“การเลือกซื้อประกันสุขภาพที่ตอบโจทย์ ต้องเริ่มดูที่ตรงไหน” เชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งคำถามที่ใครหลายคนสงสัยอยู่ไม่น้อยเมื่อชีวิตจำเป็นต้องเริ่มบริหารความเสี่ยงด้วยการซื้อประกันสุขภาพสักกรมธรรม์
ไม่เพียงแต่จะต้องรู้จักว่าประกันสุขภาพมีกี่แบบ ไปจนถึงการเสาะหาคำตอบให้กับคำถามที่ว่าประกันสุขภาพที่ไหนดีเท่านั้น แต่การเลือกซื้อประกันสุขภาพที่ตอบโจทย์ยังต้องอาศัยความเข้าใจอย่างรอบด้าน จนสามารถเปรียบเทียบประกันสุขภาพแต่ละกรมธรรม์ได้ด้วยตัวเองเช่นกัน
มาปูพื้นฐานสู่การเลือกซื้อประกันสุขภาพที่ตอบโจทย์กับ 3 ประเด็นสำคัญที่นำมาฝากในบทความนี้ เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจเหตุและผลของการซื้อประกันสุขภาพ ไปจนถึงวิธีเลือกประกันสุขภาพที่เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุดกัน
ประเด็นที่ 1: ประกันสุขภาพจำเป็นแค่ไหน?
จุดประสงค์ของการทำประกันสุขภาพ คือ การมองหาตัวช่วยบริหารความเสี่ยงค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่คาดเดาได้ยาก เพราะในบางครั้งอาการเจ็บป่วยเพียงเล็กน้อยก็สามารถลุกลามกลายเป็นโรคร้ายที่มีค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่สูงได้
จุดประสงค์ของการทำประกันสุขภาพในจุดนี้เป็นเรื่องที่หลายคนทราบ ไม่ว่าจะอ่านบทความจากที่ไหนก็ล้วนเน้นย้ำถึงความบริหารความเสี่ยงของการทำประกันสุขภาพอยู่แล้ว แต่เชื่อว่าคนจำนวนไม่น้อยเช่นกันที่สงสัยเหมือนกันว่า ประกันสุขภาพยังจำเป็นอยู่หรือไม่หากดูแลสุขภาพเพียงพอ หรือ จะมีโอกาสเสี่ยงที่โรคร้ายจะเกิดขึ้นกับตัวเราแค่ไหนกันเชียว
คำตอบของคำถามเหล่านี้คงจำกัดอยู่ที่ ‘ความไม่แน่นอนของอนาคต’ ที่มาพร้อมกับ ‘ความเสี่ยงที่มองไม่เห็น’
ดังนั้น ความจำเป็นของการทำประกันสุขภาพจึงไม่ได้อยู่ที่การเข้าใจจุดประสงค์การทำประกันสุขภาพเพียงอย่างเดียว แต่อยู่ที่ความพร้อมของตัวเองในการรับมือกับ ‘ความเสี่ยงด้านสุขภาพที่มาพร้อมกับอนาคตที่ไม่แน่นอน’
สำหรับใครที่ไม่มั่นใจว่าจะซื้อประกันสุขภาพที่ไหนดี หรือ ยังรู้สึกสองจิตสองใจถึงความจำเป็นของประกันสุขภาพ ขอแนะนำให้ลองถามตัวเองถึง ‘ความพร้อม’ ต่อ ‘การรับมือความเสี่ยงในอนาคต’ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความพร้อมด้านการเงินที่เพียงพอต่อการรักษาพยาบาล
ประเด็นที่ 2 : การเลือกซื้อประกันสุขภาพจำเป็นต้องเข้าใจอะไรบ้าง?
