด้าน โดยหนึ่งในการทดสอบที่สำคัญที่สุด คือ การทดสอบ Crash Test ซึ่งเป็นการทดสอบความปลอดภัยของชีวิตผู้โดยสารและผู้ใช้ท้องถนน ในระหว่างที่การเกิดอุบัติเหตุ 

แล้วการทดสอบรถด้วย Crash Test มีขั้นตอนอย่างไร และมีมาตรฐานใดที่นำมาใช้ทดสอบในระดับสากลบ้าง มาหาคำตอบไปพร้อมได้ในบทความนี้กัน

การทดสอบรถด้วย Crash Test

วิธีการทำ Crash Test มีอะไรบ้าง?

การทดสอบรถแบบ Crash Test เป็นการทดสอบที่มีความซับซ้อนสูง เนื่องจากมีหลายปัจจัยที่ต้องนำมาพิจารณาในการทดสอบเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำ น่าเชื่อถือ และและสามารถนำไปวิเคราะห์เพื่อพัฒนาระบบความปลอดภัยของรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ไม่ว่าจะเป็นการทดสอบความหลากหลายของสถานการณ์การชน ความแม่นยำของข้อมูล ความปลอดภัยของผู้ทดสอบ ตลอดจนไปถึงกฎระเบียบและมาตรฐานที่ถูกกำหนดเอาไว้

การทดสอบ-Crash-Test-ด้วยการชนกำแพง

การเตรียมตัวก่อนการทำสอบ Crash Test

ก่อนเริ่มทำการทดสอบรถยนต์แบบ Crash Test ทางผู้ทดสอบจะต้องตั้งค่าและเตรียมการหลาย ๆ อย่างเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีความแม่นยำมากที่สุด ประกอบไปด้วย 

  • การเตรียมรถยนต์ให้พร้อมสำหรับการทดสอบ เริ่มตั้งแต่การตรวจสภาพรถยนต์ เติมน้ำมัน น้ำยาหล่อเย็น ลมยาง และตรวจสอบระบบอื่น ๆ ให้ครบถ้วนตรงตามมาตรฐาน 
  • ติดตั้งอุปกรณ์การวัดค่าต่าง ๆ ตามมาตรฐานกำหนด เช่น หุ่นจำลองมนุษย์ กล้องภายในรถยนต์ กล้องรอบ ๆ บริเวณทดสอบ ตัววัดแรงกระแทกและตัววัดความเร่ง (accelerometer)
  • เตรียมสถานที่สำหรับการทดสอบ โดยจะต้องสามารถควบคุมสภาพอากาศและปัจจัยอื่น ๆ ได้ เพื่อความแม่นยำของผลลัพธ์

ขั้นตอนการทดสอบ Crash Test 

หลังจากเตรียมรถยนต์และอุปกรณ์ที่จำเป็น รวมถึงควบคุมตัวแปรอื่น ๆ ได้ตามมาตรฐานแล้ว ผู้ทดสอบจะเริ่มทำการทดสอบรถยนต์ตามขั้นตอน ดังนี้

  • จำลองสถานการณ์การชนหลาย ๆ รูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการชนทางตรง การชนจากด้านข้าง การชนจากด้านหลัง การพลิกคว่ำของรถ รวมถึงการใช้วัตถุที่ต้องการจะชนที่แตกต่างกันออกไป เช่น ชนกับรถยนต์ด้วยกัน ชนกำแพงหรือเสา
  • ทดสอบประสิทธิภาพของระบบความปลอดภัยรถยนต์ ตั้งแต่ระบบเบรก การควบคุมการทรงตัวของรถยนต์ การทำงานของถุงลมนิรภัยและเข็มขัดนิรภัยในเหตุการณ์ต่าง ๆ ด้วยเช่นกัน
  • บันทึกข้อมูลที่ได้อย่างละเอียด เพื่อนำไปวิเคราะห์และประมวลผลหลังการทดสอบ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้นอกจากจะช่วยวัดมาตรฐานได้แล้ว ก็ยังช่วยทำให้ผู้ผลิตในวงการรถยนต์สามารถนำไปพัฒนาระบบความปลอดภัยของรถยนต์ให้ดีขึ้นได้อีกด้วย
  • การวิเคราะห์และสรุปผล โดยวิเคราะห์จากความเสียหายของตัวถังรถยนต์ การทำงานของระบบความปลอดภัยต่าง ๆ และความเสี่ยงต่อผู้โดยสารเมื่อเกิดการชนในรูปแบบต่าง ๆ
การทดสอบ-Crash-Test-และหุ่น-dummy-เมื่อถุงลมนิรภัยทำงาน

มาตรฐานการทดสอบ Crash Test มีอะไรบ้าง?

