หน้าหลัก เรื่องราวรอบตัว 7 วิธี ล้างรถ ภายนอกและภายใน ทำเองได้ไม่ยาก!

7 วิธี ล้างรถ ภายนอกและภายใน ทำเองได้ไม่ยาก!

7-วิธีล้างรถภายนอกและภายใน

ล้างรถ ไม่เพียงแต่จะช่วยให้รู้สึกได้ขับรถยนต์คันใหม่อยู่ตลอดเวลาเท่านั้น แต่ยังช่วยป้องกันไม่ให้สารพัดคราบสกปรกเข้ามาทำลายพื้นผิวรถยนต์ ทั้งยังสามารถช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่ ซึ่งถือเป็นตัวช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุได้เป็นอย่างดี

แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นก็ปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่า การล้างรถยนต์แต่ละครั้งมาพร้อมกับค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูงเช่นกัน สำหรับใครที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายการล้างรถยนต์ในส่วนนี้ มาดู  7 วิธีล้างรถภายนอกและภายใน พร้อมขั้นตอนการล้างรถที่ถูกต้อง เปลี่ยนรถสกปรกเป็นรถคันใหม่ได้ง่าย ๆ แม้จะเป็นมือใหม่ก็ตาม


9 อุปกรณ์ทำความสะอาดรถยนต์ เตรียมให้พร้อม

นอกจากจะเข้าใจขั้นตอนการล้างรถภายนอกและภายในที่ถูกต้องแล้ว เจ้าของรถยนต์ยังต้องเตรียมอุปกรณ์ทำความสะอาดรถยนต์ที่ออกแบบมาเพื่อการทำความสะอาดรถยนต์โดยเฉพาะ ทั้งนี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำความสะอาด ตลอดจนช่วยป้องกันไม่ให้พื้นผิวรถยนต์เสียหายจากอุปกรณ์ทำความสะอาดที่ไม่เหมาะสม 

สำหรับมือใหม่ที่ต้องการดูแลรถยนต์ให้สะอาดด้วยตัวเอง ขอแนะนำให้เตรียม 9 อุปกรณ์ทำความสะอาดรถยนต์ขั้นพื้นฐานให้พร้อม ดังนี้

  1. น้ำยา หรือ แชมพูล้างรถยนต์โดยเฉพาะ ขอแนะนำให้หลีกเลี่ยงการใช้น้ำเปล่าเพียงอย่างเดียว น้ำยาล้างจาน ผงซักฟอก หรือ แชมพูทั่วไป เพราะจะทำให้พื้นผิวรถยนต์ตึงตัวมากจนเกินไป ส่งผลให้ฝุ่นเกาะง่ายยิ่งขึ้น ทำให้เกิดรอยขนแมวและรอยขีดข่วนขณะถูล้างทำความสะอาด ทั้งยังมีความเสี่ยงที่สีรถยนต์จะด่างได้ง่ายอีกด้วย
  2. ถุงมือ หรือ ฟองน้ำเนื้อละเอียดสำหรับล้างรถยนต์
  3. แปรงทำความสะอาด หรือ แปรงดีเทลลิง เพื่อการทำความสะอาดซอกมุมเล็ก ๆ หรือ พื้นผิวบอบบางในรถยนต์ ควรเลือกขนแปรงที่มีความอ่อนนุ่มกำลังพอดี ทั้งนี้เพื่อป้องกันการเกิดรอยขีดข่วนขณะทำความสะอาด แต่ยังสามารถรักษาประสิทธิภาพการทำความสะอาดเอาไว้ได้
  4. ผ้าไมโครไฟเบอร์ หรือ ผ้าชามัวร์ อย่างน้อย 3 ผืน สำหรับซับน้ำหลังจากล้างรถยนต์ เช็ดรถยนต์ให้แห้ง และสำหรับการลงน้ำยาเคลือบสีรถยนต์ หรือ น้ำยาทำความสะอาดอื่น ๆ
  5. ถังน้ำล้างรถยนต์ อย่างน้อย 2 ใบ สำหรับผสมน้ำยาล้างรถยนต์ และ สำหรับใส่น้ำสะอาดเพื่อความสะอาดในส่วนอื่น
  6. สายยาง และ เครื่องฉีดน้ำแรงดัน (ถ้ามี)
  7. น้ำยาทำความสะอาดอเนกประสงค์สำหรับรถยนต์ สำหรับทำความสะอาดเบาะและพื้นผิวทั่วไปของรถยนต์
  8. น้ำยาเคลือบสีรถยนต์ (ถ้ามี)
  9. เครื่องดูดฝุ่นที่มีหัวแปรงทำความสะอาดหลายขนาด