หลังจากที่พิจารณาถึงความจำเป็นของประกันสุขภาพของตนเองเรียบร้อย ในส่วนนี้ลองมาดูวิธีเลือกประกันสุขภาพที่เหมาะสมกับตัวเองกัน
หลาย ๆ คนมักเคยได้ยินว่า หากไม่แน่ใจว่าประกันสุขภาพที่ไหนดี ให้ลองนำกรมธรรม์มาเปรียบเทียบกันดู แล้วให้เลือกอันที่รู้สึกว่าเข้ากับไลฟ์สไตล์ หรือ สอดคล้องกับสภาพคล่องทางการเงินของตัวเองมากที่สุด
แต่ในความเป็นจริงแล้ว การเปรียบเทียบประกันสุขภาพที่เหมาะสม นอกจากจะดูถึงงบประมาณที่ตนเองมีแล้ว ยังควรพิจารณาไปถึงความคุ้มครองที่จะได้รับในหลากหลายส่วน จากนั้นจึงเลือกความคุ้มครองที่เมคเซนส์ในเบี้ยประกันที่เหมาะสม
สำหรับใครที่เป็นมือใหม่หัดซื้อประกันสุขภาพ หรือ เป็นคนที่ต้องดูแลผู้สูงอายุ แต่ยังสงสัยว่าควรจะซื้อประกันสุขภาพพ่อแม่ที่ไหนดีถึงจะคุ้มครองครบถ้วน ลองมาจับจุดการเลือกซื้อประกันสุขภาพที่คุ้มค่ากับ 2 เรื่องที่ต้องเข้าใจ ดังนี้
1. วิธีเลือกเบี้ยประกันสุขภาพที่เหมาะสม
ประกันสุขภาพส่วนใหญ่ให้ความคุ้มครองแบบปีต่อปี โดยผู้เอาประกันจะต้องส่งเบี้ยประกันตามเงื่อนไขที่กำหนด เช่น รายเดือน รายปี หรือ ตามที่ตกลงกับบริษัทประกันภัย ซึ่งเบี้ยประกันสุขภาพนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงไปตามความเสี่ยงของผู้เอาประกันที่เปลี่ยนไป
เช่น ผู้เอาประกันมีอายุเพิ่มขึ้น ไลฟ์สไตล์ การประกอบอาชีพที่มีความเสี่ยงสูง หรือ มีโรคภัยไข้เจ็บที่จำเป็นต้องใช้การรักษาพิเศษที่มีค่ารักษาพยาบาลสูง
ด้วยเหตุนี้ วิธีเลือกเบี้ยประกันสุขภาพที่เหมาะสมจึงขึ้นอยู่กับ 2 ปัจจัยหลัก คือ ‘ความเสี่ยงด้านสุขภาพที่เปลี่ยนไป’ และ ‘ความสามารถในการชำระเบี้ยประกันตามเงื่อนไขที่บริษัทประกันภัยกำหนด’
โดยเบื้องต้น ประกันสุขภาพควรมีเบี้ยประกันสูงสุดไม่เกิน 20% ของรายได้รวมทั้งปีเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องทางการเงินมากจนเกินไป โดย 20% นี้จะเป็นค่าใช้จ่ายทั้งหมดของเบี้ยประกันสุขภาพทั้งหมดรวมกัน
เช่น หากมีรายได้ 30,000 บาทต่อเดือน ตลอดทั้งปีจะมีรายได้รวมอยู่ที่ 360,000 บาท ดังนั้น เบี้ยประกันสุขภาพรวมกัน ไม่ว่าจะเป็นของตัวเอง พ่อแม่ หรือ ของลูกที่ร่วมรับผิดชอบกับคู่ชีวิต จึงไม่ควรเกิน 72,000 บาท
อย่างไรก็ดี เบี้ยประกันสุขภาพยังไม่ควรส่งผลกระทบต่อรายจ่ายจำเป็นส่วนอื่น ภาระหนี้สิน รวมถึงเงินเก็บสำหรับเป้าหมายชีวิต หรือ เป้าหมายทางการเงินอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน ทั้งนี้เพื่อสร้างความสมดุลให้กับการใช้ชีวิตของตัวเองด้วย
ดังนั้น หากคำนวณแล้วว่า 20% ของรายได้ทั้งหมดเป็นจำนวนเงินที่มากเกินไปก็สามารถปรับลดเบี้ยประกันสุขภาพที่เหมาะสมมาอยู่ที่ 10% – 15% ของรายได้ทั้งหมดทั้งปีได้ หรือจากตัวอย่างเดิมคิดเป็น 36,000 บาท – 54,000 บาทนั่นเอง
2. คำศัพท์ประกันสุขภาพเบื้องต้นที่ต้องรู้