แต่ละภูมิภาคและประเทศจะมีมาตรฐาน Crash Test ที่แตกต่างกันออกไป แต่ทุกมาตรฐานจะมีการประเมินข้อมูลอย่างละเอียด เพื่อให้มั่นใจว่ารถยนต์รุ่นต่าง ๆ จะมีความปลอดภัยในการใช้งานได้มากที่สุด โดยในปัจจุบันนี้ มาตรฐานการทดสอบ Crash Test จะประกอบไปด้วย 4 มาตรฐานหลัก ดังนี้

1. Euro NCAP (European New Car Assessment Programme)

เป็นหนึ่งในหน่วยงานที่มีชื่อเสียงในการทดสอบและให้คะแนนรถยนต์เกี่ยวกับความปลอดภัยในยุโรป ทดสอบด้วยการชนด้านหน้า ด้านข้าง ด้านหลัง และการพลิกคว่ำ รถยนต์ที่รับคะแนน Euro NCAP 5 Stars จะถือว่ามีมาตรฐานความปลอดภัยสูงสำหรับทั้งผู้โดยสารและคนเดินเท้า การทดสอบนี้ถูกบังคับใช้กับรถยนต์ที่จำหน่ายในประเทศยุโรป แต่ผู้ผลิตจากที่อื่น ๆ ก็สามารถส่งรถยนต์เข้ารับการทดสอบได้เช่นกัน

2. ASEAN NCAP (ASEAN New Car Assessment Program)

เป็นโครงการประเมินความปลอดภัยของรถยนต์ใหม่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รถยนต์ทุกยี่ห้อที่วางจำหน่ายในประเทศสมาชิกอาเซียนจำเป็นต้องผ่านการทดสอบนี้ทั้งหมด มีเกณฑ์การให้คะแนน 0-5 ดาว โดย 5 ดาวคือปลอดภัยที่สุด ข้อเสียคือเกณฑ์การทดสอบยังไม่เข้มงวดเท่ากับ Euro NCAP

IIHS (Insurance Institute for Highway Safety)

เป็นองค์กรอิสระในสหรัฐอเมริกาที่ทำการวิจัยและทดสอบความปลอดภัยของรถยนต์ โดยรถยนต์แต่ละคันจะได้รับคะแนน Good, Acceptable, Marginal, Poor โดย Good คือปลอดภัยที่สุด โดยมีการทดสอบความแข็งแรงของหลังคาและการชนแบบซ้อนทับ อีกทั้งการทดสอบนี้ยังไม่มีการบังคับใช้ แต่ผู้ผลิตรถยนต์มักจะส่งรถยนต์ไปทดสอบกับ IIHS เพราะเป็นหน่วยงานที่มีชื่อเสียงและมีผลการทดสอบที่น่าเชื่อถือ

NHTSA (National Highway Traffic Safety Administration) 

เป็นหน่วยงานภาครัฐในสหรัฐอเมริกาที่รับผิดชอบด้านความปลอดภัยบนท้องถนน โดยรถแต่ละคันจะได้รับคะแนน 1-5 ดาว โดย 5 ดาวคือปลอดภัยที่สุด แต่เกณฑ์การทดสอบจะไม่เข้มงวดเท่ากับ IIHS หรือ EURO NCAP


เจาะลึกผลทดสอบ Crash Test ของรถยนต์ไฟฟ้า EV รุ่นดังในไทย

Euro NCAP เป็นการทดสอบรถยนต์ที่มีความเป็นสากลและได้รับความน่าเชื่อถือจากทั่วโลก รถยนต์ไฟฟ้าหลายรุ่นดังก็มีการทดสอบตามมาตรฐานนี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งจะประกอบไปด้วย