7 วิธี ล้างรถ ภายนอกและภายใน มือใหม่ทำตามได้!

หลังจากเตรียมอุปกรณ์ทำความสะอาดรถยนต์จนครบถ้วนแล้ว ก่อนที่จะลากสายยางมาฉีดน้ำเพื่อทำความสะอาดรถยนต์ในทันที ลองมาดู 7 ขั้นตอนการล้างรถยนต์อย่างถูกต้องกัน รับรอง! รถยนต์สะอาดได้ ไม่เสี่ยงเสียหายโดยรู้เท่าไม่ถึงการ

1. ฉีดน้ำไล่คราบสกปรกออกให้หมดก่อน

ในขั้นตอนแรก ให้เจ้าของรถยนต์นำรถสกปรกเข้ามาไว้ในพื้นที่โปร่งและระบายน้ำได้สะดวก จากนั้นจึงฉีดน้ำไล่คราบสกปรก เริ่มตั้งแต่ที่บริเวณหลังคาไล่ลงมาถึงที่ล้อ โดยการฉีดน้ำในขั้นตอนนี้จะช่วยทำให้คราบสกปรกอ่อนตัวลง ทำให้สามารถทำความสะอาดในขั้นตอนต่อ ๆ ไปได้อย่างสะดวก


สำหรับใครที่ไม่มีเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง ไม่รู้จะเลือกยี่ห้อไหนดี ขอแนะนำให้เริ่มจากการฉีดน้ำโดยใช้สายยางธรรมดาดูก่อน จากนั้นจึงไปทดลองใช้เครื่องฉีดน้ำแรงดันในภายหลัง เนื่องจากหากนำเครื่องฉีดน้ำแรงดันมาใช้โดยที่ยังไม่มีความเชี่ยวชาญมากพอ แรงดันน้ำอาจทำให้พื้นผิวและตัวถังรถยนต์เสียหายได้

ขั้นตอนการล้างรถยนต์ที่ถูกต้อง

2. ทำความสะอาดล้อรถยนต์ต่อ

หลังจากที่ล้างทำความสะอาดรถยนต์ด้วยน้ำเปล่าเรียบร้อยแล้ว ให้นำน้ำยาล้างรถยนต์ หรือ แชมพูล้างรถยนต์มาผสมกับน้ำสะอาด จากนั้นจึงนำมาล้างที่ล้อรถยนต์เป็นอันดับแรก เนื่องจากล้อรถยนต์เป็นส่วนที่ใช้เวลาทำความสะอาดนานและมีคราบสกปรกมากที่สุด

เริ่มตั้งแต่การฉีดน้ำยาลงไปที่บริเวณล้อ จากนั้นจึงใช้แปรงขัดทำความสะอาดที่ผิวหน้ายาง ล้อแม็กซ์และบังโคลนล้อ จากนั้นจึงใช้แปรงดีเทลลิงในการปัดทำความสะอาดบริเวณซอกมุมเล็ก ๆ ที่บริเวณล้อทั้งหมด สุดท้ายจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด


3. ล้างรถภายนอก เริ่มจากหลังคาลงมาที่ล้อรถยนต์

หลังจากล้างทำความสะอาดล้อรถยนต์เรียบร้อย ในส่วนต่อไปให้เจ้าของรถยนต์ฉีดน้ำไล่ทำความสะอาดด้านนอกรถยนต์อีกครั้ง เริ่มตั้งแต่บริเวณหลังคาไล่ลงมาจนถึงล้อด้านล่าง 

แต่ก่อนที่จะลงน้ำยา หรือ นำฟองน้ำไปถูที่ตัวถังรถยนต์โดยตรง ขอแนะนำให้สังเกตถึงลักษณะคราบเบื้องต้นดูก่อน หากเป็นคราบที่มีขนาดใหญ่ หรือ เป็นคราบที่มีเศษหินดินทรายปนอยู่ด้วย แนะนำให้ใช้ผ้าสำลีเช็ดทำความสะอาดแทน เนื่องจากการใช้ฟองน้ำถูที่ตัวรถยนต์โดยตรงอาจทำให้เกิดรอยขีดข่วนได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณกระจกที่เกิดรอยขีดข่วนได้ง่าย

หลังจากที่เช็ดคราบสกปรกออกหมดแล้ว ในส่วนต่อไปให้นำฟองน้ำชุบกับแชมพูล้างรถยนต์ จากนั้นจึงค่อย ๆ ทำเช็ดทำความสะอาดที่ตัวรถยนต์ทีละส่วน ซึ่งเมื่อทำความสะอาดส่วนนึงเสร็จแล้วให้ฉีดน้ำสะอาดเพื่อล้างน้ำยาออกทันที 

เช่น หลังจากใช้ฟองน้ำชุบกับน้ำยาเพื่อทำความสะอาดหลังคาเสร็จแล้ว ให้ฉีดน้ำสะอาดล้างออกทันที จากนั้นจึงค่อยไปล้างในส่วนอื่น ๆ ต่อ โดยไล่มาจากบริเวณหลังคาแล้วไปจบที่บริเวณล้อ 


การล้างรถภายนอกด้วยเทคนิคนี้จะช่วยให้ทำความสะอาดส่วนต่าง ๆ ของรถยนต์ได้หมดจดยิ่งขึ้น ทั้งยังช่วยลดคราบสกปรกสะสมในบริเวณซอกมุมเล็ก ๆ ได้เป็นอย่างดี ถือเป็นอีกหนึ่งเทคนิคการล้างรถยนต์ที่มือใหม่ควรฝึกประสบการณ์เอาไว้ให้ดี

Sunday Tips!

รู้หรือไม่? คุณเองก็ล้างรถยนต์ให้สะอาดเหมือนไปคาร์แคร์ได้ง่าย ๆ เพียงแยกฟองน้ำสำหรับล้างเฉพาะส่วนของรถยนต์ เช่น มีฟองน้ำสำหรับเช็ดหลังคาโดยเฉพาะ หรือ มีฟองน้ำสำหรับล้างกระโปรงรถยนต์โดยเฉพาะ

แต่หากใครรู้สึกว่าต้องการประหยัดงบประมาณค่าฟองน้ำล้างรถยนต์ ขอแนะนำให้ล้างทำความสะอาดฟองน้ำทุกครั้งเมื่อล้างรถยนต์แต่ละส่วนเสร็จ เช่น หลังจากล้างหลังคาเสร็จแล้วให้ทำความสะอาดฟองน้ำก่อนที่จะนำไปทำความสะอาดส่วนประตู หรือ กระจก

ง่าย ๆ เท่านี้ก็ล้างรถยนต์ได้สะอาดเหมือนไปคาร์แคร์แล้ว
วิธีล้างรถภายนอกและภายใน

4. ล้างรถภายนอกด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง

หลังจากที่ล้างทำความสะอาดรถยนต์ครบทุกส่วนเป็นที่เรียบร้อย ก่อนที่จะไปล้างรถภายในกัน อย่าลืมฉีดน้ำสะอาดเพื่อเป็นการล้างคราบสกปรก รวมถึงคราบน้ำยาที่อาจตกค้างอยู่บนพื้นผิวของรถยนต์อีกรอบด้วย