การเข้าคำศัพท์ประกันสุขภาพ ไม่เพียงแต่จะช่วยให้เลือกความคุ้มครองที่เหมาะสมเท่านั้น แต่ยังช่วยให้เข้าใจว่า การซื้อประกันสุขภาพสักกรมธรรม์สามารถช่วยบริหารความเสี่ยงด้านค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลส่วนไหนในราคาเท่าไหร่บ้าง
โดยพื้นฐานแล้ว วิธีเลือกประกันสุขภาพเบื้องต้นควรทำความเข้าใจศัพท์ประกันทั้งหมด ดังนี้
คำศัพท์ | ความหมาย |
ค่าใช้จ่ายส่วนแรก (Deductible) | ค่าใช้จ่ายที่ผู้ซื้อประกันจะต้องรับผิดชอบเบื้องต้น จากนั้นจึงให้บริษัทประกันรับผิดชอบในส่วนที่เหลือของค่าใช้จ่ายทั้งหมด เช่น หากซื้อประกันสุขภาพแบบมีค่าใช้จ่ายส่วนแรก 20,000 บาท แต่มีค่ารักษาพยาบาล 60,000 บาท เท่ากับว่าบริษัทประกันจะรับผิดชอบอยู่ที่ 60,000 – 20,000 = 40,000 บาท ส่วนอีก 20,000 บาท ผู้เอาประกันจะต้องรับผิดชอบเอง 20,000 บาทในส่วนนี้อาจจะนำไปเบิกกับประกันสุขภาพ หรือ สวัสดิการอื่น ๆ ได้ตามเงื่อนไขที่กำหนด |
ชดเชยรายวัน | ชดเชยรายวัน หรือ ชดเชยรายได้ เป็นค่าชดเชยรายได้ที่บริษัทประกันจะรับผิดชอบในกรณีที่ต้องเข้ารักษาตัวเป็นผู้ป่วยใน (IPD) ในโรงพยาบาล บางกรมธรรม์อาจมีเงื่อนไขชดเชยรายวัน หรือ ชดเชยรายได้ ในขณะที่บางกรมธรรม์อาจไม่ได้คุ้มครองในส่วนนี้ |
เบี้ยประกันสุขภาพ | จำนวนเงินที่จ่ายให้กับบริษัทประกันเพื่อรับความคุ้มครอง เงื่อนไขการชำระเบี้ยประกันสุขภาพจะแตกต่างกันไปตามที่บริษัทประกันกำหนด เช่น อาจแบ่งเป็นรายเดือน หรือ รายปี |
ทุนประกัน หรือ จำนวนเงินเอาประกันภัย | จำนวนเงินสูงสุดที่จะได้รับในกรณีที่เป็นตามสัญญา เช่น ได้เงินชดเชยเมื่อเสียชีวิต ทุพพลภาพ หรือ สูญเสียอวัยวะ |
ค่าห้อง | ค่าห้องพักต่อคืนเมื่อต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล สามารถแบ่งได้เป็นค่าห้อง ค่าพยาบาล ค่าอาหาร และ ค่าการดูแลพิเศษอื่น ๆ ดังนั้น ผู้เอาประกันต้องเช็กเอกสารแนบท้ายให้ครบถ้วนว่า ค่าห้องในประกันสุขภาพครอบคลุมค่าใช้จ่ายในส่วนไหนบ้าง |
IPD – In Patient Department | การรักษาแบบผู้ป่วยใน เฉพาะกรณีที่แพทย์ลงความเห็นให้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลนานเกินกว่า 6 ชั่วโมงขึ้นไปเท่านั้น |
OPD – In Patient Department | การรักษาพยาบาลแบบผู้ป่วยนอก แพทย์ไม่ได้มีความเห็นให้นอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล เช่น ป่วย มาหาหมอ แล้วรับยากลับบ้าน จัดอยู่ในกลุ่มการรักษาพยาบาลแบบ OPD |
เวชภัณฑ์ | อุปกรณ์ที่ใช้สำหรับการรักษา มักพบเห็นได้ในบิลการรักษาพยาบาล ประกอบไปด้วย เวชภัณฑ์ 1 คือ วัสดุสำหรับการรักษาแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง เวชภัณฑ์ 2 คือ อุปกรณ์ใช้เพื่อช่วยในชีวิตประจำวัน ไม่ได้ใช้เพื่อการรักษา ความคุ้มครองด้านค่าใช้จ่ายเวชภัณฑ์จะแตกต่างกันไปตามเงื่อนไขของบริษัทประกันภัยแต่ละแห่ง ผู้เอาประกันจะต้องศึกษาเอกสารแนบท้ายให้ครบถ้วน |
ระยะเวลาเอาประกันภัย | ระยะเวลาที่ตกลงทำประกัน เช่น 1 ปี 10 ปี หรือ ตามที่กำหนดในกรมธรรม์ |
ระยะรอคอย | ระยะเวลาที่ยังเคลมประกันไม่ได้ เริ่มตั้งแต่ 14 วัน 30 วัน 90 วัน หรือ 120 วัน ขึ้นอยู่กับประเภทของประกันสุขภาพที่เลือกทำ |
