หน้าหลัก เรื่องการลงทุน แชร์เทคนิก เลือกกองทุน RMF ให้เหมาะกับมนุษย์เงินเดือนอย่างเรา

แชร์เทคนิก เลือกกองทุน RMF ให้เหมาะกับมนุษย์เงินเดือนอย่างเรา

ซื้อกองทุน RMF กองไหนดี

มีงบไม่เยอะซื้อกองทุน RMF ยังไงดี?

เรื่องการออมเงินเพื่อใช้ชีวิตหลังเกษียณคงเป็นเรื่องที่ใครหลายคนตระหนักกันดีอยู่แล้ว แต่หลายๆ คนก็อาจจะไม่รู้ว่าควรจะเริ่มต้นออมเงินหรือลงทุนอย่างไรให้ได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า ในบทความนี้เราจึงอยากจะพาทุกคนมารู้จักกับกองทุน RMF (Retirement Mutual Fund) หรือกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ ว่ากองทุน RMF นั้นคืออะไร? กองทุน RMF ลดหย่อนภาษีได้ไหม?  กองทุน RMF ต้องซื้อทุกปีไหม? หรือการขายคืน RMF จะต้องทำอย่างไรไม่ผิดเงื่อนไข? เราหาคำตอบมาให้คุณแล้วในบทความนี้

what is rmf funding

รู้จักกองทุน RMF

กองทุน RMF คืออะไร? กองทุน RMF นั้นเป็นกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพหลังเกษียณ ซึ่งถูกจัดตั้งขึ้นมาเพื่อเป็นการสนับสนุนการออมเงินเพื่อการเกษียณของคนไทย โดยการลงทุน RMF นั้นจะเป็นการลงทุนในระยะยาว มีข้อดีที่น่าสนใจก็คือกองทุน RMF ลดหย่อนภาษีได้ โดยจะได้ไม่เกิน 30% ของเงินได้ สูงสุดไม่เกิน 500,000 บาท

ทำไมจึงเหมาะกับมนุษย์เงินเดือน?

  • เป็นหลักประกันว่าจะมีเงินใช้หลังเกษียณแน่นอน
  • สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 500,000 บาท
  • ไม่จำเป็นต้องลงทุนจำนวนมาก เพราะการลงทุน RMF ไม่มีขั้นต่ำในการลงทุน
  • สามารถเลือกกองทุนตามระดับความเสี่ยงที่เราสามารถรับได้ได้

กองทุน RMF มีเงื่อนไขอะไรบ้าง?

อีกหนึ่งคำถามยอดฮิตก็คือแล้วกองทุน RMF มีเงื่อนไขอะไรบ้าง? หรือกองทุน RMF ต้องซื้อทุกปีไหม? ไปดูกันว่ากองทุน RMF จะมีเงื่อนไขอย่างไร

  • อย่างที่ได้บอกไปว่าการลงทุนในกองทุน RMF นั้นเป็นการลงทุนในระยะยาว ดังนั้นเงื่อนไขหลักๆ ก็คือต้องลงทุนอย่างน้อยเป็นเวลา 5 ปีติดต่อกัน
  • จะสามารถขายกองทุนได้ก็ต่อเมื่อมีอายุครบ 55 ปี
  • ต้องมีการลงทุนอย่างต่อเนื่องหรือปีเว้นปีเพื่อไม่ให้เป็นการผิดเงื่อนไข
  • ไม่มีการกำหนดเงินลงทุนขั้นต่ำต่อปี

หากผิดเงื่อนไขจะเกิดอะไรขึ้น?

ในกรณีที่ลงทุน RMF แล้วมีการขายคืน RMF แบบผิดเงื่อนไขนั้น บทลงโทษจะแยกเป็น 2 กรณี ดังนี้


กรณีที่ 1: ลงทุนน้อยกว่า 5 ปี และผิดเงื่อนไขการลงทุน จะต้องคืนภาษีที่ได้รับยกเว้น 5 ปีย้อนหลังและต้องนำกำไรที่ได้จากการขายหน่วยลงทุนไปยื่นรวมเสียภาษี
กรณีที่ 2:
ลงทุนมากกว่า 5 ปี และผิดเงื่อนไขการลงทุน จะต้องคืนภาษีที่ได้รับยกเว้น 5 ปีย้อนหลัง


นอกจากนี้ไม่ว่าจะลงทุนมามากกว่าหรือน้อยกว่า 5 ปี หากยื่นคืนภาษีช้ากว่าเดือนมีนาคมปีถัดจากปีที่ผิดเงื่อนไข ต้องเสียเงินเพิ่ม 1.5% ต่อเดือน

ไม่รู้จะซื้อ RMF กองไหนดี? แนะนำเทคนิคเลือกกองทุน

สำหรับผู้ที่เริ่มลงทุน แต่ไม่รู้ว่าจะเลือกลงทุนในกองทุน RMF กองไหนดี เราจะมาแนะนำวิธีการเลือกกองทุนกันว่า ก่อนที่จะเลือกซื้อกองทุนซักกองนั้น เราควรจะต้องพิจารณาจากปัจจัยอะไรบ้าง?