การฉีดน้ำสะอาดล้างรถภายนอกนี้ ขอแนะนำให้ฉีดน้ำไล่จากด้านบนหลังคาลงมา จากนั้นจึงฉีดไปที่ตัวถังรถยนต์ พร้อมปิดท้ายการล้างด้านนอกด้วยการฉีดน้ำสะอาดไปที่บริเวณตัวรถยนต์และล้อทุกข้าง


5. เช็ดรถยนต์ให้แห้ง พร้อมลงน้ำยาเคลือบผิวรถยนต์

เมื่อทำความสะอาดรถยนต์ พร้อมฉีดน้ำสะอาดเพื่อล้างน้ำยาและคราบสกปรกตกค้างเป็นที่เรียบร้อย อย่าลืมใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ หรือ ผ้าชามัวร์ เช็ดทำความสะอาดรถยนต์ให้แห้งในทันที ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้ฝุ่นเข้ามาเกาะที่พื้นผิวรถยนต์และทำให้เกิดคราบใหม่ ตลอดจนป้องกันไม่ให้ผิวรถยนต์เกิดคราบน้ำอีกด้วย

หลังจากที่เช็ดรถยนต์จนแห้งเรียบร้อยแล้ว หากเจ้าของรถยนต์ต้องการปกป้องพื้นผิวและสีของรถยนต์เอาไว้ ขอแนะนำให้ใช้น้ำยาเคลือบรถยนต์เช็ดเคลือบผิวรถยนต์ ทั้งนี้เพื่อช่วยให้รถยนต์ดูเงางามเหมือนใหม่ ตลอดจนช่วยป้องกันไม่ให้ฝุ่นและคราบสกปรกมาทำลายผิวรถยนต์อีกด้วย สำหรับมือใหม่อาจลองเคลือบผิวรถยนต์ด้วยน้ำยาเคลือบรถยนต์แบบสเปรย์ที่ฉีดแล้วสามารถเช็ดรถยนต์ได้ง่าย ๆ ดูก่อน จากนั้นจึงค่อยทดลองแบบอื่น ๆ ต่อไป


ฆ่าเชื้อโควิดและเชื้อราในรถยนต์ได้อย่างไร

6. ทำความสะอาดและล้างรถภายใน

การล้างรถยนต์ภายในจำเป็นต้องอาศัยความเชี่ยวชาญเป็นอย่างมาก เนื่องจากภายในห้องโดยสารรถยนต์นั้นเต็มไปด้วยระบบซับซ้อนมากมาย 

สำหรับใครที่ยังไม่มีประสบการณ์ในการล้างรถยนต์ภายใน ขอแนะนำให้เริ่มจากการดูดฝุ่นก่อน เริ่มจากเปิดประตูรถยนต์ให้ครบทุกบาน จากนั้นจึงเริ่มดูดฝุ่นที่บริเวณพรม เบาะ และซอกเล็ก ๆ ภายในรถยนต์ทั้งหมด แล้วจึงนำพรมยางรถยนต์มาล้างและผึ่งลมเอาไว้ให้แห้ง

เมื่อดูดฝุ่นภายในห้องโดยสารเรียบร้อย จากนั้นจึงใช้น้ำยาทำความสะอาดเอนกประสงค์ค่อย ๆ ทำความสะอาดเบาะ พวงมาลัย รวมถึงคอนโซลรถยนต์ให้ครบทุกจุด แต่อย่าลืมศึกษาส่วนผสมและประเภทของน้ำยาที่เลือกใช้ให้ดี เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับส่วนต่าง ๆ ภายในห้องโดยสารได้