  • MG กับผลทดสอบ Euro NCAP มี 2 รุ่นด้วยกันคือ MG ZS EV ซึ่งได้รับคะแนน 4 ดาวในปี 2019 และ MG5 EV ที่ได้รับคะแนน 5 ดาวในปี 2021
  • ORA มีแค่รุ่นเดียวคือ ORA Cat ที่รับการทดสอบ Euro NCAP โดยได้คะแนน 4 ดาวในปี 2022  
  • BYD ทดสอบ Euro NCAP หลายรุ่นคือ BYD Han EV โดยได้รับคะแนน 5 ดาวในปี 2023 มีรุ่น BYD Tang EV ที่ได้คะแนน 5 ดาวในปี 2023 และรุ่น BYD Atto 3 ที่ได้คะแนน 5 ดาวเช่นกันในปี 2022
  • Tesla ได้คะแนนจาก Euro NCAP เต็ม 5 ดาวสำหรับ Tesla Model 3 ในปี 2019 และ Tesla Model Y ในปี 2022 สำหรับรุ่นอื่น ๆ ก็ได้คะแนนเต็มจากการทดสอบจาก NHTSA และ การทดสอบการชนจาก IIHS
รถยนต์ไฟฟ้า-Tesla-Crash-Test

มาตรฐานเหล่านี้ช่วยอะไรผู้บริโภคได้บ้าง?

แน่นอนว่า การทดสอบเหล่านี้ทำมาเพื่อประเมินความปลอดภัย ซึ่งเป็นประโยชน์กับผู้บริโภคที่กำลังตัดสินใจซื้อรถยนต์อยู่ เนื่องจากการตรวจสอบมาตรฐานการทดสอบรถเหล่านี้ทำให้สามารถเปรียบเทียบตัวเลือกระหว่างรถยนต์ยี่ห้อและรุ่นต่าง ๆ ได้ดี โดยควรการเลือกพิจารณาจากคะแนนจากการทดสอบ Euro NCAP หรือ ASEAN NCAP เพื่อให้ได้รถยนต์ที่มีความระบบความปลอดภัยประสิทธิภาพสูง


ดูผลการทดสอบแล้ว อย่าลืมเพิ่มความอุ่นใจด้วยประกันรถยนต์

ถึงแม้ว่าผลการทดสอบจะได้มาตรฐานและยืนยันถึงประสิทธิภาพความปลอดภัยของรถยนต์ได้แล้ว แต่อย่าลืมเพิ่มความอุ่นใจให้กับการใช้งานรถยนต์อีกขั้นด้วยการทำประกันรถยนต์เอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ทั่วไปหรือรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อช่วยบริหารความเสี่ยงที่มาจากค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากอุบัติเหตุได้

และหากใครกำลังมองหาประกันรถยนต์ที่สามารถ ‘ปรับแต่งความคุ้มครอง’ ที่เหมาะกับตัวเองได้ นี่คือ โอกาสที่ห้ามพลาด
เพราะว่า Sunday พร้อมให้คุณออกแบบความคุ้มครองของประกันรถยนต์ให้ตรงกับความต้องการ มาพร้อมระบบช่วยคำนวณเบี้ยประกันที่แม่นยำ ให้คุณได้จ่ายเบี้ยประกันรถยนต์ที่เหมาะสมมากที่สุด ลองเช็กเบี้ยประกันรถยนต์ไฟฟ้าที่เหมาะกับตัวเอง กรอกแค่ ‘วันเดือนปีเกิดผู้ขับขี่’ และ ‘รหัสไปรษณีย์ที่อยู่ปัจจุบัน’ ไม่ต้องกรอกข้อมูลส่วนตัวให้วุ่นวาย


Share this article
Shareable URL
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง

ลดหย่อนภาษีด้วย “เที่ยวดี มีคืน 2568” สรุปครบในที่เดียว!

รู้ไว้ไม่พลาด! เที่ยวดี มีคืน สิทธิลดหย่อนภาษีส่งท้ายปี 2568 มาตรการ “เที่ยวดี มีคืน” คือ…
เที่ยวดีมีคืน

รู้ไว้ดีกว่า! รวมวิธีเตรียมตัวรับมือภัยพิบัติสงคราม

เตรียมตัวอย่างไรในวันที่เกิด “ภัยพิบัติสงคราม”? การเตรียมตัวรับมือภัยพิบัติสงคราม คือ…
ภัยพิบัติสงคราม
0
Share