การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์กับร่างกาย ถือเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างสุขภาพที่แข็งแรงได้ และสำคัญไม่แพ้กับการออกกำลังกายเป็นประจำ
อย่างไรก็ดี เมื่อขึ้นชื่อว่าเป็นอาหารที่มีประโยชน์ เชื่อว่าใครหลายคนมักนึกถึงอาหารคลีนที่มีการปรุงน้อยๆ และมีรสชาติที่จืดสนิท ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว อาหารที่มีประโยชน์หลายๆ ชนิดเองก็มีความกลมกล่อมไม่แพ้กับอาหารทั่วไปเลย
หากใครอยากดูแลสุขภาพให้แข็งแรง แต่ไม่มั่นใจว่าจะเลือกรับประทานอาหารอย่างไรให้ตอบโจทย์ทั้งรสชาติและประโยชน์ต่อสุขภาพ ลองมาดูไอเดียกับ 5 อาหารที่มีประโยชน์ที่นำมาฝากในบทความนี้กัน
1. ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่
“ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่” เป็นอาหารที่มีประโยชน์สูง อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ทั้งยังสามารถช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้สุขภาพได้อย่างรอบด้าน โดยผลไม้ตระกูลเบอร์รี่แต่ละสีจะมาพร้อมกับอนุมูลอิสระที่แตกต่างกันไป ทั้งยังให้ประโยชน์ต่อสุขภาพที่ไม่เหมือนกัน
เช่น Anthocyanin ที่อุดมในผลเบอร์รี่สีม่วงและน้ำเงิน สามารถช่วยลดภาวะเครียดในร่างกาย รวมไปถึงการอักเสบ การติดเชื้อ รวมถึงช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็งได้
นอกจากนี้ ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่หลายๆ ชนิดยังอุดมไปด้วย Resveratrol ที่ช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจ และ Ellagic Acid ที่ช่วยลดระดับคอลเลสเตอรอล พร้อมช่วยบำรุงผิวพรรณไปในตัว
ที่สำคัญ ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ยังมีวิตามินซีสูง ซึ่งนอกจากจะช่วยเสริมภูมิคุ้มกันในร่างกายแล้ว ยังมีส่วนช่วยในการบำรุงผิวพรรณและเสริมความแข็งแรงให้กับร่างกาย ทั้งยังอุดมไปด้วยไฟเบอร์ที่ช่วยบำรุงระบบทางเดินอาหารในร่างกายอีกด้วย
2. ปลาทะเล
นอกจากผลไม้ตระกูลเบอร์รี่แล้ว การรับประทานปลาทะเลเป็นประจำก็มีส่วนช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้สุขภาพได้เช่นกัน โดยปลาทะเลนั้นอุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่มีประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตร่างกาย พัฒนาการทางสมอง รวมไปถึงการช่วยในเรื่องของความจำและการมองเห็น ทั้งยังสามารถช่วยต้านการอักเสบในร่างกายได้อีกด้วย
นอกจากนี้ มีงานวิจัยที่ตีพิมพ์ใน International Journal of Molecular Sciences ระบุว่า กรดไขมันโอเมก้า 3 สามารถช่วยต้านการอักเสบ ลดความดันโลหิต รวมถึงลดไขมันในหลอดเลือด ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุการเกิดโรคที่เกี่ยวข้องกับหัวใจได้
ที่สำคัญ นอกจากจะเป็นอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพกายแล้ว การรับประทานปลาทะเลยังมีส่วนช่วยดูแลสุขภาพใจได้เช่นกัน จากงานวิจัยในวารสาร Integrative Medicine Research พบว่า การรับประทานปลาทะเลที่อุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 อาจมีส่วนช่วยรักษาสุขภาพใจได้ ไม่ว่าจะเป็นภาวะซึมเศร้า รวมถึงโรคอารมณ์สองขั้ว
3. ผักใบเขียว
ผักใบเขียวเป็นอีกหนึ่งอาหารที่มีประโยชน์ แต่หลายคนเลือกที่จะรับประทานน้อยมาก เนื่องจากกลิ่นที่ค่อนข้างฉุน ทั้งยังสามารถนำมาประกอบอาหารได้ไม่หลากหลายมากนัก แต่รู้หรือเปล่า? ผักใบเขียวนั้นมาพร้อมกับวิตามิน แร่ธาตุ และสารอาหารสำคัญกับร่างกายมากมาย
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ผักเคล” ที่ถือเป็นราชินีผักใบเขียวที่อุดมไปด้วยวิตามินเอสูงถึง 2900 IU วิตามินเค 80 ไมโครกรัม และวิตามินซีมากถึง 18 มิลลิกรัม ทั้งยังอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระอย่างสารเบต้าแคโรทีน (Betacarotene) ลูทีน (Lutein) และซีแซนทีน (Zeaxanthin) ที่ช่วยลดการอักเสบ เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน การซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ทั้งยังช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบต่างๆ ภายในร่างกายอีกด้วย