ระยะผ่อนผัน | ระยะเวลาที่บริษัทประกันอนุญาตให้ชำระเบี้ยประกันล่าช้าได้ ส่วนใหญ่มักนับจากวันครบกำหนดชำระ 30 – 60 วัน ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของบริษัทประกันภัยแต่ละแห่ง |
เอกสารแนบท้าย | เอกสารแนบท้ายกรมธรรม์ที่จะบอกข้อกำหนดการทำประกันสุขภาพอย่างละเอียด เช่น กรณีไหนต้องได้คุ้มครองแบบใด ได้เงินชดเชยเท่าไหร่ |
สินไหม | หรือ ค่าสินไหมทดแทน เป็นการตกลงชดเชยเงิน หรือ สิ่งของ ทดแทนความเสียหายที่สามารถคำนวณได้ โดยบริษัทประกันจะจ่ายให้ตามค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจริงเท่านั้น การคำนวณและพิจารณาค่าสินไหมจะเป็นไปตามที่บริษัทประกันกำหนด |
ประเด็นที่ 3 : เข้าใจข้อยกเว้นประกันสุขภาพ
นอกจากข้อยกเว้นประกันสุขภาพทั่วไปในเรื่องของโรคที่เป็นมาก่อนการรับประกัน ไปจนถึงโรคและภาวะที่จะไม่ได้รับความคุ้มครองแล้ว ผู้เอาประกันยังควรทำความเข้าใจถึงเงื่อนไขความคุ้มครองของประกันสุขภาพ เพื่อป้องกันประเด็นข้อพิพาทที่อาจตามมาในอนาคต
เช่น เงื่อนไขความคุ้มครองการเจ็บป่วยในช่วงระยะเวลารอคอย การรักษาที่เกินจำเป็นจนทำให้ไม่สามารถเบิกเคลมค่ารักษาพยาบาลได้ ไปจนถึงการเจ็บป่วยด้วยสาเหตุ หรือ โรคที่อยู่นอกเหนือความคุ้มครอง
ตัวอย่างข้อยกเว้นประกันสุขภาพเบื้องต้น
หากนาย A ดื่มสุราจนเกิดอุบัติเหตุตกบันไดขาหัก จะไม่สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลในส่วนนี้ได้ หรือ หากนาย B เข้ารับการศัลยกรรมแล้วเกิดภาวะแทรกซ้อน จะไม่สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลในส่วนนี้ได้เช่นกัน
ทั้งนี้ ข้อยกเว้นประกันสุขภาพจะแตกต่างกันไปตามเงื่อนไขของบริษัทประกันภัยแต่ละแห่ง ดังนั้น ก่อนตัดสินใจทำประกันสุขภาพที่ไหนดีก็ตาม ผู้เอาประกันควรศึกษาได้ที่เอกสารแนบท้าย หรือ สอบถามไปยังบริษัทประกันภัยที่สนใจโดยตรงทุกครั้ง
เลือกประกันสุขภาพที่ไหนดี เลือกประกันสุขภาพออนไลน์ Sunday ดีกว่า!
การเลือกซื้อประกันสุขภาพให้ตอบโจทย์ความต้องการ จำเป็นต้องพิจารณาจากหลายปัจจัย
หลังจากที่เข้าใจวิธีเลือกเบี้ยประกันสุขภาพ ตลอดจนมีพื้นฐานด้านคำศัพท์ประกันสุขภาพที่จะช่วยให้เปรียบเทียบความคุ้มครองของประกันสุขภาพในกรณีต่าง ๆ ได้เบื้องต้นแล้ว จะดีกว่าไหม? หากได้ลองนำความเข้าใจในบทความนี้ไปปรับใช้ในการเปรียบเทียบประกันสุขภาพจริง
ประกันสุขภาพออนไลน์ Sunday ครบครันทุกความต้องการด้านประกันสุขภาพ เปรียบเทียบประกันสุขภาพที่เหมาะสมกับคุณและคนที่รักได้ง่าย ๆ เพียงใส่ ‘วันเดือนปีเกิด’ และ ‘ตอบคำถามสุขภาพไม่กี่คลิก’ ก็รับความคุ้มครองที่เมคเซนส์ในเบี้ยประกันที่เหมาะสมทันที
หากเปรียบเทียบประกันสุขภาพออนไลน์ดูแล้ว แต่ยังไม่แน่ใจจะเลือกประกันสุขภาพกรมธรรม์ไหนดี แอดไลน์ : @easysunday (มี @ ด้วย) แล้วรับคำปรึกษาฟรี ไม่ต้องกรอกข้อมูลติดต่อก็รู้ประกันสุขภาพที่เหมาะสมได้ง่าย ๆ