7. อย่าลืมฆ่าเชื้อโรคภายในรถยนต์

หลังจากทำตามขั้นตอนการล้างรถยนต์ทั้งหมดเรียบร้อย สำหรับใครที่ต้องการฆ่าเชื้อราในรถยนต์ หรือ ต้องการฆ่าเชื้อโควิด เพื่อความปลอดภัยของตัวเองและผู้โดยสาร อย่าลืมนำรถยนต์ไปกำจัดเชื้อโรคด้วยวิธีการที่เหมาะสม 

เช่น ใช้น้ำยาทำความสะอาดมือจับและบริเวณผิวสัมผัสของรถยนต์ทั้งหมด หรือจะเลือกเปิดระบายอากาศรถยนต์ก็ทำได้เช่นกัน หรือสำหรับใครที่พอมีงบประมาณเพียงพอก็สามารถใช้บริการอบโอโซน ล้างตู้แอร์ใหม่ พ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรค หรือ ใช้ไส้กรองอากาศที่สามารถป้องกันฝุ่น PM 2.5 และกำจัดเชื้อไวรัสได้

สิ่งที่ควรทำหลังล้างรถเสร็จ
Sunday Tips!

หลังจากล้างรถภายนอกและภายในเสร็จเรียบร้อย ขอแนะนำให้หลีกเลี่ยงการนำรถยนต์ไปตากแดด หรือ ปล่อยให้รถยนต์แห้งตามธรรมชาติ 

นอกจากจะทำให้เกิดคราบน้ำแล้ว การปล่อยให้รถยนต์แห้งยังเป็นการปล่อยให้น้ำไปเกาะตามอะไหล่ชิ้นต่าง ๆ ทำให้เสี่ยงเกิดคราบสนิม เบรกติด หรือ ล้อติดได้

ดังนั้น หลังจากล้างรถยนต์เสร็จแล้ว อย่าลืมเช็ดทุกส่วนให้แห้งสนิทเพื่อป้องกันสนิมเกาะ พร้อมนำรถยนต์ออกไปใช้งานเพื่อป้องกันอาการติดขัดที่บริเวณเบรก ช่วงล่าง หรือ ล้อรถยนต์ด้วย

การเลือกวิธี ล้างรถ ที่ถูกต้องและเหมาะสม ไม่เพียงแต่จะช่วยทำความสะอาดรถยนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ยังสามารถช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่ได้ ซึ่งมีส่วนช่วยสำคัญในการลดความเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุ และหากยิ่งมีประกันรถยนต์ที่เมคเซนส์และตอบโจทย์อย่าง Sunday ควบคู่กันไปด้วยแล้ว ก็จะยิ่งช่วยเพิ่มความอุ่นใจให้กับการขับขี่ได้มากขึ้น 


ประกันรถยนต์ Sunday คุ้มครองตลอดการเดินทาง 24 ชั่วโมง มาพร้อมบริการ Livestream Claim จบงานเคลมไวสุดใน 15 นาที เลือกปรับความคุ้มครองเองได้ตามใจ เช็กเบี้ยประกันรถยนต์ง่าย ๆ ใช้แค่วันเดือนปีเกิดและรหัสไปรษณีย์ ไม่ต้องกรอกข้อมูลติดต่อ


ซื้อประกันรถ ev
Share this article
Shareable URL
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง

ลดหย่อนภาษีด้วย “เที่ยวดี มีคืน 2568” สรุปครบในที่เดียว!

รู้ไว้ไม่พลาด! เที่ยวดี มีคืน สิทธิลดหย่อนภาษีส่งท้ายปี 2568 มาตรการ “เที่ยวดี มีคืน” คือ…
เที่ยวดีมีคืน

รู้ไว้ดีกว่า! รวมวิธีเตรียมตัวรับมือภัยพิบัติสงคราม

เตรียมตัวอย่างไรในวันที่เกิด “ภัยพิบัติสงคราม”? การเตรียมตัวรับมือภัยพิบัติสงคราม คือ…
ภัยพิบัติสงคราม
0
Share