แต่นอกจากผักเคลแล้ว เรายังสามารถรับประทานผักใบเขียวหลายๆ ชนิด เพื่อรับคุณประโยชน์ได้หลากหลายและเต็มที่มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นคะน้าใบเขียว ปวยเล้ง บ็อกฉ่อย วอเตอร์เครส ไปจนถึงกะหล่ำปลีที่เป็นเครื่องเคียงในเมนูต่างๆ
ในปัจจุบันนี้ กระทรวงสาธารณสุขของไทยแนะนำให้คนไทยรับประทานผักและผลไม้ให้ได้ 400 กรัมต่อวัน ซึ่งการรับประทานผักและผลไม้ในปริมาณนี้สามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่างๆ ได้ โดยหากยิ่งรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ร่วมกับการออกกำลังกายด้วยแล้วก็จะยิ่งช่วยเสริมสร้างสุขภาพที่แข็งแรงได้อย่างรอบด้านมากยิ่งขึ้น
4. พืชตระกูลถั่ว
แม้จะมีขนาดเล็กจิ๋ว แต่ “ถั่ว” ถือเป็นอีกหนึ่งอาหารที่มีประโยชน์อัดแน่นที่หลายคนไม่ควรมองข้าม ซึ่งนอกจากจะอุดมด้วยโปรตีนที่สามารถทดแทนการรับประทานเนื้อสัตว์ได้แล้ว ถั่วยังอุดมไปด้วยวิตามิน B6 และโฟเลตที่ช่วยในการลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจได้อีกด้วย
นอกจากนี้ ถั่วยังมีส่วนช่วยลดไขมันที่ไม่ดี หรือ LDL ที่ทำให้หลอดเลือดอักเสบและมีอุดตันได้ ซึ่งตัวถั่วหลายๆ ชนิดจะมาพร้อมกับไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำได้ที่เป็นส่วนช่วยขจัดคราบไขมันในหลอดเลือด ตลอดจนช่วยเพิ่มไขมันดีให้กับร่างกาย
ที่สำคัญ ถั่วยังอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระจำนวนมาก ที่ช่วยต้านทั้งริ้วรอย ความอักเสบ ทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งอีกด้วย โดยจากการศึกษาใน The Journal of Cancer Research พบว่า ผู้หญิงที่รับประทานถั่วมีอัตราการเกิดเนื้องอกในลำไส้น้อยกว่า เมื่อเทียบกับคนที่ไม่ค่อยรับประทานถั่ว เนื่องจากถั่วมีสารซาโปนิน (Saponins) ที่ช่วยชะลอการเติบโตของเนื้องอกและขัดขวางการเกิดของเซลล์มะเร็งได้
5. มิโซะ
“เต้าเจี้ยวญี่ปุ่น” หรือ “มิโซะ” เป็นหนึ่งในส่วนผสมสำคัญที่ใช้ในอาหารญี่ปุ่นหลายเมนู ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยชาวญี่ปุ่นดูแลสุขภาพมาอย่างยาวนาน
โดย “มิโซะ” ทำมาจาก 3 ส่วนผสมหลัก คือ ถั่วเหลือง ข้าวหรือข้าวสาลี จากนั้นนำไปหมักกับโคจิ ซึ่งเป็นหัวเชื้อที่ได้จากการหมักถั่วเหลือง อย่างไรก็ดี ผู้ผลิตแต่ละแห่งเองก็มีสูตรในการปรุงมิโซะที่แตกต่างกัน ทำให้แต่ละแหล่งมีมิโซะที่รสชาติไม่เหมือนกันด้วย
ขึ้นชื่อว่าเป็นอาหารหมักดอง แน่นอนว่ามิโซะเองก็อุดมไปด้วยโพรไบโอติกส์ที่ช่วยปรับสมดุลระบบทางเดินอาหารให้แข็งแรง ซึ่งนอกจากจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคในระบบทางเดินอาหารแล้ว ยังสามารถช่วยปรับสมดุลร่างกายได้อย่างรอบด้านตามหลักการของ Gut Microbiome ที่เชื่อว่า หากสุขภาพในลำไส้ดี อุดมไปด้วยแบคทีเรียที่ดี ย่อมส่งผลให้สุขภาพรอบด้านดีตามไปด้วย
นอกจากจะช่วยในเรื่องของการปรับสมดุลร่างกายแล้ว โพรไบโอติกส์ในมิโซะยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ซึ่งสามารถช่วยป้องกันอาการเจ็บป่วย ทั้งยังมีส่วนช่วยฟื้นตัวจากการอักเสบและการเจ็บป่วยได้อีกด้วย
เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 5 ลิสต์อาหารที่มีประโยชน์ที่นำมาฝากในวันนี้ หวังว่าจะช่วยเป็นไอเดียที่ช่วยให้ใครหลายคนเลือกอาหารที่ดีต่อสุขภาพและช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับร่างกายได้
ปวดหัว เหนื่อยง่าย หายใจลำบาก อาจเป็นสัญญาณของโรคความดัน
นอกจากจะมองหาอาหารที่มีประโยชน์เพื่อดูแลสุขภาพให้แข็งแรงแล้ว การมองหาประกันสุขภาพดีๆ ก็สามารถช่วยเพิ่มความอุ่นใจให้กับการดูแลสุขภาพได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งค่าใช้จ่ายที่มาจากการรักษาพยาบาลเนื่องจากการเจ็บป่วย
ซันเดย์ มาพร้อมกับประกันสุขภาพหลากหลายแผนให้คุณได้เลือก คุ้มครองครบตั้งแต่การรักษาตัวที่ต้องนอนโรงพยาบาล การพบแพทย์เพื่อนำยากลับมารักษาตัวต่อ หรือ แม้แต่การปรึกษาแพทย์และเภสัชกรออนไลน์ หรือ การรับยาที่ร้านขายยาในเครือข่าย ก็รับความคุ้มครองได้ โดยไม่ต้องสำรองจ่าย เช็กเบี้ยประกันสุขภาพที่เหมาะกับตัวเองได้ง่ายๆ ใช้แค่ “วันเดือนปีเกิดของคุณ” เท่านั้น