1. เลือกประเภทกองทุนที่เหมาะกับเรา

หากถามว่าจะซื้อ RMF กองไหนดีนั้น อย่างแรกเลยควรเลือกประเภทกองทุนที่เหมาะกับเรา เพราะกองทุน RMF นั้นมีหลายประเภทด้วยกัน ทั้งที่ลงทุนในตราสารหนี้ หุ้นไทย หุ้นโลกหรือสินทรัพย์ทางเลือกต่างๆ ซึ่งกองทุนแต่ละประเภทก็จะมีความเสี่ยงที่แตกต่างกันไป โดยหากใครที่ยังมีอายุไม่เยอะ และสามารถลงทุนได้มากกว่า 10 ปี ก็สามารถบริหารพอร์ตโดยเลือกกองทุนที่มีความเสี่ยงสูงและผลตอบแทนสูงได้มากกว่าผู้ที่มีอายุเยอะแล้ว

2. เลือกกองทุนที่มีผลตอบแทนย้อนหลังดี

ก่อนที่เราจะเลือกลงทุนในกองทุนใดก็ควรจะทำการศึกษาหาข้อมูลว่ากองทุนไหนที่มีผลตอบแทนย้อนหลังดี โดยให้นำผลดำเนินงานย้อนหลังของแต่ละกองทุนมาเปรียบเทียบ และนอกจากจะพิจารณาจากผลตอบแทนย้อนหลังแล้ว ก็ควรดูถึงความสม่ำเสมอของผลตอบแทนของกองทุนนั้นๆ ด้วยเช่นกัน

3. กระจายการลงทุน

การกระจายการลงทุนนั้นเปรียบเสมือนเป็นการช่วยกระจายความเสี่ยงในการลงทุน โดยการกระจายการลงทุนนั้นให้พิจารณาจากทั้งในแง่ของอุตสาหกรรมที่เราลงทุน ภูมิภาคที่เราลงทุน รวมถึงประเภทของสินทรัพย์ที่ควรมีความหลากหลาย

4. ค่าใช้จ่ายกองทุนต้องสมเหตุสมผล


เนื่องจากเวลาที่เราเลือกซื้อกองทุน ก็จะมีค่าธรรมเนียมการจัดการ ค่าธรรมเนียมผู้ดูแลผลประโยชน์ ค่าธรรมเนียมนายทะเบียนหน่วยลงทุน ค่านายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ ฯลฯ ซึ่งเราควรจะต้องคำนวณค่าใช้จ่ายรวมตรงนี้ให้ดี เพราะบางครั้งอีกกองทุนอาจได้ผลตอบแทนน้อยกว่าเล็กน้อย และพอมาคิดรวมกับค่าใช้จ่ายรวมแล้ว กลายเป็นว่าได้กำไรเยอะกว่าซะงั้น และอย่าลืมว่าค่าใช้จ่ายรวมตรงนี้เราต้องจ่ายนับ 10 ปี เพราะฉะนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามอย่างเด็ดขาด

การลงทุนแบบ DCA คืออะไร

      บทความน่าอ่าน > DCA คืออะไร ควร DCA ในหุ้นหรือกองทุนดี?

      อย่างไรก็ดี ถึงแม้ว่ากองทุนข้างต้นจะได้ผลตอบแทนที่ค่อนข้างสูง แต่หากชาวมนุษย์เงินเดือนอยากจะลงทุน ก็ต้องคำนวณรายรับรายจ่ายและสภาพคล่องทางการเงินให้ดีด้วย รวมถึงประเมินว่าตนเองสามารถรับความเสี่ยงได้มากน้อยเพียงใด เพราะยิ่งได้ผลตอบแทนสูง ก็อาจเป็นไปได้ว่ามีความผันผวนสูงเช่นกัน 

      แต่นอกจากเรื่องการลงทุนแล้ว หากอยากเพิ่มความมั่นคงทางการเงินมากขึ้น ก็อย่าลืมทำประกันสุขภาพออนไลน์ เพราะเราไม่อาจทราบได้เลยว่าเราจะเจ็บป่วยขึ้นมาตอนไหน จะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องค่ารักษาพยาบาล และใช้ชีวิตก่อนและหลังเกษียณได้อย่างสบายใจ

      *การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน


      อ้างอิง: SCB , Edge , Krungsri


      Share this article
      Shareable URL
      อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง

      เลือกให้แล้ว! ประกันชีวิตสุดคุ้ม ใช้ลดหย่อนภาษีปี 2567

      ประกันชีวิตตอบโจทย์ทั้งลดหย่อนภาษี สภาพคล่อง และเป้าหมายการทางเงิน แม้จะช่วยลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 300,000 บาท แต่…
      life-insurance-and-tax-deduction

      สรุปครบ! ทำ Affiliate Program รายได้คำนวณยื่นภาษีอย่างไร?

      รู้ก่อนทำ! เข้า Affiliate Program คำนวณรายได้เพื่อยื่นภาษีอย่างไร? นาทีนี้เชื่อว่าใครๆ ก็ต้องรู้จักแล้วว่า…
      affiliate-program-and-tax-management
      0
      Share